ศึกษาวิบากกรรมของเวมานิกเปรตในพระพุทธศาสนาเถรวาท

A study Kamma Results of Vemanikapeta in Theravada Buddhism

Name: พระอธิการบัวผัน กตสาโร (สุภาพ)

keyword: เวมานิกเปรต

; พระพุทธศาสนาเถรวาท

; วิบากกรรม

Abstract: การศึกษาวิจัยเรื่องศึกษาวิบากกรรมของเวมานิกเปรตในพระพุทธศาสนาเถรวาทมีวัตถุประสงค์ (๑) เพื่อศึกษาเวมานิกเปรตในพระพุทธศาสนาเถรวาท (๒) เพื่อศึกษาบุพกรรมของ เวมานิกเปรตและ (๓) เพื่อศึกษาวิบากกรรมของเวมานิกเปรต วิธีดำเนินการวิจัยเชิงเอกสารวิเคราะห์เชิงพรรณนา จากการศึกษาวิจัย พบว่า เวมานิกเปรตในพระพุทธศาสนาเถรวาท มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับอบายภูมิ ๔ ซึ่งประกอบไปด้วย นรก ปิตติวิสัย อสูรกาย และติรัจฉาน ที่ปรากฏอยู่ในพระสูตรจำแนกออกเป็น ๓๗ ประเภท เวมานิกเปรตเป็นเปรตจำพวกเดียวเท่านั้นที่อยู่วิมาน บางตนเสวยสุขข้างขึ้น เสวยทุกข์ข้างแรม บางจำพวก ๗ วันเสวยสุข ๗ วันเสวยทุกข์ กล่าวคือ เวมานิกเปรตที่มีวิมาน กลางวันพวกเขาจะได้รับทุกข์ทรมานมากเช่นเดียวกับสัตว์นรก พอกลางคืนก็มีวิมานสวยหรูอยู่ เสวยสุขดังชาวสวรรค์ เวมานิกเปรตบางพวกเป็นสุขตลอดเวลาไม่ต่างจากเทวดา เมื่อเวลาเสวยสุขจะมีร่างเป็นทิพย์ มีทิพย์สมบัติเหมือนเทวดา มีความสุขอยู่ในวิมานแวดล้อมด้วยอุทยานสวรรค์ พระพุทธศาสนาสอนเรื่องของสังสารวัฏการเวียนว่ายตายเกิด บรรดาพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย มีความเชื่อว่า ในเรื่องหลักธรรมคำสอนของในทานศีลภาวนา กุศล อกุศลกรรมบถ เป็นหลักธรรมที่พระพุทธองค์ทรงแสดง บุพกรรมของเวมานิกเปรต เป็นเหตุปัจจัยหนุนที่ให้เราไปเกิดในสวรรค์ ไปเกิดเป็นมนุษย์ เกิดในอบายภูมิ โดยผลบุญและบาป การกระทำโดยมีเจตนาเกิดขึ้นในตอนใดถือว่าเป็นกรรม และการกระทำที่ไม่มีเจตนา ใจไม่ได้สั่งให้ทำไม่จัดว่าเป็นกรรม ตามเหตุปัจจัยแห่งกรรมหลักกุศลกรรมบถและอกุศลกรรมบถ วิบากกรรมของเวมานิกเปรต เป็นผู้เกิดในสภาพที่ได้รับวิบากกรรมที่เรียกกันว่าเวมานิเปรต ลักษณะการเสวยวิบากกรรมสุขทางกายกรรม ๓ ที่ประพฤติชอบทางกาย วิบากกรรมสุขทางวจีกรรม ๔ ประพฤติดีด้วยวาจา และวิบากกรรมสุขทางมโนกรรม ๔ ประพฤติดีด้วยใจ ซึ่งตรงกันข้ามในส่วนเวมานิเปรตเสวยวิบากกรรมทุกข์ “วิบากกรรมทุกข์ทางกายกรรม ๓” ได้แก่ฆ่าสัตว์ จะเป็นคนรูปร่างไม่งามสุขภาพไม่ดี วิบากกรรมทุกข์ของการลักทรัพย์ ฉ้อโกง จะเกิดมาฐานะไม่ดี อดอยาก ทำธุรกิจไม่ประสบผลสำเร็จ วิบากกรรมทุกข์ของการประพฤติผิดในกาม มีความต้องการทางเพศไม่ปกติ “วิบากกรรมทุกข์ทางวจีกรรม ๔” ได้แก่วิบากกรรมทุกข์ของการโกหก หลอกลวงจะเป็นคนพูดไม่ชัด ฟันไม่เป็นระเบียบ ปากเหม็น การพูดส่อเสียด ดูถูก จะเป็นคนชอบตำหนิตนเอง ของการ พูดหยาบ จะเป็นคนอยู่ในสถานที่ได้ยินเสียงที่น่ารบกวนไม่สงบ การพูดเพ้อเจ้อ นินทา จะเป็นคนไม่มีเครดิต ไม่มีใครเกรงใจ และ “วิบากกรรมทุกข์ทางมโนกรรม ๓” วิบากกรรมทุกข์ของการเพ่งเล็งอยากได้ของที่ไม่ใช่ของตน จะเป็นผู้รักษาทรัพย์สมบัติ รักษาคุณงามความดีไม่ได้ เกิดในครอบครัวอาชีพที่ต่ำต้อย วิบากกรรมทุกข์ของการคิดร้ายผู้อื่น ผูกพยาบาท จะเป็นคนมีโรคมาก วิบากกรรมทุกข์ของ เห็นผิดจากความจริง เห็นกงจักรเป็นดอกบัว จะเกิดในถิ่นห่างไกลความเจริญ คนป่าคนดอย ด้อยการศึกษาบุคคลผู้ประกอบด้วยอกุศลกรรมบถ ๑๐ ประการเหล่านี้ ย่อมตกนรกของเวมานิกเปรต องค์ความรู้ที่ได้ศึกษาวิบากกรรมของเวมานิกเปรตในพระพุทธศาสนาเถรวาทได้มองภูมิมนุษย์ ล้วนเป็นภพภูมิแห่งการเสวยผลทั้งสิ้น ทำไม่ดีและผลกรรมไม่ดี ส่งผลก็จะได้ลงไปเสวยสุขและทุกข์แน่นอนสามารถประยุกต์เป็นแนวคิดหลักใช้เทศนาพรรณาโวหารเผยแผ่แก่พุทธบริษัท ๔ ได้สดับฟังในกิจกรรมวันสำคัญต่างๆ

Abstract: This thesis was a documentary research and consisted of three purposes. They were to (1) study Vemanikata in Theravada Buddhism, (2) study causes and effects of action (Kamma) of Vemanikapeta, and (3) study Kamma results of Vemanikapeta. The results of study were as follows: Vemanikapeta in Theravada Buddhism was related to four ways of unhappy existence. They were Narok (hell), Pittiwisai, Asurakai (demon), and Diracchan (animals). According to Sutra, there were 37 types of Pret (hungry ghosts). Vemanikapeta was only one type of Pret which lived in Wimana (castle). Some Vemanikapeta enjoyed happiness mean in the waxing moon, and encountered hardship in the waning moon. Some types of Vemanikapeta enjoyed seven days of happy meals, and encountered seven days of hardship. At day time, they would encounter the same hardship as the hell animals. At night time, they would live in beautiful castles which were not different from Devata (angels). At the time of happiness, the body of Vemanikapeta would become celestial. Moreover, they would have celestial property as gods living in the castle surrounded by paradise gardens. Buddha taught the cycle of life. Thus, Buddhist believed in Buddha’s teaching such as giving alms, Sila, chanting, good khamma, and bad khamma. The cause of Khamma factors of Vemanikapeta let them be born in the heaven, in the world of human, and in four ways of unhappy existence. Only action with intention was considered “Kamma”. In contrast, the action without intention was not considered as “kamma”. State of hardship and happiness of Vemanikapeta consisted of three physical actions, four verbal actions, and four mental actions. In contrast, Vemanikapeta encountered three ways of physical suffer such as killing animals, stealing, and cheating. Those who killed animals would be born with poor body and bad health. Those who stole the others’ property would be born with poverty. They would be not successful in doing business. Those who had sexual misconduct would be born with wrong sexual needs. Suffering from four verbal speeches were lying, cheating, sneaky speaking, and raving. Those who lied, and cheated others would be born with unclear speech, out of order teeth, and smelly mouth. Those who spoke sneakily and looked down the others would be born with the behavior of flawing themselves. Those who spoke bad words would be born in the noisy place. Those who raved and gossiped would be born with less credit and less consideration. Suffering from three mental states. Those who wanted the others’ property would not be able to keep their own property and values. Besides, they would be born in a poor family. Those who wanted to hurt or be vindictive would be born with many diseases. Those who considered the right to be the wrong thing would be born in uncivilized land lacking of education. Those who consisted of these ten bad actions would go to the hell. Knowledge from achieving both happiness and hardship of Vemanikapeta caused the researcher to see the state of human as the state of cause and effect. Bad action resulted in suffering and good action resulted in happiness which could be applied to teach four groups of Buddhists in vital day.

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. สำนักหอสมุดและเทคโนโลยีสารสนเทศ

Address: อยุธยา

Email: library@mcu.ac.th

Name: พระมหาสุพัตร์ วชิราวุโธ

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Name: เกียรติศักดิ์ นาคประสิทธิ์

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Created: 2557

Modified: 2561-08-20

Issued: 2561-08-20

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

DegreeName: พุทธศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: สาขาวิชาพระพุทธศาสนา

Grantor: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

©copyrights มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	MCU570202024.pdf	1.29 MB	37	2024-03-01 23:34:08

ใช้เวลา

0.027575 วินาที