ปัญหาการบริหารงานวิชาการของวิทยาลัยในสังกัดอาชีวศึกษา จังหวัดนครราชสีมา

Problems on Academic Administration of Colleges Under NakhonRatchasima Vocational College, Office of the Vocational Education Commission.

Name: ฉลอง นพคุณ

Address: สถานบัณฑิตศึกษา

Organization : มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ

keyword: หัวเรื่อง =การศึกษา - การบริหาร =อาชีวศึกษา

ThaSH: หัวเรื่อง =การศึกษา - การบริหาร =อาชีวศึกษา

Classification :.DDC: เลขหมู่ 373.246 ฉ 151 ป 2561

Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาปัญหาการบริหารงานวิชาการของวิทยาลัย ในสังกัดอาชีวศึกษาจังหวัดนครราชสีมา 2) เพื่อเปรียบเทียบปัญหาตามความคิดเห็นของครู และผู้บริหาร จำแนกตามสถานภาพในการทำงานและประสบการณ์ในการทำงาน และ 3) เพื่อศึกษาแนวทางแก้ไขปัญหาการบริหารงานวิชาการกลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอน ที่ปฏิบัติหน้าที่ใน ปีการศึกษา 2560 จ านวนทั้งสิ้น 275 คนได้มาโดยใช้ตารางเครซี่และมอร์แกน ใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย จำแนกเป็นผู้บริหารจ านวน 57 คน ครูผู้สอนจ านวน 218 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล เป็นแบบสอบถามชนิดมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ มีค่าความเชื่อมั่น .896 และแบบบันทึกการสนทนากลุ่ม สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ประกอบด้วย ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติทดสอบได้แก่ t-test แบบอิสระกัน (Independent Samples) และ F-test การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One Way ANOVA) เมื่อพบความแตกต่าง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติจะทดสอบความแตกต่างเป็นรายคู่ด้วยวิธีของเชฟเฟ่ (Scheffe’s Method) ผลการวิจัยพบว่า 1) ปัญหาการบริหารงานวิชาการ โดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณารายด้าน ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับปานกลางทุกด้านเรียงล าดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย ได้แก่ ด้านการพัฒนา หลักสูตรการเรียนการสอน ด้านสื่อการเรียนการสอน ด้านการวัดและประเมินผล ด้านอาชีวศึกษา ระบบทวิภาคี ด้านวิทยบริการและห้องสมุด ตามลำดับ 2) ผู้บริหารและครูผู้สอนที่มีสถานภาพในการทำงานแตกต่างกัน มีความเห็นว่าปัญหา การบริหารงานวิชาการ โดยภาพรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3) ผู้บริหารและครูผู้สอนที่มีประสบการณ์ในการท างานต่างกัน มีความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหา การบริหารงานวิชาการ โดยภาพรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .05 เมื่อเปรียบเทียบ ค่าเฉลี่ยเป็นรายคู่ พบว่า ผู้บริหารและครูผู้สอนที่มีประสบการณ์ในการทำงานมากกว่า 15 ปีขึ้นไป เห็นว่า การบริหารงานวิชาการมีปัญหามากกว่าความคิดเห็นของผู้บริหารและครูที่มีประสบการณ์ ในการทำงานต่ำกว่า 5 ปี และ 10-15 ปี ผู้บริหารและครูผู้สอนที่มีประสบการณ์ในการทำงาน 5-10 ปี เห็นว่าการบริหารงานวิชาการมีปัญหามากกว่า ความคิดเห็นของผู้บริหารและครูผู้สอน ที่มีประสบการณ์ในการทำงานตำ่กว่า 5 ปี 4) ข้อเสนอแนะเพื่อการบริหารงานวิชาการของวิทยาลัยในสังกัดอาชีวศึกษาจังหวัด นครราชสีมา มีดังนี้ (1) ควรร่วมมือกับสถานประกอบการในการจัดทำหลักสูตรให้ครอบคลุม กับความต้องการของตลาดแรงงาน และความต้องการของผู้เรียน (2) ควรมีการอบรมให้ความรู้ ครูในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน เทคนิคการสอนและส่งเสริมให้ครูจัดการเรียนการสอน ที่หลากหลาย (3) ควรมีการติดตาม ประเมินผลการใช้หลักสูตรอย่างต่อเนื่องเป็นระบบ นำผลการประเมินย้อนกลับมาทบทวน (4) ควรส่งเสริมและพัฒนาครูในด้านการจัดทำสื่อ การเรียนการสอน กระตุ้นให้ทั้งผู้เรียนผู้สอนคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ โดยใช้สื่อเทคโนโลยีที่ทันสมัย (5) ควรมีการวัดผลประเมินผลผู้เรียนที่หลากหลาย ประเมินผลโดยครู ผู้เรียนและผู้ปกครอง และวัดผลตามสภาพจริง (6) ควรมีบรรณารักษ์ห้องสมุดที่อ านวยความสะดวกในการสืบค้นข้อมูล มีงบประมาณเพียงพอในการจัดซื้อหนังสือ และ (7) กำหนดระบบการศึกษาทวิภาคีไว้ในแผนแม่บท สถานศึกษาและสถานประกอบการ ร่วมมือกันวางแผนโครงสร้าง วางแผนการนิเทศ กำกับ ติดตาม การฝึกงานอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง

Abstract: This research aimed: 1) to study problems on the academic administration of colleges under NakhonRatchasima Vocational College, Office of the Vocational Education Commission, 2) to compare the problems on academic administration classified by position and work experience, and 3) to study the suggestions for solving the academic administration. The samples were 275 teachers and administrators in the academic year of 2017. The sample was determined based on Krejcie and Morgan’s Sample Size Table and employed simple random sampling and the samples then were separated to 57 administrators and 218 teachers. The research instruments for collecting data were 5-rating scale questionnaires with the reliability of .896 and focus group discussion. Statistics used for analyzing the data were mean, standard deviation and statistics used for testing the hypothesis were T-test (Independence Sample) and F-test (One-Way ANOVA). When it was found the statistically significant differences, Scheffe' test would be employed for testing the differences in each pair. The results of the research showed that: 1) The problems of academic administration in overall were at a moderate level. When considering each aspect, every aspect was at the moderate level. It could be ranking from the highest to the lowest mean scores as follows: curriculum and teaching development, teaching media, measurement and evaluation, dual vocational training, academic resources, and library, respectively. 2) The administrators and teachers who had different positions indicated that problems on academic administration in overall were statistically significant differences at .05 levels. 3) The administrators and teachers who had different work experience had the opinions of problems on academic administration in the overall at the statistically significant difference at .05 levels. When comparing the mean scores of each pair, the results revealed that the opinion of the administrators and teachers with more than 15 years of work experiences showed that there were the problems on academic administration more than those who had 5 years of work experiences and 5 -10 years of work experiences. The administrators and teachers with 5-10 years of work experience affirmed that there were the problems on academic administration more than those who had less than 5 years of work experiences. 4) The guide lines for academic administration were; (1) there should be a cooperation with the establishments in preparing the curriculum to cover the requirement of the labor market and the needs of the students, (2) there should be teacher training on teaching and learning management, teaching techniques, and encourage teachers to vary their teaching and learning activities, (3) there should be a monitoring and evaluating the curriculum systematically and continuously by using the reflect of the curriculum implementation, (4) there should be various ways of learners evaluation, apply authentic evaluation in cooperate with teachers, students and parents, (5) there should be a librarian to facilitate in searching the data and have enough budget for buying books, and (6) there should be a dual vocational training setting in the school master plan, schools and establishments should cooperate in structure planning, supervising, monitoring and following up the students work training.

Chaiyaphum Rajabhat University

Address: CHAIYAPHUM

Email: lib@cpru.ac.th

Name: อาจารย์ที่ปรึกษา

Role: ดร.ปณิธาน วรรณวัลย์

Created: 2018

Modified: 2561-11-28

Issued: 2561-11-28

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: เลขหมู่ 373.246 ฉ 151 ป 2561

tha

Spatial: หัวเรื่อง =การศึกษา - การบริหาร =อาชีวศึกษา

DegreeName: ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ระดับปริญญาโท

Descipline: สาขาวิชาการบริหารการศึกษา

Grantor: มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ

©copyrights มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	1ปก.pdf	62.21 KB	6	2021-12-12 15:48:38
2	3กิตติกรรมประกาศ.pdf	48.15 KB	2	2020-09-13 12:03:42
3	Abstract.pdf	131.29 KB	8	2024-08-25 07:14:01
4	บทคัดย่อ.pdf	152.17 KB	7	2023-05-19 14:41:48
5	สารบัญ.pdf	121.47 KB	2	2020-09-13 12:04:40
6	บทที่ 1.pdf	205.02 KB	8	2022-05-12 10:28:27
7	บทที่ 2.pdf	613.39 KB	13	2024-10-20 10:36:23
8	บทที่ 3.pdf	495.34 KB	5	2021-12-12 15:44:33
9	บทที่ 4.pdf	301.69 KB	5	2021-12-12 15:44:46
10	บทที่ 5.pdf	246.67 KB	6	2023-05-28 15:28:53
11	บรรณานุกรม.pdf	118.81 KB	7	2022-02-07 20:32:50

ใช้เวลา

0.034248 วินาที