แจ้งเอกสารไม่ครบถ้วน, ไม่ตรงกับชื่อเรื่อง หรือมีข้อผิดพลาดเกี่ยวกับเอกสาร ติดต่อที่นี่ ==>
หากไม่มีอีเมลผู้รับให้กรอก thailis-noc@uni.net.th ติดต่อเจ้าหน้าที่เจ้าของเอกสาร กรณีเอกสารไม่ครบหรือไม่ตรง

การพัฒนารูปแบบการสอนอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจสำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา แม่ฮ่องสอน เขต 2
Development of an English reading comprehension instructional model for Grade 8 students under Maehongson Primary educational service area office 2

keyword: หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551
ThaSH: ภาษาอังกฤษ -- การศึกษาและการสอน
Classification :.DDC: 372.6
Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนารูปแบบการสอน 2) ศึกษาปัจจัยเชิงสาเหตุ และพัฒนารูปแบบของปัจจัยเชิงสาเหตุที่มีอิทธิพลต่อความสามารถ ในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ 3) วิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยันของความสามารถ ในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ และตรวจสอบความสอดคล้องระหว่างโมเดลโครงสร้างองค์ประกอบตามสมมติฐานกับข้อมูลเชิงประจักษ์ 4) พัฒนารูปแบบการสอนอ่านภาษาอังกฤษ เพื่อความเข้าใจ และ 5) ศึกษาประสิทธิผลของรูปแบบการสอนอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ใน 2 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ และ 2) ด้านความ พึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอน การวิจัยครั้งนี้ได้ดำเนินการ ตามกระบวนการวิจัยและพัฒนาซึ่งแบ่งออกเป็น 5 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 เป็นการศึกษาข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนารูปแบบการสอน กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ครูผู้สอนภาษาอังกฤษระดับมัธยมศึกษาตอนต้น สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 2 จำนวน 15 คน ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2557 ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ แบบสัมภาษณ์ ระยะที่ 2 เป็นการศึกษาปัจจัยเชิงสาเหตุ และพัฒนารูปแบบของปัจจัยเชิงสาเหตุ ที่มีอิทธิพลต่อความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ระยะที่ 3 เป็นการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยันของความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ ในการวิจัยระยะที่ 2 และ 3 ได้แก่ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 2 จำนวน 340 คน ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2557 ได้มาโดยการสุ่มแบบหลายขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบทดสอบ แบบวัด และแบบสอบถาม ระยะที่ 4 เป็นการพัฒนารูปแบบการสอน และทดลองนำร่อง ใช้เพื่อพิจารณาความเป็นไปได้ในเชิงปฏิบัติ และระยะที่ 5 เป็นการศึกษาประสิทธิผลของรูปแบบการสอนอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจที่พัฒนาขึ้น การวิจัยในระยะที่ 4 และ 5 นี้เป็นการวิจัยแบบ กึ่งทดลอง กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557 โรงเรียนบ้านแม่ออกเหนือ จำนวน 20 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม ระยะเวลา ในการดำเนินการวิจัย จำนวน 12 สัปดาห์ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบทดสอบวัดความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ และแบบสอบถามความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทำการเปรียบเทียบค่าเฉลี่ย โดยการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียวชนิดวัดซ้ำ ผลการวิจัยพบว่า 1. นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อ ความเข้าใจอยู่ในระดับต่ำ ส่วนสภาพการจัดการเรียนการสอนอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจนั้นผู้สอนได้ใช้บทอ่านที่มีความหลากหลาย มีขั้นตอนการสอน 3 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นนำเสนอ ขั้นปฏิบัติ และขั้นประเมินผล ผลการศึกษาแนวคิดพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนารูปแบบการสอน ประกอบด้วย เอกสารเกี่ยวกับรูปแบบการสอน หลักสูตร การอ่านและการสอนอ่านภาษาอังกฤษ และทฤษฎีการเรียนรู้ 2. ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ มี 5 ตัวแปร โดยตัวแปรที่มีอิทธิพลทางตรง ได้แก่ ความรู้พื้นฐานเดิม ตัวแปรที่มีอิทธิพลทั้งทางตรงและทางอ้อม ได้แก่ พฤติกรรมการสอนของครู และเจตคติต่อการอ่านภาษาอังกฤษ และตัวแปรที่มีอิทธิพลทางอ้อม ได้แก่ แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ และมโนภาพแห่งตน ส่วนรูปแบบปัจจัยเชิงสาเหตุที่พัฒนาขึ้นนั้น มีความสอดคล้องกลมกลืนกับข้อมูลเชิงประจักษ์ โดยพิจารณาจากค่าไค-สแควร์ มีค่าเท่ากับ 149.16 ที่องศาอิสระ เท่ากับ 125 ค่าความน่าจะเป็น เท่ากับ 0.08 ดัชนีวัดระดับความกลมกลืน เท่ากับ 0.97 และค่าดัชนีวัดระดับความกลมกลืนที่ปรับแก้แล้ว เท่ากับ 0.97 3. องค์ประกอบของความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ มี 3 องค์ประกอบ ได้แก่ องค์ประกอบที่ 1 ด้านความเข้าใจระดับตัวอักษร มี 7 ตัวบ่งชี้ องค์ประกอบที่ 2 ด้านความเข้าใจระดับตีความ มี 9 ตัวบ่งชี้ และองค์ประกอบที่ 3 ด้านความเข้าใจระดับวิเคราะห์วิจารณ์ มี 7 ตัวบ่งชี้ รวม 23 ตัวบ่งชี้ มีค่าน้ำหนักองค์ประกอบเป็นบวก ตั้งแต่ 0.40-0.87 มีค่าไอเกนอยู่ระหว่าง 5.24-20.38 และมีค่าความแปรปรวนสะสม ร้อยละ 87.96 ส่วนโมเดลโครงสร้างองค์ประกอบที่พัฒนาขึ้นนั้น มีความสอดคล้องกลมกลืนกับข้อมูลเชิงประจักษ์ โดยพิจารณาจากค่าไค-สแควร์ มีค่าเท่ากับ 1381.56 ที่องศาอิสระ เท่ากับ 1282 ค่าความน่าจะเป็น เท่ากับ 0.07 ดัชนีวัดระดับ ความกลมกลืน เท่ากับ 0.88 และค่าดัชนีวัดระดับความกลมกลืนที่ปรับแก้แล้ว เท่ากับ 0.82 4. รูปแบบการสอนที่พัฒนาขึ้น คือ รูปแบบการสอนอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจสำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 2 ซึ่งมี 5 องค์ประกอบ ได้แก่ หลักการ จุดมุ่งหมาย เนื้อหา กระบวนการเรียนการสอน และการวัดและประเมินผล โดยกระบวนการเรียนการสอนมี 3 ขั้นตอน ได้แก่ 1) ขั้นก่อนอ่าน ประกอบด้วย 1.1) ขั้นกระตุ้นและสร้างแรงจูงใจ 1.2) ขั้นพัฒนาความรู้พื้นฐาน 1.3) ขั้นวางแผนการอ่าน 2) ขั้นระหว่างอ่าน ประกอบด้วย 2.1) ขั้นทำความเข้าใจบทอ่าน 2.2) ขั้นอภิปรายแลกเปลี่ยน และ 3) ขั้นหลังอ่าน ประกอบด้วย 3.1) ขั้นนำเสนอผลการอ่าน 3.2) ขั้นเสริมทักษะการอ่าน และ 3.3) ขั้นประเมินผลและแก้ไข 5. ผลการศึกษาประสิทธิผลของรูปแบบการสอน มีดังนี้ 5.1 นักเรียนมีพัฒนาการทางด้านความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 5.2 นักเรียนมีความพึงพอใจที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการการสอนอยู่ในระดับมากซึ่งมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.31
Abstract: The purposes of this research were to 1) study the basic information needed for the development of an instructional model, 2) study the causal factors and develop a model of these factors influencing English reading comprehension ability, 3) analyze confirmatory factor analysis of English reading comprehension ability and examine the consistency between the structural model and empirical data, 4) develop an English reading comprehension instructional model, and 5) study its effectiveness of an instructional model as pertaining to 2 main aspects: 1) English reading comprehension ability, and 2) the students’ satisfaction towards learning management using the instructional model. The research procedure based on research and development comprised 5 phases. First, investigate the basic information needed for the development of an instructional model. The sample selected through purposive selection consisted of 15 English teachers at the lower secondary level during the first semester of the academic year 2014 under Maehongson Primary Educational Service Area Office 2. The research instrument consisted of an interview form. Second, study the causal factors and develop a model of these factors influencing English reading comprehension ability. Third, perform a confirmatory factor analysis of English reading comprehension ability and examine the consistency between the structural model and empirical data. The sample for the 2nd and 3rd phase consisted of 340 grade 8 students studying during the first semester of the academic year 2014 under Maehongson Primary Educational Service Area Office 2. They were selected by multi-stage random sampling. The research instruments consisted of tests, a scale and a questionnaire. Fourth, develop the instructional model, conduct a pilot study and try out the instructional model to study the possibility in practice. Fifth, study its effectiveness of the developed instructional model. The research procedure during the 4th and 5th phases was based on Quasi-experimental Research. The sample selected through cluster sampling consisted of 20 grade 8 students studying during the second semester of the academic year 2014 at Banmaeoknuea School. The duration of the experiment was 12 weeks. The research instruments consisted of English reading comprehension ability tests and a satisfaction questionnaire. The statistics used in the data analysis were mean, standard deviation and One-way ANOVA with repeated measures. The findings of the research revealed that: 1. English reading comprehension ability of grade 8 students was at a low level. For the aspect of English reading comprehension instruction, the English teachers used a variety of reading passages with 3 steps of teaching: 1) presentation 2) practice, and 3) evaluation. The results of the study on basic concepts needed for the development of an instructional model involved documents pertaining to instructional model, curriculum, reading, teaching reading and learning theories. 2. The factors influencing English reading comprehension ability included 5 variables. The variable directly influencing English reading comprehension ability was prior background knowledge. Other variables influencing, both directly and indirectly, English reading comprehension ability were teachers’ teaching behavior and attitude towards English reading. The variables indirectly influencing English reading comprehension ability were achievement motivation and self-concept. The model of causal factors was in consistency with the empirical data, considering from chi-square ( 2) = 149.16, degree of freedom (df) = 125, p-value (p) = 0.08, goodness of fit index (GFI) = 0.97 and adjusted goodness of fit index = (AGFI) = 0.97. 3. The factors of English reading comprehension ability consisted of 3 components: 1) Literal comprehension including 7 indicators 2) Interpretative comprehension including 9 indicators, and 3) Critical comprehension including 7 indicators. There were 23 indicators with a range of factor loadings from 0.40 to 0.87, Eigen values from 5.24-20.38 and a cumulative percentage variance of 87.96. The structural model was in consistency with the empirical data, considering from chi-square ( 2) = 1381.56, degree of freedom (df) = 1282, p-value (p) = 0.07, goodness of fit index (GFI) = 0.88 and adjusted goodness of fit index = (AGFI) = 0.82. 4. The English reading comprehension instructional model for grade 8 students under Maehongson primary educational service area office 2 comprised 5 components; principles, objectives, content area, instructional procedures and evaluation. The instructional procedures comprised 3 stages: 1) The pre-reading stages consisted of 1.1) Motivating and inspiring 1.2) Developing background knowledge, and 1.3) Planning for reading. 2) The while-reading stages consisted of 2.1) Understanding the text, and 2.2) Discussing and sharing. 3) The post-reading stage consisted of 3.1) Presenting, 3.2) Reinforcing, and 3.3) Checking and correcting. 5. The effectiveness of the developed instructional model was as following: 5.1 The students’ development in English reading comprehension ability was higher at the statistically significant level of 0.05. 5.2 The students’ satisfaction towards learning using the instructional model was at a high level, with an average of 4.31.
มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์. สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ
Address: ปทุมธานี
Email: arit@vru.ac.th
Role: ประธานที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์.
Created: 2562
Modified: 2562-12-19
Issued: 2562-12-19
วิทยานิพนธ์/Thesis
application/pdf
CallNumber: วพ 372.6 ช432ก 2558
tha
Spatial: แม่ฮ่องสอน
©copyrights มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ฯ
RightsAccess:
ลำดับที่.ชื่อแฟ้มข้อมูล ขนาดแฟ้มข้อมูลจำนวนเข้าถึง วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1 8596935.pdf 4.19 MB128 2025-10-17 15:19:53
ใช้เวลา
0.023342 วินาที

พิทักษ์ นิลนพคุณ.
Title Creator Type and Date Create
การพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะการเขียนประโยคคำถามที่ใช้ Question words และ yes-no questions สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ฯ
พิทักษ์ นิลนพคุณ. ;ชาตรี เกิดธรรม.
เครือวัน นาอุดม
วิทยานิพนธ์/Thesis
การพัฒนาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง คำศัพท์ภาษาอังกฤษ ชุดคำศัพท์มหัศจรรย์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2
มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ฯ
พิทักษ์ นิลนพคุณ.
สามินี ขันธุปัทม์
วิทยานิพนธ์/Thesis
การพัฒนาทักษะการอ่านสรุปความโดยใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์นิทานสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2
มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ฯ
บุญเรือง ศรีเหรัญ ;พิทักษ์ นิลนพคุณ.
บุญรวม งามคณะ
วิทยานิพนธ์/Thesis
การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความภาษาไทยสำหรับนักศึกษาปีที่ 2 ระดับปริญญาตรีที่เรียนภาษาไทยในกรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม
มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ฯ
พิทักษ์ นิลนพคุณ.
เฉิ่น ถิ บิ๊ก ถาว
วิทยานิพนธ์/Thesis
การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนคำศัพท์ภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ฯ
พิทักษ์ นิลนพคุณ.
จันทิพมาศ ภัคคกาญจนพัฒน์
วิทยานิพนธ์/Thesis
การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อส่งเสริมความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น
มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ฯ
พิทักษ์ นิลนพคุณ.
วราภรณ์ วราธิพร
วิทยานิพนธ์/Thesis
การพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านออกเสียงเพื่อพัฒนาการอ่านออกเสียง ฉ และ ช สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ฯ
พิทักษ์ นิลนพคุณ.
วราภรณ์ มวยหมั่น
วิทยานิพนธ์/Thesis
การพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะการเขียนประโยคคำถามที่ใช้ Question words และ yes-no questions สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ฯ
พิทักษ์ นิลนพคุณ.
เครือวัน นาอุดม
วิทยานิพนธ์/Thesis
การพัฒนาหนังสือส่งเสริมการอ่านชุดท้องถิ่นของเรากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ฯ
พิทักษ์ นิลนพคุณ.
ณัฐนี วรบุตร
วิทยานิพนธ์/Thesis
การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเรื่องวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาและศาสนพิธี กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ฯ
ชาตรี เกิดธรรม. ;พิทักษ์ นิลนพคุณ.
เจริญ แก้วนิล
วิทยานิพนธ์/Thesis
การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องพุทธประวัติสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้ชุดสื่อประสม
มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ฯ
บุญเรือง ศรีเหรัญ. ;พิทักษ์ นิลนพคุณ.
พระวชิรญาณ์ เต็งวราภรภัทร
วิทยานิพนธ์/Thesis
การพัฒนารูปแบบการสอนอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจสำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา แม่ฮ่องสอน เขต 2
มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ฯ
พิทักษ์ นิลนพคุณ.
ชัยวัฒน์ บวรวัฒนเศรษฐ์
วิทยานิพนธ์/Thesis
ผลการสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทางที่มีต่อความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ฯ
พิทักษ์ นิลนพคุณ.
นิติยา หอมชาลี
วิทยานิพนธ์/Thesis
การพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยวิธีการแบบเปิด
มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ฯ
พิทักษ์ นิลนพคุณ.
ภรณ์ณัฐภัคร์ มูลคม
วิทยานิพนธ์/Thesis
การพัฒนารูปแบบหลักสูตรฝึกอบรมเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการใช้ภาษาไทยสำหรับนักศึกษาวิชาชีพครูสถาบันการพลศึกษา
มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ฯ
พิทักษ์ นิลนพคุณ.
ภูมิภัทร พันธ์ทองหลาง
วิทยานิพนธ์/Thesis
การพัฒนารูปแบบหลักสูตรฝึกอบรมเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการใช้ภาษาไทยสำหรับนักศึกษาวิชาชีพครู สถาบันการพลศึกษา
มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ฯ
พิทักษ์ นิลนพคุณ.
ภูมิภัทร พันธ์ทองหลาง
วิทยานิพนธ์/Thesis
การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนคำศัพท์ภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ฯ
พิทักษ์ นิลนพคุณ.
สุนันทา กสิวิวัฒน์
วิทยานิพนธ์/Thesis
การพัฒนารูปแบบหลักสูตรฝึกอบรมวิชาผู้กำกับลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ขั้นความรู้เบื้องต้นเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะการเป็นผู้กำกับลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ในศตวรรษที่ 21
มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ฯ
พิทักษ์ นิลนพคุณ.
ชนะ ยาดี
วิทยานิพนธ์/Thesis
Factors rekated to the instructional quality of private universities in Battambang province, Cambodia
มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ฯ
พิทักษ์ นิลนพคุณ.
Borey bun
วิทยานิพนธ์/Thesis
Factors related to academic performance of undergraduate students at University of Management and Economics in Battambang province, Cambodia
มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ฯ
พิทักษ์ นิลนพคุณ.
Bora Kao
วิทยานิพนธ์/Thesis
Copyright 2000 - 2025 ThaiLIS Digital Collection Working Group. All rights reserved.
ThaiLIS is Thailand Library Integrated System
สนับสนุนโดย สำนักงานบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อพัฒนาการศึกษา
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
328 ถ.ศรีอยุธยา แขวง ทุ่งพญาไท เขต ราชเทวี กรุงเทพ 10400 โทร. โทร. 02-232-4000
กำลัง ออน์ไลน์
ภายในเครือข่าย ThaiLIS จำนวน 0
ภายนอกเครือข่าย ThaiLIS จำนวน 1,346
รวม 1,346 คน

More info..
นอก ThaiLIS = 27,817 ครั้ง
มหาวิทยาลัยสังกัดทบวงเดิม = 36 ครั้ง
มหาวิทยาลัยราชภัฏ = 12 ครั้ง
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล = 2 ครั้ง
รวม 27,867 ครั้ง
Database server :
Version 2.5 Last update 1-06-2018
Power By SUSE PHP MySQL IndexData Mambo Bootstrap
มีปัญหาในการใช้งานติดต่อผ่านระบบ UniNetHelp


Server : 8.199.134
Client : Not ThaiLIS Member
From IP : 216.73.216.28