การศึกษาการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา กลุ่มที่ 9 สังกัดสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

A Study of the Experiences Used for the Early Children by the Teachers under the Jurisdiction of the Office of Amnat Charoen Primary Education Service Area

Name: กาญจนา เชื้องาม

keyword: การบริหารโรงเรียน

ThaSH: โรงเรียนพระปริยัติธรรม

Classification :.DDC: 371.07 ก425ก

Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนพระปริยัติ ธรรม แผนกสามัญศึกษา กลุ่มที่ 9 สังกัดส านักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ าแนกตามต าแหน่ง ประสบการณ์ และขนาดของโรงเรียน และศึกษาแนวทางการพัฒนาการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนก สามัญศึกษา กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้บริหาร และครูโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญ ในปีการศึกษา 2558 จ านวน 35 โรงเรียน และกลุ่มเป้าหมายผู้ให้ข้อมูลส าคัญ คือ ผู้บริหารโรงเรียนพระปริยัติธรรม ขนาดกลาง จ านวน 4 รูป และขนาดเล็ก จ านวน 3 รูป รวมจ านวนทั้งหมด 7 รูป โดยใช้แบบสอบถาม และแบบสัมภาษณ์เป็นเครื่องมือ ในการเก็บรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่า t และการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า 1. การบริหารงานวิชาการของโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา กลุ่มที่ 9 สังกัดส านักงาน พระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยภาพรวม และรายด้านด าเนินการในระดับค่อนข้างมาก 2. บุคลากรที่มีต าแหน่งแตกต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนพระปริยัติ ธรรม แผนกสามัญศึกษา โดยภาพรวมไม่แตกต่างกัน และบุคลากรที่มีประสบการณ์และที่ปฏิบัติงานในโรงเรียนที่มี ขนาดของโรงเรียนแตกต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญ ศึกษา โดยภาพรวมและในรายด้านไม่แตกต่างกัน 3. แนวทางการพัฒนาการบริหารงานวิชาการ สรุปได้ดังนี้ 3.1 ด้านการวางแผนด้านวิชาการ พบว่า ควรเตรียมการก่อนการด าเนินการประกันคุณภาพภายใน สถานศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา ควรวิเคราะห์มาตรฐานและตัวบ่งชี้ว่าด้วยการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา 3.2 ด้านการพัฒนาหลักสูตรของสถานศึกษา พบว่า ควรจัดท าสาระหลักสูตรสถานศึกษาให้ สอดคล้องกับความต้องการของท้องถิ่น 3.3 ด้านการพัฒนากระบวนการเรียนรู้ พบว่า ควรส่งเสริม สนับสนุนการจัดกิจกรรม โครงการที่ ส่งเสริมการเรียนรู้และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนของสถานศึกษา 3.4 ด้านการจัดการเรียนการสอนในสถานศึกษา พบว่า ควรส่งเสริมให้ครูผู้สอนจัดการเรียนการ สอน โดยยึดมาตรฐานการศึกษา 3.5 ด้านการนิเทศการศึกษา พบว่า ควรพัฒนาระบบการนิเทศภายในสถานศึกษา และการจัดการ เรียนรู้ในสถานศึกษาให้มีความหลากหลาย 3.6ด้านการวัดผล ประเมินผลและการด าเนินการ พบว่า ควรก าหนดแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการจัดท า ทะเบียน และวัดผลประเมินผล ควรเสนอแนะวิธีการประเมินผลผู้เรียนที่สอดคล้องกับความแตกต่างระหว่างบุคคล The research aimed to study and compare the academic administration of the Ecclesiastical Schools for General Education, Group 9, affiliated to the National Buddhism Office and to examine the guideline for the academic development. The samples were administrators, and teachers of 35 Ecclisiastic Schools in the academic year 2015. The key informants were seven administrators of the schools in the study. The research instruments were a questionnaire and an interview. Statistics used were percentage, mean, standard deviation t-test, and content analysis. The research findings were as follows. 1. The academic administration of the schools in the study was implemented at a rather high level. 2. The personnel who held different positions had no different opinions on the academic administration of the schools under study. The personnel who had different working experiences and worked at different-sized schools had no different views on the academic administration. 3. The guidelines for the development were as follows. 3.1 On academic planning: preparation was to be made before the implementation of the internal quality assurance; standard and indicators of the quality assurance should be analyzed. 3.2 On the curricular development: the contents of a curriculum should be in line with local needs. 3.3 On the learning process development: activities and projects of learning should be promoted and supported. 3.4 On learning and teaching: teachers should be encouraged to organize their teaching based on an educational standard. 3.5 On an educational supervision: the internal educational supervision and learning management should be various. 3.6 On measurement and evaluation: the registration, measurement and evaluation should be established; learners should be evaluated in conformity with personal differences.

มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี. สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ

Address: อุบลราชธานี

Email: info.lib@ubru.ac.th

Name: อาจารย์ ดร.เกริกไกร แก้วล้วน

Role: อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์

Created: 2560

Modified: 2561-10-11

Issued: 2561-09-22

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

Spatial: ไทย

DegreeName: ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: การบริหารการศึกษา

Grantor: มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี

©copyrights มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	Kanjana Chuengam.pdf	1.81 MB	73	2025-09-24 23:24:33

ใช้เวลา

0.017457 วินาที