แจ้งเอกสารไม่ครบถ้วน, ไม่ตรงกับชื่อเรื่อง หรือมีข้อผิดพลาดเกี่ยวกับเอกสาร ติดต่อที่นี่ ==>
หากไม่มีอีเมลผู้รับให้กรอก thailis-noc@uni.net.th
หากไม่มีอีเมลผู้รับให้กรอก thailis-noc@uni.net.th
พระครูโกศลศาสนกิจ อกฺกวํโส (ศีลาคม). ศึกษาการแนวทางการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในครอบครัวตาม หลักธรรม ในชุมชนตำบลชุมช้าง อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย. ปริญญาโท(สาขาวิชาพระพุทธศาสนา). มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. สำนักหอสมุดและเทคโนโลยีสารสนเทศ. : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, 2560.
ศึกษาการแนวทางการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในครอบครัวตาม หลักธรรม ในชุมชนตำบลชุมช้าง อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย
A Study of An Approach of Solving the Conflict in Family in Accordance with the Principle of Dhamma in the Community of Khumchang Sub-district, Phonphisai District, Nongkhai Province
keyword:
ครอบครัว
;
หลักธรรม
Abstract:
วัตถุประสงค์ของงานวิจัยเรื่องนี้ ๑) เพื่อศึกษาหลักธรรมที่เกี่ยวกับความขัดแย้งในพระพุทธศาสนาเถรวาท ๒) เพื่อศึกษาบริบทของครอบครัวไทยตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันและปัญหาความขัดแย้งในครอบครัวในสังคมไทยปัจจุบัน ๓) เพื่อศึกษาวิธีการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในครอบครัวตามหลักธรรมในชุมชนชุมช้าง อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย การศึกษาครั้งนี้ เป็นการวิจัยวิจัยเชิงคุณภาพ โดยศึกษาข้อมูลปฐมภูมิจากพระไตรปิฎก ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อรรถกถา ฎีกา อนุฎีกา และข้อมูลทุติยภูมิจากหนังสือเอกสารทางพระพุทธศาสนาเถรวาท บทความ และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการลงพื้นที่ในการสัมภาษณ์ประชาชนในพื้นที่ และนำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลโดยวิธีพรรณนาวิเคราะห์
ครอบครัว หมายถึง กลุ่มบุคคลที่มีความผูกพันและใช้ชีวิตร่วมกันทั้งโดยการสมรสและการสืบเชื้อสายโลหิต ครอบครัวทำหน้าที่เป็นสถาบันหลักในการอบรมและดูแลบุคคลในครอบครัว เป็นแกนกลางของระบบความสัมพันธ์ในสังคมที่เป็นรากฐานสำคัญต่อการดำรงชีวิตครอบครัวมีหลากหลายประเภท สำหรับสังคมไทยสามารถจัดได้ ๒ ประเภท คือ ครอบครัวเดี่ยวและครอบครอบขยายหรือครอบครัวใหญ่ ถ้าครอบครัวมีความมั่นคงก็สามารถพัฒนานำพาบุคคลไปสู่ ความเจริญงอกงามได้ แต่ในทางตรงกันข้ามถ้าครอบครัวมีความขัดแย้งก็นำพาไปสู่ความเสื่อมของบุคคล ครอบครัว และสังคมได้
จากการศึกษาปัญหาความขัดแย้งของครอบครัวในชุมชนชุมช้าง อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย พบว่า มีปัญหาที่สำคัญหลายประการ ได้แก่ ๑) ปัญหาความขัดแย้งขั้นพื้นฐานในการดำรงชีวิตประจำวัน เช่น ปัญหาความแตกต่างด้านลักษณะนิสัย ทัศนคติ หรือบุคลิกภาพที่เป็นเชิงปัจเจกบุคคล หรือมาจากครอบครัวเดิม๒) ปัญหาที่เกี่ยวเนื่องกับการดำรงชีวิตของครอบครัว เช่น ปัญหาด้านการเงิน และปัญหาของบุคคลในครอบครัวที่ไม่ตระหนักถึงบทบาทหน้าที่ของตนเอง ซึ่งเป็นปัญหาระดับกลาง ๓) ปัญหาความขัดแย้งในระดับรุนแรงของครอบครัว เช่น ปัญหาการหย่าร้าง การนอกใจการไปมีภรรยาหรือสามีใหม่ การทะเลาะเบาะแวงขั้นรุนแรง ที่นำไปสู่การทำร้ายซึ่งกันและกันหรือนำไปสู่ปัญหาความขัดแย้งในครอบครัวจนไม่สามารถประคับประคองสภาพครอบครัวให้อยู่รอดมั่นคงได้
ส่วนวิธีการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในครอบครัวตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนานั้น สามารถนำหลักพุทธธรรมมาแก้ไขได้ โดยจำแนกเป็นระดับต่างๆ ดังนี้ ๑) ปัญหาของครอบครัวขั้นพื้นฐานสามารถแก้ไขได้ โดยนำหลักสัมมาทิฏฐิ ความเห็นที่ถูกต้องตามธรรมนองครองธรรม การมีสติสัมปชัญญะ การใช้หลักสมชีวิตา และการใช้หลักธรรมของคู่ชีวิต ๔ ประการ(๑) สมสัทธา มีศรัทธาเสมอกัน (๒) สมสีลา มีศีลเสมอกัน (๓) สมจาคา มีจาคะเสมอกัน (๔) สมปัญญา มีปัญญาเสมอกัน รวมทั้งหลักนำสังคหวัตถุธรรมมาใช้ในการดำรงชีวิต ๒) ปัญหาของครอบครัวระดับกลาง สามารถแก้ไขได้โดยนำหลักทิฏฐธัมมิกัตถประโยชน์และหลักอาทิโภคิยะ ๕มาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาครอบครัว และ ๓) ปัญหาของครอบครัวในระดับรุนแรง สามารถนำหลักฆราวาสธรรม และหลักทิศ ๖ มาประยุกต์ใช้ คือ หลักปฏิบัติของผู้เป็นสามี ๕ ประการ หลักปฏิบัติของผู้เป็นภรรยามีอยู่ ๕ ประการ หลักปฏิบัติของบิดามารดาต่อบุตรธิดา ๕ ประการ หลักปฏิบัติของบุตรธิดาต่อบิดามารดา ๕ ประการในการพัฒนาความสัมพันธ์ของบุคคลในครอบครัวนอกจากนี้ ยังแก้ไขด้วยการปฏิบัติธรรมตามหลักพรหมวิหาร ๔ ประการ และหลักอัตตสัมมาปณิธิคือ การตั้งตนไว้ชอบ ดำรงตนอยู่ในศีลในธรรมอันดีงามของสังคม
Abstract:
The purposes of the research entitled were; 1) to study the principle of Dhamma related to the conflict in Theravada Buddhism 2) to study the context of Thai families from the past to the present and the conflict problems in the present Thai society and 3) to study the approach to solve the conflict in the family in compliance with the principle of Dhamma in Khumchang community, Phonphisai District, Nongkhai Province. This research was the qualitative research by studying the primary data from Tipitaka in series of Mahachulalongkornrajavidyalaya, Commentary, sub-commentary and the second data from the documentaries in Theravada Buddhism, articles, and related researches including field study by interviewing people in the regions and reporting the results of research by descriptive analysis.
The results of research were found that family means the groups of people who have the relationship and to proceed the lives with each other both marriage and heiress. The families have done the duties as the basic institutes to train and take of people in families and to be the core centers of the relative system in society as the important foundation for living. There are a lot of categories. For the Thai society, there are two types, that is, the single family and extended family or big family. If the family is stable, it can lead people to be progressive but in the opposite way, if the family has conflict, it will lead people to the disaster of people, family and society.
From studying the conflict problems of the families in Khumchang community, Phonphisai District, Nongkhai Province, it was found that there are a lot of important problems, that is, 1) the basic conflict in daily living such as the difference in the aspect of habit feature, attitude or personality of each person or problems from the formerly family 2) the problems related to living of the family such as the monetary problems and the personal problems, who do not realize of their own duties that are the middle problems 3) the serious conflict problems of the family such as the divorced problems, unfaithful problems and to have ex-wife or new husband. The serious argument that leads to harm each other or leads to the conflict problems in the family until it cannot control the family to be safety or secure.
While the approach to solve the conflict problems in the family in accordance with the principle of Dhamma in Buddhism can be applied for solving the problems by dividing into various levels, that is, 1) the problems of basic family can be solved by application of the principle of Right View, that is, the right opinion in accordance with the principle of Dhamma, consisting of mindfulness and circumspection, balanced livelihood, application of 4, that is, 1) means to be matched in faith, 2) means to be matched in moral conduct 3) means to be matched in generosity and 4) means to be matched in wisdom including the application of the principle of 4 Basses of Social Solidarities, 2) the problems of the middle family can be solved by applying the principle of the principle of and the principle of 5 for developing the family and 3) the serious problems for the family can be solved with the principle of and 6 for application, that is, the 5 ways for husband to serve his wife, 5 ways for her husband, 5 ways for parents to serve their own children, 5 ways for the children their own parents. In addition, to develop the relationship of people in family can be solved with the Dhamma Practice in accordance with the principle of 4 and means setting oneself in the right way and to keep oneself in good morality of society.
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. สำนักหอสมุดและเทคโนโลยีสารสนเทศ
Address:
อยุธยา
Email:
library@mcu.ac.th
Name: พระมหาปริญญา วรญาโณ
Role:
อาจารย์ที่ปรึกษา
Name: พระครูจิรธรรมธัช
Role:
อาจารย์ที่ปรึกษา
Created:
2560
Modified:
2561-07-27
Issued:
2561-07-27
วิทยานิพนธ์/Thesis
application/pdf
tha
DegreeName: พุทธศาสตรมหาบัณฑิต
Level: ปริญญาโท
Descipline: สาขาวิชาพระพุทธศาสนา
Grantor: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
©copyrights มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
RightsAccess:
ใช้เวลา
0.027636 วินาที
พระครูโกศลศาสนกิจ อกฺกวํโส (ศีลาคม)
| Title | Contributor | Type |
|---|---|---|
| ศึกษาการแนวทางการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในครอบครัวตาม หลักธรรม ในชุมชนตำบลชุมช้าง อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พระครูโกศลศาสนกิจ อกฺกวํโส (ศีลาคม) | พระมหาปริญญา วรญาโณ พระครูจิรธรรมธัช | วิทยานิพนธ์/Thesis |
พระมหาปริญญา วรญาโณ
พระครูจิรธรรมธัช