แจ้งเอกสารไม่ครบถ้วน, ไม่ตรงกับชื่อเรื่อง หรือมีข้อผิดพลาดเกี่ยวกับเอกสาร ติดต่อที่นี่ ==>
หากไม่มีอีเมลผู้รับให้กรอก thailis-noc@uni.net.th ติดต่อเจ้าหน้าที่เจ้าของเอกสาร กรณีเอกสารไม่ครบหรือไม่ตรง

การพ่นเคลือบไฮดร็อกซี่อปาไทท์ด้วยเปลวพลาสมาสำหรับงานการแพทย์
Plasma Spray Coating of Hydroxyapatite for Medical Applications

Organization : มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี. คณะพลังงานและวัสดุ. สาขาวิชาเทคโนโลยีวัสดุ

Organization : King Mongkut's University of Technology Thonburi. School of Energy and Materials. Materials Technology
keyword: การพ่นเคลือบด้วยเปลวพลาสมา
; ไฮดร็อกซี่อปาไทท์
; การแพทย์
; Plasma Spraying
; Hydroxyapatite
; Medical Applications
Abstract: ประโยชน์ของการพ่นเคลือบไฮดร็อกซี่อปาไทท์ด้วยเปลวพลาสมาคือผิวเคลือบที่ได้จะมี การยึดเกาะกับกระดูกได้อย่างรวดเร็วและคงอยู่ได้เป็นเวลานานโดยไม่เป็นพิษ นอกจากนี้การ พ่นเคลือบด้วยเปลวพลาสมายังทำให้สามารถสร้างผิวเคลือบได้ง่ายและรวดเร็ว อย่างไรก็ตามการ ใช้เทคนิคดังกล่าวยังมีปัญหาอยู่หลายประการ เช่น การยึดเกาะระหว่างผิวเคลือบกับชิ้นงานที่เป็น โลหะมีค่าค่อนข้างต่ำ และความสัมพันธ์ระหว่างพารามิเตอร์ที่ใช้ในการพ่นเคลือบกับผลทาง โครงสร้างและคุณสมบัติของผิวเคลือบยังไม่เป็นที่เข้าใจมากนักในปัจจุบัน งานวิจัยนี้มี วัตถุประสงค์เพื่อศึกษาอิทธิพลของพารามิเตอร์ที่ใช้ในการพ่นเคลือบต่อโครงสร้างและคุณสมบัติ ทางกลของผิวเคลือบรวมทั้งอิทธิพลของการเตรียมผิวชิ้นงานต่อความแข็งแรงในการยึดเกาะของ ผิวเคลือบ โดยพารามิเตอร์ของการพ่นเคลือบได้ศึกษาอิทธิพลของอัตราการไหลของก๊าซ ไฮโดรเจนที่ 2, 3 และ 4 ลูกบาศก์ฟุตต่อชั่วโมง และอัตราการไหลของผงที่ 25-30, 40-45 และ 75-80 กรัมต่อนาที จากนั้นจะตรวจสอบผลต่อโครงสร้าง ความหนา ความแข็ง และการเปลี่ยนเฟส ในการศึกาาอิทธิพลการเตรียมผิวชิ้นงานต่อความแข็งแรงในการยึดเกาะของผิงเคลือบได้ทำการ แปรค่าความหยาบผิวใน 3 ช่วงคือ 1.5-2.0, 4.5-5.0 และ 10.0-12.0 ไมครอน โดยการยิงผิวด้วย เม็ดกริตอลูมินาและเม็ดกริตเหล็กกล้า นอกจากนี้ยังได้เปรียบเทียบค่าการยึดเกาะระหว่างชิ้นงาน เหล็กกล้าไร้สนิมที่ถูกทำ/ไม่ทำ passivation และทำ/ไม่ทำ preheat ชิ้นงานก่อนการพ่นเคลือบ และ เปรียบเทียบค่าการยึดเกาะที่ได้จากชิ้นงานเหล็กกล้าไร้สนิมกับชิ้นงานโลหะผสมไทเทเนียม ผลการทดลองพบว่าเมื่ออัตราการไหลของก๊าซไฮโดรเจนสูงขึ้นอนุภาคผงไฮดร็อกซี่ อปาไทท์จะมีการหลอมตัวได้ดีขึ้นโดยพบว่ผิวเคลือบมีค่าความแข็งโดยเฉลี่ยสูงขึ้นและปริมาณ รูพรุนในผิวเคลือบลดลงโดยมีค่าเป็น 25-40, 20-35 และ 10-15 เปอร์เซนต์ที่อัตราการไหลของ ก๊าซไฮโดรเจน 2, 3 และ 4 ลูกบาศก์ฟุตต่อชั่วโมงตามลำดับ นอกจากนี้พบว่าที่อัตราการไหลของ ก๊าซไฮโดรเจน 3 ลูกบาศก์ฟุตต่อชั่วโมง ผิวเคลือบมีความหนามากที่สุดคืออยู่ในช่วง 300-600 ไมครอน ผลการตรวจสอบเฟสด้วยรังสีเอ็กซ์พบว่าในสภาวะที่ทำการทดลองไม่ทำให้เฟสของ ไฮดร็อกซี่อปาไทท์มีการเปลี่ยนแปลงโดยจะพบเพียง line-broadening เพิ่มขึ้นเท่านั้น ผลการศึกษา การเตรียมผิวชิ้นงานพบว่าชิ้นงานที่มีค่าความหยาบผิวมากที่สุดจะให้ค่าความแข็งแรงในการ ยึดเกาะของผิวเคลือบสูงที่สุดเมื่อใช้เม็ดกริตชนิดเดียวกันในการเตรียมผิวหยาบ และการเตรียม ผิวหยาบด้วยเม็ดกริตอลูมินาจะให้ค่าความแข็งแรงในการยึดเกาะสูงกว่าการเตรียมผิวหยาบด้วย เม็ดกริตเหล็กกล้า โดยในการทดลองนี้พบว่าค่าความหยาบผิวที่เตรียมได้มากที่สุดจากเม็ดกริต อลูมินาคือ 4.5-5.0 ไมครอน มีค่าความแข็งแรงในการยึดเกาะระหว่างผิวเคลือบกับชิ้นงาน เหล็กกล้าไร้สนิมโดยเฉลี่ยประมาณ 31.4 เมกกะปาสคาล และมีลักษณะการขาดเกิดขึ้นที่กาวทั้ง หมด ขณะที่เมื่อใช้ชิ้นงานโลหะผสมไทเทเนียมเป็น substarte โดยทำการเตรียมผิวแบบเดียวกัน พบว่ามีค่าความแข็งแรงในการยึดเกาะโดยเฉลี่ยประมาณ 31.4 เมกกะปาสคาล และมีลักษณะการ ขาดเกิดขึ้นที่บริเวณรอยต่อระหว่างผิวเคลือบกับชิ้นงานประมาณ 92 เปอร์เซนต์ ผลจากการ เปรียบเทียบการทำ/ไม่ทำ passivation พบว่าชิ้นงานเหล็กกล้าไร้สนิมที่ถูกทำ passivation จะใหค่า ความแข็งแรงในการยึดเกาะของผิวเคลือบเพิ่มมากขึ้นจาก 14.3 เมกกะปาสคาล โดยมีลักษณะการ ขาดเกิดขึ้นที่บริเวณรอยต่อระหว่างผิวเคลือบกับชิ้นงานประมาณ 79 เปอร์เซนต์ เป็น 31.4 เมกกะ ปาสคาล และมีลักษณะการขาดเกิดขึ้นที่การทั้งหมด ผลเปรียบเทียบการทำไม่ทำ preheat ให้กับ ชิ้นงานพบว่า ชิ้นงานเหล็กกล้าไร้สนิมที่ถูกทำ preheat จะทำให้ค่าความแข็งแรงในการยึดเกาะ ของผิวเคลือบลดลงจาก 31.4 เมกกะปาสคาล โดยมีลักษณะการขาดเกิดขึ้นที่กาวทั้งหมดเป็น 14.9 เมกกะปาสคาล และมีลักษณะการขาดเกิดขึ้นที่บริเวณรอยต่อระหว่างผิวเคลือบกับชิ้นงาน ประมาณ 82 เปอร์เซนต์
Abstract: The advantages of plasma sprayed hydroxyapatite coating of medical implants are rapid adhesion of the implants onto the bone with long term biocompatibility. In addition, plasma spraying techniques are the most convenient methods to easily and rapidly produce such coatings. However, there are some inherent problems such as weak bond strength between coatings and metal substrates. Moreover, the relationship between spray parameters and the resulting structures and properties are not well understood at present. The aim of this research is to study the effect of spray parameters on the structures and mechanical properties of the coatings. The parameters of the coatings studied include the effect of hydrogen flow rate at 2, 3 and 4 fe/hr and the powder feed rate at 25-30, 40-45 and 75-80 g/min. The influences of surface preparation techniques as well as surface roughness in the range 1.5-2.0, 4.5-5.0 and 10.0-12.0 um were also studied together with the influences ofpassivation treatment and preheating of substrates. The results showed that hydroxyapatite powder melt more easily when hydrogen flow rate was increased. This is evident from higher average hardness and 3 lower porosities III the coatings. At hydrogen flow rate of 3 ft3/hr, maxImum thickness was achieved in the range between 300 to 600 um. X-ray diffraction analysis showed that the phase of hydroxyapatite remained unchanged under our experimental conditions, only slight line-broadening was found. The results also showed that increasing surface roughness yielded higher bond strength. Surface preparation using alumina grit showed higher bond strength than those using steel grits at the same roughness. In this experiment, it was found that the highest bond strength of 31.4 MPa 'was achieved when the stainless steel surface was grit blasted using alumina to 4.5-5.0 um. Passivation of stainless steel substrate resulted in icrease in bond strength significantly from about 14.3 MPa for the non-passivated samples to about 31.4 MPa. Preheating of substrate led to lower bond strength.
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
Address: กรุงเทพมหานคร
Email: info.lib@mail.kmutt.ac.th
Role: อาจารย์ที่ปรึกษา
Role: Advisor
Created: 2540
Modified: 2554-12-09
Issued: 2551-12-18
วิทยานิพนธ์/Thesis
application/pdf
ISBN: 9746241621
CallNumber: MT37
tha
©copyrights มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
RightsAccess:
ลำดับที่.ชื่อแฟ้มข้อมูล ขนาดแฟ้มข้อมูลจำนวนเข้าถึง วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1 MT37.pdf 2.43 MB112 2025-04-08 11:14:59
2 MT37ab.pdf 41.16 KB34 2019-07-05 09:41:16
3 MT37abth.txt 3.62 KB24 2018-05-10 20:18:51
4 MT37aben.txt 2.37 KB17 2018-11-29 12:08:31
ใช้เวลา
0.035319 วินาที

เอกฉัตร กิจพานิชวิเศษ
Title Contributor Type
การพ่นเคลือบไฮดร็อกซี่อปาไทท์ด้วยเปลวพลาสมาสำหรับงานการแพทย์
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
เอกฉัตร กิจพานิชวิเศษ;Aekgachart Kidpanidchavisase
ปัญญา ศรีจันทร์
Panya Srichandr
วิทยานิพนธ์/Thesis
Aekgachart Kidpanidchavisase
Title Contributor Type
การพ่นเคลือบไฮดร็อกซี่อปาไทท์ด้วยเปลวพลาสมาสำหรับงานการแพทย์
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
เอกฉัตร กิจพานิชวิเศษ;Aekgachart Kidpanidchavisase
ปัญญา ศรีจันทร์
Panya Srichandr
วิทยานิพนธ์/Thesis
ปัญญา ศรีจันทร์
Title Creator Type and Date Create
การพ่นเคลือบไฮดร็อกซี่อปาไทท์ด้วยเปลวพลาสมาสำหรับงานการแพทย์
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
ปัญญา ศรีจันทร์;Panya Srichandr
เอกฉัตร กิจพานิชวิเศษ
Aekgachart Kidpanidchavisase
วิทยานิพนธ์/Thesis
อิทธิพลของโครงสร้างบริเวณรอยเชื่อมและประวัติการใช้งานต่อคุณสมบัติของถังก๊าซ
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
ปัญญา ศรีจันทร์
สมชาย ผลสุวรรณ
วิทยานิพนธ์/Thesis
Panya Srichandr
Title Creator Type and Date Create
การพ่นเคลือบไฮดร็อกซี่อปาไทท์ด้วยเปลวพลาสมาสำหรับงานการแพทย์
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
ปัญญา ศรีจันทร์;Panya Srichandr
เอกฉัตร กิจพานิชวิเศษ
Aekgachart Kidpanidchavisase
วิทยานิพนธ์/Thesis
Copyright 2000 - 2025 ThaiLIS Digital Collection Working Group. All rights reserved.
ThaiLIS is Thailand Library Integrated System
สนับสนุนโดย สำนักงานบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อพัฒนาการศึกษา
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
328 ถ.ศรีอยุธยา แขวง ทุ่งพญาไท เขต ราชเทวี กรุงเทพ 10400 โทร. โทร. 02-232-4000
กำลัง ออน์ไลน์
ภายในเครือข่าย ThaiLIS จำนวน 18
ภายนอกเครือข่าย ThaiLIS จำนวน 2,313
รวม 2,331 คน

More info..
นอก ThaiLIS = 109,002 ครั้ง
มหาวิทยาลัยสังกัดทบวงเดิม = 94 ครั้ง
มหาวิทยาลัยราชภัฏ = 18 ครั้ง
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล = 3 ครั้ง
มหาวิทยาลัยสงฆ์ = 2 ครั้ง
หน่วยงานอื่น = 1 ครั้ง
สถาบันพระบรมราชชนก = 1 ครั้ง
รวม 109,121 ครั้ง
Database server :
Version 2.5 Last update 1-06-2018
Power By SUSE PHP MySQL IndexData Mambo Bootstrap
มีปัญหาในการใช้งานติดต่อผ่านระบบ UniNetHelp


Server : 8.199.134
Client : Not ThaiLIS Member
From IP : 216.73.216.104