รูปแบบการดำเนินชีวิตอย่างมีความสุขตามหลักพุทธธรรมสำหรับ เยาวชน: ศึกษากรณีโรงเรียนสระบุรีวิทยาคม จังหวัดสระบุรี

A Model of the Happy Livelihood according to the Buddhadhamma for the Youths: A Case Study of the Saraburiwitthayakhom School

Name: สิทธรัตน์ สงึมรัมย์

keyword: การดำเนินชีวิต

; หลักพุทธธรรม

Abstract: งานวิจัยเรื่องรูปแบบการดำเนินชีวิตอย่างมีความสุขตามหลักพุทธธรรมสำหรับ เยาวชน: ศึกษากรณีโรงเรียนสระบุรีวิทยาคม จังหวัดสระบุรี มีวัตถุประสงค์๓ ประการ คือ(๑)เพื่อศึกษาการดำเนินชีวิตของเยาวชนไทยในปัจจุบัน(๒)เพื่อศึกษาหลักพุทธธรรมสำหรับเยาวชนเพื่อการดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข (๓)เพื่อนำเสนอรูปแบบการดำเนินชีวิตอย่างมีความสุขของเยาวชนด้วยหลักพุทธธรรมเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) โดยศึกษาจากเอกสาร และการสัมภาษณ์เชิงลึก จากการสุ่มเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจงโดยเป็นนักเรียนที่กำลังศึกษาในระดับมัธยมศึกษาจำนนวน ๕๐ คนเป็นชาย ๒๐ คน เป็นหญิง ๓๐ คน ผลการวิจัยพบว่าเยาวชน คือวัยที่มีความเป็นตัวของตัวเองค่อนข้างมาก อารมณ์แปรปรวนเปลี่ยนแปลงง่ายเป็นวัยที่มีพัฒนาการของบุคลิกภาพอย่างชัดเจน ถ้าการเรียนรู้ที่ผ่านมาดีจะมีบุคลิกภาพดีด้วย เป็นวัยที่พยายามค้นหาความต้องการที่แท้จริงเรียนรู้บทบาทหน้าที่และพัฒนาความสามารถเฉพาะตนเพื่อที่จะวางแผนชีวิตต่อไปในอนาคตเป็นพลังสำคัญต่อการพัฒนาประเทศชาติในอนาคต สถาบันศาสนามีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเยาวชนในการสร้างพลังทางด้านจิตใจให้ความรู้สึกปลอดภัยจากความกลัวและปลอดภัยจากความวิตกกังวล ช่วยให้สถาบันครอบครัวและสถาบันการปกครองทำหน้าที่ได้เข้มแข็งยิ่งขึ้น ยึดเหนี่ยวสังคมให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุขหลักพุทธธรรมสำหรับเยาวชนเพื่อการดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข คือ ศีล ๕ อิทธิบาท๔และมงคล๓๘ประการ(มงคลที่ ๑-๓๐) รูปแบบการดำเนินชีวิตอย่างมีความสุขตามหลักพุทธธรรมสำหรับเยาวชน: ศึกษากรณีโรงเรียนสระบุรีวิทยาคม จังหวัดสระบุรีมี ๒ รูปแบบ[๑] ด้านการเรียนเยาวชนที่ประสบผลสำเร็จด้านการเรียนนอกจากเกิดจากความชอบแล้ว ผู้ปกครองก็มีความสำคัญในการสนับสนุนช่วยเหลือเป็นแรงบันดาลใจ มีจิตสำนึกที่ดีทั้งต่อตนเอง ครอบครัว โรงเรียน และชุมชนสิ่งแวดล้อม รู้จักหน้าที่และมีความรับผิดชอบรู้จักจัดสรรเวลาโดยเรียงลำดับความสำคัญ เป็นพุทธศาสนิกชนที่ดี ปฏิบัติตนตามหลัก๑) อิทธิบาท ๔คือฉันทะ-มีความเชื่อมั่นศรัทธา วิริยะ-ทำงานด้วยความขยันอดทนจิตตะ-มีจิตจดจ่อมุ่งมั่นในสิ่งที่ทำ วิมังสา-ทบทวนและปรับปรุงแก้ไขทำให้สิ่งที่ทำมีคุณภาพดี๒) มงคลที่๑-๓๐ เป็นหลักธรรมคำสอนเพื่อเป็นแบบแผนและแนวทางในการดำรงชีวิตอย่างถูกต้องส่งผลให้ชีวิตพบเจอแต่ความสุขความเจริญ[๒] ด้านปัญหาและวิธีแก้ไขปัญหาในการดำเนินชีวิตได้แก่ ปัญหาการใช้ความรุนแรงแก้ไขโดยการปฏิบัติตนตามศีลข้อ ๑ปัญหาการลักทรัพย์แก้ไขโดยการปฏิบัติตนตามศีลข้อ ๒ ปัญหาเพศสัมพันธ์แก้ไขโดยการปฏิบัติตนตามศีลข้อ ๓ ปัญหาการใช้คำพูดแก้ไขโดยการปฏิบัติตนตามศีลข้อ ๔ ปัญหาการใช้สารเสพติดแก้ไขโดยการปฏิบัติตนตามศีลข้อ ๕รวมทั้งการปฏิบัติตนตามหลักธรรมทั้ง ๒ หลักดังกล่าวมาแล้ว

Abstract: This dissertation entitled ‘A Model of the Happy Livelihood according to the Buddhadhamma for the Youths: A Case Study of the Saraburiwitthayakhom School’ has three objectives: 1) to study youths’ ways of life in the present Thai society, 2) to study its virtues for youths’ living a happy life, and 3) to propose the youths’ formation of living happily according to the Buddhist principles. This is a qualitative research done by studying documents, and in-depth interview. 50 Population were purposively selected from secondary students, twenties males and 30 females. In the research, it was found that youths means people who are self-centred and sensitive in emotion. Their personality development can be made; if they have good education then their personality is also good. It can be said that they are under the age of searching for whatever they want. They learn their own roles and duties so as to develop their ability where bright future is expected to become the hope of the nation. In this, the religious institution has the important role to play in empowering their mind-set in order to distance them from fearfulness and unsafety by which the family institution and government can be of the good function. Consequently, they can harmoniously live together happily. To achieve this state, the Buddhist principles leading to morally train youths’ ways of living life are required: five precepts, four paths of accomplishment and thirty-eight supreme virtues. As far as the formation for youths’ living happily according to the Buddhist principles: a case study of the Saraburiwitthayakhom School is concerned, two formations are found: [1] learning: youths’ successfulness in studying did not only come from their likeness but also from their parents’ support wherein they have been inspired in the good manners giving rise to the positive aspect to themselves, family, school, community and environment. Under this way, they perform their duty and responsibility in the way that they know the sequent significance of time becoming a good Buddhist, following these virtues: 1) four paths of accomplishment: they have inspiration, making and effort while working, possessing investigative mind, and examining what they had done, 2) they follow one – thirty supreme virtues: these principles are regarded as the essential guidelines for living a happy life, [2] problem and its solution on living life, violent problem can be solved through following first precept, stealing other property through second precept, sexual misconduct through third precept, false speech through fourth precept and intoxicant usage through fifth precept. These can be accompanied by all together mentioned three virtues.

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. สำนักหอสมุดและเทคโนโลยีสารสนเทศ

Address: จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

Email: library@mcu.ac.th

Name: บุญเลิศ โอฐสู

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Name: กฤษณา รักษาโฉม

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Created: 2561

Modified: 2562-07-11

Issued: 2562-07-11

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

DegreeName: พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต (พระพุทธศาสนา)

Level: ปริญญาเอก

Descipline: สาขาวิชาพระพุทธศาสนา

Grantor: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

©copyrights มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	62MCU620102039.pdf	15.16 MB	42	2025-01-16 19:29:35

ใช้เวลา

0.032256 วินาที