การบริหารจัดการเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ กรณีศึกษา องค์การบริหารส่วนตำบลวัดโบสถ์ อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี

The management of living allowance for the elderly: a case study of wat bot sub-district administrative organization, amphoe phanat nikhom, chon buri province

Name: พิชชาภา เหลืองอ่อน

ThaSH: เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ

ThaSH: ผู้สูงอายุ -- ชลบุรี

Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบการบริหารจัดการเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุกรณีศึกษาองค์การบริหารส่วนตำบลวัดโบสถ์ อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี จำแนกตามเพศอายุสถานภาพ ระดับการศึกษา จำนวนสมาชิกในครอบครัวอาชีพ แหล่งที่มาของรายได้อื่น ๆ รวมรายได้ต่อเดือน ระยะเวลาที่ได้รับเบี้ยยังชีพ และวิธีการรับเงินเบี้ยยังชีพกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ ผู้ที่มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ พ.ศ. 2552 จำนวน 11 หมู่บ้านขององค์การบริหารส่วนตำบลวัดโบสถ์ อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี จำนวน 244 คน โดยใช้แบบสอบถามประมาณค่าและการใช้สถิติพรรณนา และสถิติอนุมาน ในการวิจัย รวมถึงการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-way ANOVA) และการวิเคราะห์เปรียบเทียบรายคู่ (Post hoc) ด้วยวิธีการทดสอบของเซฟเฟ่ (Scheffe) ผลการวิจัยพบว่า 1) การบริหารจัดการเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุโดยรวม เห็นด้วยกับการบริหารจัดการเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุอยู่ในระดับมากเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากทุกด้าน โดยเรียงลำดับ ดังนี้ ด้านเจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการขององค์การบริหารส่วนตำบลวัดโบสถ์ ด้านสิ่งอำนวยความสะดวก ด้านการตรวจสอบติดตามผลการดำเนินงาน ด้านการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพและด้านการขึ้นทะเบียนผู้มีสิทธิ์รับเบี้ยยังชีพ 2) การเปรียบเทียบการบริหารจัดการเบี้ยยังชีพ ผู้สูงอายุ โดยจำ แนกตามเพศ อายุ สถานภาพ ระดับการศึกษา จำนวนสมาชิกในครอบครัว อาชีพ แหล่งที่มาของรายได้อื่น ๆรายได้รวมต่อเดือน ระยะเวลาที่ได้รับเบี้ยยังชีพ และวิธีการรับเงินเบี้ยยังชีพทั้งโดยภาพรวมและรายด้านแตกต่างอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ 3) ข้อเสนอแนะ จากการวิจัยองค์การบริหารส่วนตำบลวัดโบสถ์ควรเล็งเห็นถึงความสำคัญในปัญหาของประชาชน เป็นหลัก ตลอดจนมีการวางนโยบายเพื่อรองรับปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในกรณีฉุกเฉิน และควรมีการจัดทำแผนพัฒนาผู้สูงอายุเป็นรายปี เพื่อให้ทราบถึงปัญหา ตลอดจนความต้องการของผู้สูงอายุแล้วนำมากำหนดเป็นนโยบายในการพัฒนาสวัสดิการการรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุหรือสวัสดิการสังคมด้านอื่น ๆ ต่อไป

Abstract: The purposes of this study were to examine the management of living allowance for the elderly of Wat Bot Sub-District Administrative Organization, Amphoe Phanat Nikhom, Chon Buri Province and to compare the level of opinions towards the management of living allowance for the elderly as classified by gender, age, status, educational level, number of family members, occupation, source of other income, total amount of monthly income, length of living allowance obtained, and methods of receiving living allowance. The subjects participating in this study were 244 aging people living in 11 villages in Wat Bot SubDistrict Administrative Organization, Amphoe Phanat Nikhom, Chon Buri Province. These elderly were eligible for receiving living allowance based on the payment regulations for the elderly B.E. 2552. A questionnaire with rating scales was used to collect the data. The descriptive and inferential statistical tests, including One-way ANOVA were administered to analyze the collect data. The test of Scheffe was also used to test the differences between pairs. The results of this study were as follows: 1) It was shown that the subjects agreed with the management of living allowance for the elderly at a high level. Specifically, the item of management relating to the staff giving service was rated at the highest level, followed by the ones relating to facilities, monitoring process, methods of payment of living allowance, and the registration of eligible elderly for living allowance, respectively. 2) Based on the results from the comparisons, it was shown that there were nostatistically significant differences in the level of opinions towards the management of living allowance for the elderly among the subjects with different gender, age, status, educational level, number of family members, occupation, source of other income, total amount of monthly income, length of living allowance obtained, and methods of receiving living allowance. 3) It was suggested that Wat Bot Sub-District Administrative Organization should place an importance on the problems facing people. Policies should be made to accommodate potential problems in a case of emergency. Also, developing plans for the elderly should be made on a yearly basis so that existing problems and needs among the elderly could be identified and used as guidelines for making policies on living allowance or other social welfare services for the elderly

มหาวิทยาลัยบูรพา. สำนักหอสมุด

Address: ชลบุรี

Email: buulibrary@buu.ac.th

Name: สุณี หงษ์วิเศษ

Role: อาจารย์ที่ปรึกษาหลัก

Created: 2559

Modified: 2565-02-11

Issued: 2561-11-22

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: ว 368.43 พ638ก

tha

Spatial: ไทย (ภาคตะวันออก)

Spatial: ชลบุรี

DegreeName: รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: การจัดการภาครัฐและภาคเอกชน

Grantor: มหาวิทยาลัยบูรพา

©copyrights มหาวิทยาลัยบูรพา

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	57930085.pdf	1019.76 KB	19	2025-08-02 13:21:31

ใช้เวลา

0.034646 วินาที