อัตราอุบัติการณ์และปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการบาดเจ็บจากการทำงานของพนักงานเก็บขยะในโรงพยาบาลศูนย์เขตภาคกลาง

Incidence rate and related factors of occupational injuries among waste collectors of Regional hospitals in the central zone.

Name: พิชญพร พูนนาค

ThaSH: การทำงาน -- ความปลอดภัย

ThaSH: อุบัติเหตุ -- การทำงาน

Abstract: การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาอัตราอุบัติการณ์และปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการบาดเจ็บจากการทำงานของพนักงานเก็บขยะในโรงพยาบาลศูนย์เขตภาคกลางโดยการสัมภาษณ์พนักงานเก็บขยะหรือพนักงานที่ได้รับมอบหมายของแต่ละหน่วยงานให้ดูแลหรือมีหน้าที่เก็บ ขน คัดแยกขยะของโรงพยาบาลศูนย์เขตภาคกลาง ประกอบด้วยโรงพยาบาลราชบุรี นครปฐม สมุทรสาคร สุพรรณบุรี อยุธยา สระบุรี สมุทรปราการ ซึ่งทำงานตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไป ในช่วงตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 31 ธันวาคม พ.ศ. 2558 จำนวนทั้งหมด 498 ราย วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติในเชิงพรรณนา คือ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย พิสัย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติเชิงอนุมานคือ Chi-Square test หรือ Fisher’s Exact test และ Independent t-test ผลการศึกษาพบว่าพนักงานเก็บขยะในโรงพยาบาลมีอัตราอุบัติการณ์การบาดเจ็บจากการทำงานค่อนข้างสูง มีความสัมพันธ์กับการจัดสรรอุปกรณ์ป้องกันอันตรายที่ไม่เพียงพอและการไม่ใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตราย โดยพบพนักงานเก็บขยะบาดเจ็บจากการทำงาน จำนวน 76 คน อุบัติการณ์การบาดเจ็บของพนักงานเก็บขยะ เท่ากับ ร้อยละ 15.3 และอัตราอุบัติการณ์ของการบาดเจ็บของพนักงานเก็บขยะ เท่ากับ 2.49 ครั้งในประชากร 100 คน ในช่วงเวลา 1 เดือน ขาและเท้าเป็นอวัยวะที่เกิดการบาดเจ็บสูงที่สุด (ร้อยละ 61.8) สาเหตุของการได้รับบาดเจ็บส่วนใหญ่เกิดจากวัตถุสิ่งของกระแทกชน (ร้อยละ 42.1) ระดับความรุนแรงของการบาดเจ็บของพนักงานเก็บขยะส่วนใหญ่ (ร้อยละ 73.6) ไม่ต้องหยุดงานสามารถทำงานได้ตามปกติ ร้อยละ 6.5 มีแผลอักเสบ ปัจจัยที่พบความสัมพันธ์กับการบาดเจ็บจากการทำงานของพนักงานเก็บขยะ ได้แก่ อายุ (p-value = 0.049) ประสบการณ์การทำงาน (ปี) (p-value =0.005) ระยะเวลาการทำงานในปี 2558 (p-value =0.006 ) การไม่ใช้ถุงมือ (p-value =0.008) การไม่ใช้รองเท้าบู๊ท (p-value =0.018) การไม่ใช้ผ้าปิดปากจมูก (p-value= 0.001) การไม่ใช้เอี๊ยมผ้า/เอี๊ยมพลาสติกกันเปื้อน (p-value = 0.005) และการไม่ใช้เสื้อผ้าชุดปฏิบัติงาน (p-value=0.002) การจัดสรรอุปกรณ์ป้องกันอันตรายที่ไม่เพียงพอ (p-value =0.002) ดังนั้นควรให้ความสำคัญต่อการดูแลสุขภาพด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานของพนักงานกลุ่มนี้ เช่น การตรวจคัดกรองปัญหาทางสุขภาพและการใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตราย อาจช่วยลดการเกิดการบาดเจ็บจากการทำงานได้

Abstract: The objective of this study was to determine incidence rate and related factors of occupational injuries among waste collectors of regional hospitals in the central zone of Thailand. The design of this study is a cross-sectional descriptive study. All waste collectors from 7 regional hospitals in central of Thailand were interviewed during January 1st – December 31st, 2015. Four hundred and ninety-eight waste collectors of 7 regional hospitals were included in this study. Data and related factors of occupational injuries were analyzed by using chi-square test , Fisher’s Exact test and Independent t-test. The results showed that the incidence rate of occupational injuries is quite high. Occupational injuries were associated with inadequate or not using personal protective equipment. There were 76 cases of occupational injuries from 498 participants. The cumulative incidence and incidence rate were 15.3% and 2.49 / 100 persons-month. Feet and legs were the most incidence sites of occupational injuries. mild injury of waste collectors (follow by ILO classification) were 73.6%, Inflammatory wound were 6.5%. Other Factors associated with occupational injuries are age (p-value = 0.049) increasing seniority (p-value = 0.005), duration of working month in 2015 (p-value = 0.006), not using of the personal protective equipment such as glove (p-value = 0.008), boots (p-value = 0.018), face mask (p-value = 0.001), apron (p-value = 0.005) and performance series uniform (PPE) (p-value = 0.002).The inadequate allocation of personal protective equipment was associated with occupational injuries (p-value = 0.002). The author recommend that giving priority to occupational health, waste collectors in this population, would be benefit to them and may minimize occupational injuries. The activities should be screening for health-related problem and providing adequate PPE.

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. สำนักงานวิทยทรัพยากร

Address: กรุงเทพมหานคร

Email: cuir@car.chula.ac.th

Name: สุนทร ศุภพงษ์

Role: ที่ปรึกษา

Name: ธนะภูมิ รัตนานุพงศ์

Role: ที่ปรึกษา

Created: 2559

Modified: 2562-08-21

Issued: 2562-08-21

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

URL: http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/55242

tha

DegreeName: วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: การวิจัยและการจัดการด้านสุขภาพ

Grantor: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

©copyrights จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	5874052030[1].pdf	6.47 MB	39	2025-06-16 16:27:12

ใช้เวลา

-0.973713 วินาที