ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความเมื่อยล้าของคนทำงานเสื่อกก กรณีศึกษา ศูนย์ศิลป์เสื่อบางสระเก้า อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี

Factors related to fatigue among workers in making mats : A case study of Ban Sra Kao reed mats center, Leam sing district, Chantaburi province

Name: เกื้อกุศล บูรพากล้าจน

Address: 42/2 หมู่ที่ 5 ตำบลตาขัน อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง 21120

keyword: การทำงาน

Classification :.DDC: 616.74

; เสื่อกก

; สุขภาพ

Abstract: การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) ศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความเมื่อล้าของคนงานทำเสื่อกก 2) ศึกษาปัญหาความเมื่อยล้า และระดับความเมื่อยล้าของคนงานทำเสื่อกก เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ ใช้วิธีการศึกษาแบบตัดขวาง (Cross sectional research) จากสมาชิกศูนย์ศิลป์เสื่อบางสระเก้า ตำบลบางสระเก้า อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี จำนวน 115 คน โดยเครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามและแบบประเมินค่าดัชนีความผิดปกติใน 8 ด้าน มีค่าความเที่ยงเท่ากับ 0.714 และเครื่องวัดความดันโลหิต ระบบอัตโนมัติ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการหาค่าสหสัมพันธ์แบบ Pearson Bivariate และFisher’s Exact Test ผลการศึกษาพบว่า 1. ข้อมูลส่วนบุคคล อายุเฉลี่ย 58 ปี ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง แต่งงาน ประกอบอาชีพหลักและมีอาชีพรองที่สอง ร้อยละ 75.65, 68.70 และ 63.48 ตามลำดับ 2. ข้อมูลปัญหาสุขภาพ โดยสมาชิกร้อยละ 38.26 มีโรคความดันโลหิตสูง เป็นโรคประจำตัว แต่ไม่เคยประสบอุบัติเหตุรุนแรงก่อนทำเสื่อกก ร้อยละ 87.83 3. ข้อมูลสภาพแวดล้อมการทำงาน ส่วนใหญ่คนงานต้องออกแรงที่ไม่เกินกำลัง มีการเพ่งหรือใช้สายตาจดจ่อในการทำงานอยู่กับที่เป็นเวลานาน มีผลต่ออาการเกร็ง เจ็บปวดกระดูก ข้อ และกล้ามเนื้อ แต่ไม่ก่อให้เกิดความเครียดอย่างมาก และมีท่าทางในการทำงานโดยนั่งมากกว่าการยืน ใช้มือออกแรงบีบจับชิ้นงาน มีการเคลื่อนไหวบริเวณแขนเป็นหลัก มีการยกชิ้นงานที่ไม่ใหญ่เทอะทะ แต่ก็ต้องยกอยู่เหนือไหล่ หรือวางมือต่ำกว่าเข่าโดยยกไม่ห่างจากลำตัว 4. ข้อมูลลักษณะความเมื่อยล้า พบว่า มีความรู้สึกเมื่อยล้าเป็นบางครั้งหลังเลิกงาน ร้อยละ 57.39 มีอาการเจ็บปวดหรือรู้สึกไม่สบายตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเป็นส่วนใหญ่ถึงร้อยละ 91.30 หากมีอาการเมื่อยล้าช่วงเวลาทำงาน เมื่อได้พักแล้วก็จะหายได้ การเคลื่อนไหวขณะทำงาน ใช้อวัยวะบริเวณแขนส่วนล่าง มือ/ข้อมือ และข้อศอกเป็นประจำ ทั้งนี้อาชีพทำเสื่อกกมีความเป็นอิสระ แต่ต้องมีความรับผิดชอบ 5. ระดับความเมื่อยล้าของคนงานอยู่ในระดับมีปัญหาเล็กน้อยพอทนได้ ร้อยละ 76.65 นอกจากนั้นผลการศึกษายังแสดงให้เห็นว่า ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความเมื่อยล้าของคนงานทำเสื่อกก อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับความเชื่อมั่น .05 ได้แก่ ปัจจัยส่วนบุคคล อายุ (r = .202 p < .05) ปัจจัยสภาพแวดล้อมการทำงาน ด้านสภาพทั่วไป (x2 = 5.702 p < .05) ด้านท่าทางการทำงาน (x2 = 5.931 p < .05) ด้านการยกและการเคลื่อนย้ายสิ่งของที่มีน้ำหนักมากหรือมีขนาดใหญ่ (x2 = 12.720 p < .01) และมีระยะในแนวระนาบค่อนข้างมาก (x2 = 9.550 p < .01) ปัจจัยลักษณะความเมื่อยล้า มีอาการเจ็บปวดบริเวณข้อศอกด้านขวา (x2 = 7.846 p < .05) บริเวณแขนส่วนล่างขวา (x2 = 7.812 p < .05) บริเวณน่องด้านขวา (x2 = 5.432 p < .05) มีการเคลื่อนไหวบริเวณข้อศอก (x2 = 6.883 p < .05) และบริเวณน่อง (x2 = 4.524 p < .05) ส่วนปัจจัยอื่น ๆ ไม่มีความสัมพันธ์กับความเมื่อยล้า ฉะนั้นการใช้หลักการยศาสตร์มาเป็นหลักคิดในการทำเสื่อกก จะช่วยลดปัญหาความเมื่อยล้าจากการทำงาน ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุและปัญหาสุขภาพโดยรวมได้ผลดี The objectives of this research were to : 1) study factors relating to making reed mat worker fatigue and 2) study of fatigue problems and fatigue levels of making reed mat workers. This cross sectional quantitative research was studied at Bang Sra Kao Reed Mats Center, Learn Sing district, Chantaburi province as a case study. There were 115 participants in this study. Research tools of this study consisted a questionnaire, abnormal index (AI) test being equal to reliability of 0.714, and automatic blood pressure monitor. The statistics used for data analysis consisted of percentage, mean, standard deviation, Pearson Bivariate and Fisher’s Exact Correlation Test. The study found that: 1. According to individual factors, the study showed that most workers were female (75.65%) with 58 years old in average. Most of them were married (68.70%) and had a second career (63.48%) 2. According to health problems factors, the most workers had hypertension (38.26%) but never suffered a severe accident or occupational injury before making reed mats (87.83%) 3. According to occupational factors, most workers were did not have to much exert their; do not use much focus on their eyes a long time. There were the effects of tightened Bone, joint and muscle pain, but there was no cause tremendous stress. And, there was sitting than standing and the use of hand to squeeze an exerted work piece. There was major movement using arms to raise the not-bulky work piece. The raising post must be above the shoulders or place below the knee by lifting away from the body. According to characteristics by fatigue, most workers felt fatigue sometimes after working (57.39%), painful or discomfort in various parts of the body (91.30%). If there are signs of fatigue during work hours, after it will be disappear. Movement while working the organs were the lover arm, hand/wrist and elbow on a regular basis. Then, the occupation of reed mat weaving is independent, but mist be responsible. 5. According to fatigue of workers, the study revealed that there were few tolerable problems relating to fatigue (75.65%) basing on the 8 dimensions of abnormal index (AI). In addition, the study showed that the factors which had a relationship with fatigue of reed mat workers at .05 statistically significant level consisted : Individual age (r = -.202 p<.05); for working environment factors; the general condition, (x2 = 5.702 p<.05), the motion work (x2 = 5.931 p<.05) the lifting of a chunky or bulky things (x2 = 12.720 p<.01), and the lifting away from the body (x2 = 9.550 p<.01). For the factors of characteristic stiffness, painful on the right in the arm (x2 = 7.846 p<.05), lower right (x2 = 7.812 p<.05), calf right (x2 = 5.432 p<.05), moving of the elbow (x2 = 6.883 p<.05), and calf (x2 = 4.524 p<.05). Other factors had no relationship with fatigue. In summary, it would be said that of there is the use of ergonomic principles as a major figure in working reed mats, it will help to decrease fatigue of workers and prevent accidents and health problems.

มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์. สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ

Address: สุรินทร์

Email: arit@srru.ac.th

Name: ประดับ เรียนประยูร

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Name: ภัทรพล ทองนำ

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Created: 2561

Modified: 2562-11-15

Issued: 2562-11-15

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: 616.74 ก179ป

tha

DegreeName: วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: สาธารณสุขศาสตร์

Grantor: มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์

©copyrights มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	Biodata.pdf	233.75 KB	19	2025-02-15 16:31:14
2	Appendix.pdf	5.47 MB	27	2025-02-15 16:31:38
3	Bibiography.pdf	1.62 MB	20	2023-01-23 11:00:56
4	Chapter 5.pdf	2.77 MB	27	2023-01-23 11:01:00
5	Chapter 4.pdf	5.25 MB	26	2023-01-23 11:01:02
6	Chapter 3.pdf	3.56 MB	30	2025-08-30 22:02:22
7	Chapter 2.pdf	13.95 MB	43	2023-01-23 11:01:06
8	Chapter 1.pdf	1.99 MB	29	2024-08-03 11:40:59
9	Content.pdf	1.51 MB	16	2023-01-23 11:01:19
10	Abstract.pdf	1.3 MB	29	2025-08-30 22:01:46
11	Title.pdf	853.14 KB	24	2023-04-23 22:29:54

ใช้เวลา

0.053887 วินาที