แจ้งเอกสารไม่ครบถ้วน, ไม่ตรงกับชื่อเรื่อง หรือมีข้อผิดพลาดเกี่ยวกับเอกสาร ติดต่อที่นี่ ==>
หากไม่มีอีเมลผู้รับให้กรอก thailis-noc@uni.net.th ติดต่อเจ้าหน้าที่เจ้าของเอกสาร กรณีเอกสารไม่ครบหรือไม่ตรง

ความสัมพันธ์ระหว่างอยุธยาและลานนา พ.ศ. 1839-2310
Ayuthya-Lanna relation, 1296-1767

ThaSH: ไทย -- ประวัติศาสตร์ -- กรุงศรีอยุธยา, 1893-2310
ThaSH: ไทย -- ประวัติศาสตร์ -- ล้านนา
Abstract: เขตที่ราบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำปิง และแม่นำกก เป็นเขตที่ชุมชนอาศัยอยู่มานานแล้ว ประมาณพุทธศตวรรษที่ 17 เป็นต้นมาพบหลักฐานการติดต่อสัมพันธ์กันในหมู่ชุมชนเหล่านี้ มีลักษณะเป็นการขยายวัฒนธรรมจากเขตที่ราบลุ่มเจ้าพระยา ขึ้นมายังเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำปิงทางตอนบน และความสัมพันธ์ในด้านเศรษฐกิจ คือการค้าขายระหว่างเขตทั้ง 2 ในขณะเดียวกันก็มีหลักฐานความสัมพันธ์ระหว่างลุ่มแม่น้ำกก และลุ่มแม่น้ำปิง ตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 19 เป็นต้นมา ได้มีการก่อรูปอาณาจักรขึ้นคือ อาณาจักรลานนาไทยในบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำกกและที่ราบลุ่มแม่น้ำปิงทางตอนบน อาณาจักรสุโขทัยในบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาทางตอนบน และอาณาจักรอยุธยาในบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาทางตอนล่าง วิทยานิพนธ์ฉบับนี้มุ่งศึกษาถึงความสัมพันธ์ระหว่างอาณาจักรลานนาไทยและอยุธยาตั้งแต่ พ.ศ. 1839 – 2310 โดยพิจารณาถึงระบบการเมืองการปกครอง ศาสนา และเศรษฐกิจ อันมีผลต่อความสัมพันธ์ของอาณาจักรทั้งสอง พิจารณาถึงรูปแบบและความเปลี่ยนแปลงของความสัมพันธ์ภายในอาณาจักรตลอดจนวิธีการของความสัมพันธ์ ผลของการศึกษาพบว่า ในความสัมพันธ์ของอาณาจักรทั้งสองมีผลมาจากโครงสร้างทางการเมือง การปกครอง เศรษฐกิจ และศาสนา แนวความคิดพุทธศาสนาลังกาวงศ์ที่มีบทบาทต่อโครงสร้างสถาบันกษัตริย์และโครงสร้างทางการเมือง การปกครอง การขยายอำนาจเข้าครอบครองอาณาจักรสุโขทัยของอาณาจักรอยุธยา ขุนนางลานนาไทย การขยายอิทธิพลของพม่ามายังเขตที่ลุ่มแม่น้ำดังกล่าว และสินค้าของป่า สิ่งเหล่านี้เป็นแรงผลักดันสำคัญที่อยู่เบื้องหลังความสัมพันธ์ในแต่ละครั้ง ความสัมพันธ์ของอาณาจักรทั้งสองในระยะแรก เป็นผลมาจากการขยายอำนาจเข้าครอบครองอาณาจักรสุโขทัยของอาณาจักรทั้งสอง เป็นผลมาจาก แนวความคิด “จักรพรรดิราช” และแรงผลักดันทางด้านเศรษฐกิจคือ สินค้าของป่า ลักษณะการขยายอำนาจ อาณาจักรอยุธยาเป็นฝ่ายยกทัพขึ้นมามากกว่าอาณาจักรลานนาไทย หลังสมัยราชวงศ์มังรายเป็นต้นมามีแรงผลักดันของความสัมพันธ์อีกสองประการ คือ การขยายอำนาจของราชวงศ์ตองอู และการขยายตัวทางการค้าในอาณาจักรอยุธยา ซึ่งมีผลกระทบต่ออาณาจักรทั้งสองอย่างมากทั้งในด้านการเมืองและศูนย์กลาง อาณาจักรลานนาไทยต้องตกเป็นของพม่าในขณะที่อาณาจักรอยุธยาได้พัฒนาด้านการปกครองภายในอาณาจักรให้รัดกุมขึ้น ความสัมพันธ์ในระยะนี้ลานนาไทยอยู่ในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของพม่า ซึ่งทำสงครามกับอยุธยาเป็นครั้งคราว การค้ากับต่างประเทศทำให้พระมหากษัตริย์อยุธยาเพิ่มความมั่งคั่ง จึงยิ่งผลักดันให้พยายามรักษาผลประโยชน์ทางการค้าและเข้าครอบครองลานนาไทยในระยะก่อนพุทธศตวรรษที่ 23 ในขณะเดียวกันอาณาจักรอยุธยาก็ขยายอำนาจเข้าควบคุมหัวเมืองท่าทางฝั่งตะวันตก คือ ตะนาวศรี และหัวเมืองมอญ ความสัมพันธ์ทางด้านเศรษฐกิจในประมาณครึ่งหลังพุทธศตวรรษที่ 23 เริ่มน้อยลง เพราะความต้องการสินค้าป่าในอยุธยาลดลง และแรงผลักดันทางด้านการเมืองก็มีน้อยลง คือพม่ามิได้ขยายอำนาจเข้ามาในเขตนี้อีก จนกระทั่งราชวงศ์อลองพญาได้ขยายอำนาจเข้ามาในเขตนี้อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งนำไปสู่ความสัมพันธ์กับศูนย์อำนาจในลุ่มน้ำเจ้าพระยาอีกครั้งหนึ่ง โดยผู้นำท้องถิ่นในลานนาพยายามอาศัยอำนาจหักล้างอำนาจของพม่า
Abstract: It is possible to believe that the three river basins of the Chow Phya, Ping and Kok had been populated for centuries before major state were formed in these regions. Aroundthe 12th Century, at the latest, a relationship of the three communities was evidently in existence. The relationship was featured in an expansion of culture from the Chow Phya basin to the upper Ping, and commercial exchanges of the two regions. At the same time, relationship between the communities in the Ping and Kok basins in accounted for in some documents. The 13th – 14th Centuries witnessed the formation of major states in the two river basins: Lama which had its center in the Ping and the Kok, Sukhothai in the upper Chow Phya, and Ayudhya in the Lower Cow Phya. This study attempts to understand the relationship between the Lanna kingdom and Ayudhya kingdom from 1296 to 1767 A.D. by putting it in the contexts of politics religion, economics of the two kingdom. The study is also interested in the various patterns of relationship and the means by which the two kingdoms used in formulating those patterns. It is found that the relationship of the two states was shaped by the interplay of their political structures, economic needs as well as religious thoughts. Sinhalese Buddhism which gave moral justification to the monarchial institution and the polity of the state, the deepening domination of Ayudhya over Sukhothai, the Burmese expansion of power over these river basins, the significance of forest products in Ayudhya’s foreign trade, collectively formed major forces behind the patterns of relationship of the two states. The first stage of relationship was characterized by aggrandizement of the two kingdoms at the expense of the Sukhothai kingdom the propensity towards aggrandizement was motivated by the concept of “Cakravartin” and, on the part of Ayudhya, an assurance of continuous supply of forest products Ayudhya was generally more aggressive than Lanna in extending its control over Sukhothai and neutraliezing Lanna’s protective power in Sukhothai. After the fall of the house of Mangrai, two additional factors further complicated the relation of the two states: the expansion of the Toungoo Dynasty and the intensity of foreign trade in Ayudhya; both factors emerged with deep impacts on the politics and economics of the two states. Lanna became a vassal state of the Toungoo Dynasty while Ayudhya was able to develop a better organized administrative apparatus internally. Armed conflicts between Ayudhya and Ava during this period involved Lanna as a part of the Burmese empire. Foreign trade in Ayudhya enormously enriched its king and enabled them to defend their commercial interest more actively. The early 17th Century saw Ayudhya’s attempt to gain control over Lanna, while its ports in the western flank were secured. The economic relationship in the latter half of the 17th Century and the 18th Century, however, dwindled, and naturally the attempt at political control over Lanna subsided. Moreover, Burmese power in Lanna drastically diminished and Burma thus no longer posed any threat against Ayudhya. It was not until late in the 18th Century that the newly founded dynasty of Konbauny imposed its tighter control over Lanna again. The new situation led to a renewed contact of Lanna’s local leaders with the power center in the Chow Phya basin in order to balance off the Burma power in their home.
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. สำนักงานวิทยทรัพยากร
Address: กรุงเทพมหานคร
Email: cuir@car.chula.ac.th
Role: ที่ปรึกษา
Created: 2526
Modified: 2561-05-18
Issued: 2561-05-01
วิทยานิพนธ์/Thesis
application/pdf
ISBN: 9745620157
URL: http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/27875
tha
©copyrights จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
RightsAccess:
ลำดับที่.ชื่อแฟ้มข้อมูล ขนาดแฟ้มข้อมูลจำนวนเข้าถึง วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1 Usanee_Th_front[1].pdf 577.75 KB8 2022-07-21 17:08:33
2 Usanee_Th_ch1[1].pdf 1.44 MB5 2022-07-21 17:12:28
3 Usanee_Th_ch2[1].pdf 1.49 MB5 2022-07-21 17:12:51
4 Usanee_Th_ch3[1].pdf 932.49 KB4 2022-07-21 17:13:04
5 Usanee_Th_ch4[1].pdf 1.38 MB4 2022-07-21 17:13:16
6 Usanee_Th_back[1].pdf 929.75 KB4 2022-07-21 17:13:30
ใช้เวลา
0.028999 วินาที

อุษณีย์ ธงไชย
Title Contributor Type
ความสัมพันธ์ระหว่างอยุธยาและลานนา พ.ศ. 1839-2310
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
อุษณีย์ ธงไชย
นิธิ เอียวศรีวงศ์
วิทยานิพนธ์/Thesis
นิธิ เอียวศรีวงศ์
Title Creator Type and Date Create
ความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจของสันป่าตอง : ศึกษาความเปลี่ยนแปลงของพ่อค้าคนกลางที่รับซื้อผลผลิตทางการเกตรและความสัมพันธ์ระหว่างพ่อค้าคนกลางฯกับเกษตรกร (พ.ศ.2500-2538)
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
สายชล สัตยานุรักษ์;นิธิ เอียวศรีวงศ์;อรรถจักร์ สัตยานุรักษ์
กัลยารัตน์ วงศ์เรือไชย
วิทยานิพนธ์/Thesis
ประวัติของชุมชนในบริเวณลุ่มน้ำแม่หลุ อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ฉลาดชาย รมิตานนท์;กรรณิการ์ เล็กบุญญาสิน;นิธิ เอียวศรีวงศ์
วิทยา อาภรณ์
วิทยานิพนธ์/Thesis
ความเป็นจีนตามนิยามของผู้มีเชื้อสายจีนในอำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
นิธิ เอียวศรีวงศ์;ไชยันต์ รัชชกูล;สายชล สัตยานุรักษ์;อรรถจักร์ สัตยานุรักษ์
เกษวดี พุทธภูมิพิทักษ์
วิทยานิพนธ์/Thesis
ระบบเศรษฐกิจของราชอาณาจักรล้านช้าง (ลาว) ในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 16-17
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
สรัสวดี อ๋องสกุล;นิธิ เอียวศรีวงศ์;สุเทพ สุนทรเภสัช
มาซูฮารา, โยซิยูกิ
วิทยานิพนธ์/Thesis
การศึกษาเชิงประวัติศาสตร์เกี่ยวกับกระบวนการกลายเป็นไทยของชาวกะเหรี่ยงในหมู่บ้านแพะ อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
นิธิ เอียวศรีวงศ์;สายชล สัตยานุรักษ์;อรรถจักร์ สัตยานุรักษ์
เปรมพร ขันติแก้ว
วิทยานิพนธ์/Thesis
พัฒนาการของหมอลำในเมืองอุบลราชธานี
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
นิธิ เอียวศรีวงศ์;สายชล สัตยานุรักษ์;อรรถจักร์ สัตยานุรักษ์
พรสรวง เถาว์ทวี
วิทยานิพนธ์/Thesis
ข้อพิพาทระหว่างทาสกับนายเงิน ในสมัยรัชกาลที่ 5 : ศึกษาจากคดีความและฎีกา ร.ศ.103-120
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
อัญชลี สุสายัณห์;นิธิ เอียวศรีวงศ์;สายชล สัตยานุรักษ์
รัชนีกร อินทโชติ
วิทยานิพนธ์/Thesis
ผู้หญิงสามัญชนในเมืองแถบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาสมัยรัชกาลที่ 3-5
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
สายชล สัตยานุรักษ์;นิธิ เอียวศรีวงศ์;อัญชลี สุสายัณห์
ตวงทอง เหล่าวรรธนะกูล
วิทยานิพนธ์/Thesis
ความรู้ในตำราพรหมชาติ
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
นิธิ เอียวศรีวงศ์;อรรถจักร์ สัตยานุรักษ์;สายชล สัตยานุรักษ์
ปัทมากร บุลสถาพร
วิทยานิพนธ์/Thesis
การเมืองภาคประชาชน : การเคลื่อนไหวของชาวบ้านในเครือข่ายกลุ่มเกษตรกรภาคเหนือ พ.ศ. 2530-2547
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
อรรถจักร์ สัตยานุรักษ์;สายชล สัตยานุรักษ์;นิธิ เอียวศรีวงศ์
วิเชิด ทวีกุล
วิทยานิพนธ์/Thesis
ความสัมพันธ์ระหว่างวัดกับชุมชนในการจัดการการเทศน์มหาชาติของล้านนา
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ชูเกียรติ ลีสุวรรณ์;นิธิ เอียวศรีวงศ์;ชัชวาล ทองดีเลิศ
พระมหาพีระพงษ์ พยัคกาฬ
วิทยานิพนธ์/Thesis
ระบบศักดินาไทยและยุโรป : ศึกษาเปรียบเทียบโครงสร้างทางสังคมและลักษณะพัฒนาการ
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
นิธิ เอียวศรีวงศ์;สุเทพ สุนทรเภสัช
กรรณิการ์ นิโลบล
วิทยานิพนธ์/Thesis
ความเปลี่ยนแปรของสำนึกทางประวัติศาสตร์ และการเปลี่ยนแปลงทางสังคมไทย ตั้งแต่รัชกาลที่ 4 ถึง พ.ศ. 2475
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
นิธิ เอียวศรีวงศ์
อรรถจักร์ สัตยานุรักษ์
วิทยานิพนธ์/Thesis
ความสัมพันธ์ระหว่างอยุธยาและลานนา พ.ศ. 1839-2310
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
นิธิ เอียวศรีวงศ์
อุษณีย์ ธงไชย
วิทยานิพนธ์/Thesis
Copyright 2000 - 2025 ThaiLIS Digital Collection Working Group. All rights reserved.
ThaiLIS is Thailand Library Integrated System
สนับสนุนโดย สำนักงานบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อพัฒนาการศึกษา
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
328 ถ.ศรีอยุธยา แขวง ทุ่งพญาไท เขต ราชเทวี กรุงเทพ 10400 โทร. โทร. 02-232-4000
กำลัง ออน์ไลน์
ภายในเครือข่าย ThaiLIS จำนวน 8
ภายนอกเครือข่าย ThaiLIS จำนวน 2,988
รวม 2,996 คน

More info..
นอก ThaiLIS = 137,259 ครั้ง
มหาวิทยาลัยสังกัดทบวงเดิม = 1,040 ครั้ง
มหาวิทยาลัยราชภัฏ = 325 ครั้ง
มหาวิทยาลัยเอกชน = 53 ครั้ง
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล = 20 ครั้ง
มหาวิทยาลัยสงฆ์ = 5 ครั้ง
หน่วยงานอื่น = 5 ครั้ง
สถาบันพระบรมราชชนก = 1 ครั้ง
มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ = 1 ครั้ง
รวม 138,709 ครั้ง
Database server :
Version 2.5 Last update 1-06-2018
Power By SUSE PHP MySQL IndexData Mambo Bootstrap
มีปัญหาในการใช้งานติดต่อผ่านระบบ UniNetHelp


Server : 8.199.134
Client : Not ThaiLIS Member
From IP : 216.73.216.46