การวิเคราะห์และเปรียบเทียบรูปทรงและขนาดของตัวรับแสงที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการรับแสงในระบบจานรวมแสงอาทิตย์พาราโบลิค
 
    
    Geometric shape analysis and comparison of solar receiving efficiency in solar concentrator parabolic dish system
 			  
			  
    
    Organization :
     สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง. คณะวิศวกรรมศาสตร์       
    
 
            	
			  
    
    Abstract:
     งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ในการวิเคราะห์และเปรียบเทียบตัวรับแสงอาทิตย์ เพื่อหารูปทรงและขนาดของตัวรับแสงที่มีประสิทธิภาพ และเหมาะสมกับระบบจานรวมแสงแบบพาราโบลิค พร้อมทั้งเปรียบเทียบลักษณะการรับแสงของรูปทรงแบบต่าง ๆ เพื่อหาความสัมพันธ์ของขนาดและรูปทรงของตัวรับแสงอาทิตย์แต่ละรูปทรงต่อประสิทธิภาพการรับแสง ในการวิจัยนี้มุ่งเน้นการวิเคราะห์หารูปทรงของตัวรับแสงอาทิตย์ที่มีประสิทธิภาพการรับแสงสูงที่สุด โดยคำนึงถึงลักษณะการรับแสงและการกระจายฟลักซ์ความร้อนของตัวรับแสงอาทิตย์ ซึ่งในการวิเคราะห์นี้ ตัวรับแสงมีทั้งหมด 5 รูปทรง คือ รูปทรงกรวย, รูปทรงกลม, รูปทรงกระบอก, รูปทรงโดม และรูปทรงผสมระหว่างทรงกระบอกและทรงกรวย โดยมีการกำหนดให้ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของรูรับแสงและพื้นที่ผิวภายในเท่ากัน โดยในการศึกษานี้มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของจานรวมแสงเท่ากับ 3.20 เมตร, ความลึก 0.67 เมตร และมีพื้นที่ในการสะท้อนแสง 9.32 ตารางเมตรและอัตราส่วนการรวมแสงเท่ากับ 132 โดยกำหนดให้เส้นผ่านศูนย์กลางของรูรับแสงมีขนาด 0.32 เมตร ซึ่งคิดเป็น 10 เปอร์เซ็นต์ของขนาดจานรวมแสง ในงานวิจัยนี้ใช้โปรแกรม Comsol multiphysics ในการจำลอง โดยอาศัยหลักการ Finite element analysis (FEA) เพื่อวิเคราะห์การรับแสงและตำแหน่งการรับแสงของตัวรับแสงรูปทรงต่างๆ จะกำหนดให้ค่าความเข้มรังสีเป็น 700 วัตต์ต่อตารางเมตร (คือค่าความเข้มรังสีของดวงอาทิตย์เฉลี่ยรายปีที่กรุงเทพมหานคร) ซึ่งพบว่า ตัวรับแสงรูปทรงกรวยมีการกระจายฟลักซ์ความร้อนอย่างสม่ำเสมอ โดยมีขนาดรูรับแสงเท่ากับ 30 เซนติเมตร และมีอัตราส่วนของตำแหน่งตัวรับแสงต่อระยะจุดโฟกัสในช่วง 0.940-0.953 ให้ประสิทธิภาพการรับแสงสูงสุดเท่ากับ 90.9 เปอร์เซ็นต์ และให้พลังงานสูงสุดอยู่ที่ 5,887 วัตต์ จากการทดสอบเพื่อหาพลังงานที่ตัวรับแสงได้รับโดยนำหลักการถ่ายเทความร้อนมาใช้ ซึ่งใช้ท่อทองแดงขดเป็นตัวรับแสงรูปทรงกรวยที่มีพื้นที่รับแสง 0.42 ตารางเมตร จากนั้นวัดอุณหภูมิของน้ำที่ทางเข้าและทางออกจากท่อทองแดง ในขณะทำการทดสอบพบว่ามีการเกิดเป็นไอร้อนยิ่งยวด จึงใช้สมการเทอโมไดนามิกส์ในการคำนวณหาพลังงาน และตัวรับแสงอาทิตย์นี้ได้รับพลังงานเท่ากับ 14.6 กิโลวัตต์ โดยมีประสิทธิภาพการรับแสงเท่ากับ 81.7 เปอร์เซ็นต์       
    
 
            		
    
    
     สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง. สำนักหอสมุดกลาง       
    
 
            		
    
    Email:
     Lifelong@kmitl.ac.th       
    
 
            			  
			  
    
    Role:
     อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์       
    
 
            		
    
    Email :
     sutapat.kw@kmitl.ac.th       
    
 
            		
    
    ©copyrights สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง