การศึกษาวิเคราะห์การแก้ปัญหาความโกรธในสังคมปัจจุบัน ตามหลักพระพุทธศาสนา

An Analytical study of the Solution of Anger Problems In the Present Society Based on Buddhism

Name: สุภาพ มั่งสันเทียะ

keyword: ความโกรธ

; หลักพระพุทธศาสนา

; สังคมปัจจุบัน

Abstract: วิทยานิพนธ์เล่มนี้มีวัตถุประสงค์ ๓ ข้อ ๑)เพื่อศึกษาการแก้ปัญหาความโกรธตามหลักพระพุทธศาสนา๒) เพื่อศึกษาปัญหาที่เกิดจากความโกรธในสังคมปัจจุบันและ ๓) เพื่อศึกษาวิเคราะห์การแก้ปัญหาความโกรธในสังคมปัจจุบันตามหลักพระพุทธศาสนาเป็นการวิจัยเชิงเอกสาร จากการศึกษาพบว่าความโกรธหมายถึง ความปองร้ายความมุ่งร้ายความขัดเคือง ความขุ่นเคือง ความพยาบาทแห่งจิตความประทุษร้ายในใจเมื่อความโกรธเกิดขึ้น ย่อมเผาไหม้จิตใจให้เกิดความเร่าร้อน ส่งผลกระทบต่อการคิด พูด และทำ ความโกรธสามารถแก้ไขได้ด้วยเมตตา ศีล ขันติ โสรัจจะ และด้วยปัญญาหลักธรรมเหล่านี้ สามารถนำมาใช้เพื่อละความโกรธตามหลักพระพุทธศาสนาได้ ปัญหาสังคมที่เกิดจากความโกรธของคนในปัจจุบันกำลังประสบกับปัญหาอาชญากรรมปล้นฆ่าการลักทรัพย์ผู้อื่นหลอกลวงฉ้อโกงคอร์รัปชั่นปัญหายาเสพติดปัญหาเศรษฐกิจสาเหตุของปัญหาต่างๆเริ่มที่ตัวบุคคลเป็นส่วนใหญ่เป็นเรื่องของการที่บุคคลมุ่งจะเสริมสร้างสถานของตนเองให้เป็นผู้มีอำนาจในที่สุด ก็นำไปสู่ความ โลภ ความโกรธ ความหลง และนำไปสู่สังคมที่กว้างขึ้นยิ่งขึ้นไปความโกรธเกิดขึ้นแล้ว ก่อให้เกิดการละเมิดศีล๕ซึ่งส่งผลกระทบให้บุคคลผู้กระทำและสังคมต้องเดือดร้อนเมื่อมองในแง่ของวงจรปฏิจจสมุปบาทคือกิเลสกรรมวิบากจะพบว่ากิเลสคือความโกรธเป็นเหตุให้โกรธได้ในทางที่ผิดศีลธรรมกรรมเป็นส่วนของการกระทำทุจริตและวิบากเป็นส่วนที่ต้องรับผลของการกระทำเช่นถูกจับดำเนินคดีตามกฎหมาย จากการศึกษาหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาพบว่าองค์ธรรมที่สามารถนำมาปรับประยุกต์ใช้เป็นการแก้ปัญหาเรื่องความโกรธในสังคมคือเมตตาความปรารถนาดีต่อผู้อื่นเพื่อป้องกันความโหดร้ายศีลเป็นข้อห้ามทางกายวาจาเพื่อการไม่ละเมิดในทรัพย์สินและบุคคลที่เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้อื่นสันโดษคือความยินดีพอใจในสิ่งของที่ตนมีและสิ่งที่ตนพึงได้ในทางชอบธรรมเป็นองค์ธรรมสำหรับปิดกั้นความโกรธความเห็นแก่ตัวด้วยอำนาจตัณหาอุปาทานขันติความอดทนต่อการอยากได้ของผู้อื่นและการทำชั่วในทางที่ผิดศีลธรรมปัญญาซึ่งเป็นองค์ธรรมที่สูงสุดทางพระพุทธศาสนาแบ่งเป็น ๓ ลักษณะ คือ กำหนดรู้โทษความโกรธ การพิจารณาและการละความโกรธ

Abstract: This thesis is of three aims, namely :- 1) to study the solution of the anger in Buddhism, 2) to study the problems occurred from the anger in the present society and 3) to analytically study of the solution of the anger in the present society in Buddhism. This thesis is a documentary research. The result of research is found that the anger means malice, malignancy, dissatisfaction, indignation, vengeance, and mayhem. When the anger occurs, it burns the mind, makes intensity in the mind and affects in thought speech and action. The anger can be corrected by friendliness precept patience gentleness and wisdom. These Dhammas can be used for solution of anger. The social problems occurred from the anger in the present society are the infringement of five precepts.The problems are occurring in the present society namely : crime, killing, Burglary, fraud, fraudulent, Corruption, Drug problems, and economic problems. These many problems began from the person. That is, the person want to reinforcethemselves to be the power. It is the cause leading to miserliness, anger and dotage and leads to the social’s problems. When the anger occurred, it will lead to the infringement of five precepts. That affects to the doer persons and the social vexation. When it is considered as the cycle of Independent Origination namely : defilements action (Kamma) and Results, it is found that the defilement as anger is the cause of the anger in immoral way, action (Kamma) is the part of bad conduct and the result is the part of action’s result such as legal proceedings. From to study of Buddha’ s teaching, it is found that Dhamma that can be applied for solving the anger the present society is as follow : Loving-kindness (mettâ) is the blessing for the others, it is used for protection the cruelty, the precept is the prohibition in bodily and verbal action, it is used for protection infraction of other’s person and asset ownership, contentment (santosa) is satisfaction with whatever is one’s own, it is used for to wall the anger selfishness depended desire and attachment, the patience (khanti) is the patience for covetousness and bad action in immoral way, the wisdom (paññâ) is the highest Dhamma in Buddhism divided to three parts namely : knowledge condemnation of anger, consideration and abandoning of anger.

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. สำนักหอสมุดและเทคโนโลยีสารสนเทศ

Address: กรุงเทพมหานคร

Email: library@mcu.ac.th

Name: พระเมธีสุตาภรณ์

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Name: เสฐียร ทั่งทองมะดัน

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Created: 2558

Modified: 2561-09-27

Issued: 2561-09-27

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

DegreeName: พุทธศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: สาขาวิชาพระพุทธศาสนา

Grantor: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

©copyrights มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	MCU570202035.pdf	1.8 MB	6	2021-01-31 23:08:13

ใช้เวลา

0.020102 วินาที