แบบจำลองการวัดประสิทธิภาพของคลังสินค้าโดยการวิเคราะห์ร่วมกับปัจจัยภายนอก PEST

A model for warehouse performance measurement with PEST analysis.

Name: อนุชา หิรัญวัฒน์

ThaSH: การจัดการคลังสินค้า

ThaSH: การวิเคราะห์การถดถอย

ThaSH: การวิเคราะห์ปัจจัยการผลิตกับผลผลิต

Abstract: งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาแบบจำลองสมการโครงสร้างสำหรับวัดประสิทธิภาพคลังสินค้า โดยพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยภายนอกร่วมกับตัวดัชนีชี้วัดประสิทธิภาพการทำงานของคลังสินค้า 4 กลุ่มคือ เวลา ค่าใช้จ่าย ผลิตภาพ และคุณภาพ ซึ่งแบบจำลองที่นำเสนอในงานวิจัยนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยการใช้แบบจำลองสมการโครงสร้างร่วมกับชุดข้อมูล 215 คลังสินค้าที่เก็บข้อมูลมาจากอุตสาหกรรมในกลุ่มยางพาราและพลาสติก กลุ่มอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์ไฟฟ้า กลุ่มยานยนต์และรถพ่วงในประเทศไทย ผลลัพธ์ที่ได้จากการใช้โปรแกรม AMOS แสดงให้เห็นว่าแบบ จำลองที่นำเสนอในงานวิจัยนี้ประกอบไปด้วยตัวแปรจำนวน 14 ตัวแปรที่มีนัยสำคัญต่อประสิทธิภาพของคลังสินค้าที่ระดับนัยสำคัญ 0.05 ได้แก่ ระยะเวลาเฉลี่ยในการตอบสนองของคลังสินค้าต่อ คำสั่งซื้อ อัตราส่วนต้นทุนแรงงานต่อยอดขาย อัตราส่วนต้นทุนการจัดเก็บสินค้าต่อยอดขาย อัตราส่วนต้นทุนการขนส่งต่อยอดขาย และอัตราส่วนความสามารถในการจัดส่งสินค้าได้อย่างถูกต้องสมบูรณ์ เป็นต้น สิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญก็คือ แบบจำลองที่นำเสนอในงานวิจัยนี้ได้รับการทดสอบว่าเป็นที่ยอมรับได้ หรือไม่ ตามค่าที่ได้จากการวัดด้วยดัชนีทั้ง 5 ตัวคือ ค่า Chi-Square (P = 0.876) ค่าดัชนี Goodness-of-Fit (GFI = 0.979) ค่าดัชนี Normed Fit Index (NFI = 0.975) ค่าดัชนี Comparative Fit Index (CFI = 1.000) และค่า Root Mean Square ของข้อผิดพลาด (RMSEA = 0.000) ซึ่งค่าที่ได้แสดงให้เห็นว่าแบบจำลองที่นำเสนอในงานวิจัยนี้เป็นที่ยอมรับในการนำไปใช้ในการวัดประสิทธิภาพคลังสินค้า หลังจากนั้นในงานวิจัยนี้ก็ได้ทำการวิเคราะห์ถึงผลกระทบต่อประสิทธิภาพของคลังสินค้าจากปัจจัยภายนอกซึ่งประกอบไปด้วย ปัจจัยทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยีที่เรียกว่า PEST เป็นกรอบในการวิเคราะห์ ซึ่งผลที่ได้พบว่าระดับผลกระทบของปัจจัยทางเทคโนโลยีจะส่งผลมากที่สุดต่อระยะเวลาเฉลี่ยในการตอบสนองของคลังสินค้า ทั้งนี้เนื่องจากเทคโนโลยีสามารถช่วยเพิ่มความเร็วให้กับการปฏิบัติงานในคลังสินค้าได้ ในทำนองเดียวกันปัจจัยทางเศรษฐกิจก็ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของคลังสินค้าในลำดับรองลงมา โดยจะมีผลกระทบมากสุดต่อค่าแรง และค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บสินค้า ในขณะที่ปัจจัยทางการเมืองและปัจจัยทางสังคมจะมีผลกระทบเพียงเล็กน้อยต่อปัจจัยการดำเนินงานภายในคลังสินค้า จากการวิเคราะห์ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าประสิทธิภาพของคลังสินค้าจะสูงขึ้นโดยการลงทุนทางด้านเทคโนโลยีมากขึ้น อย่างไรก็ตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจก็จะต้องถูกเฝ้าติดตาม เนื่องจากการขับเคลื่อนยอดขายจะต้องมีการบริหารจัดการต้นทุนค่าแรง และต้นทุนการถือครองสินค้าอย่างจริงจัง

Abstract: This research aims to develop a structural equation model for warehouse performance measurement by consider on the relationships among external factors and four warehouse performance indicators. The indicators are classified and grouped according to the dimensions of time, cost, productivity and quality. The proposed model was generated using the structural equation modeling technique together with a dataset of 215 warehouses from rubber and plastic, electronic and electrical equipment, motor vehicles and trailers industries in Thailand. The results with the use of the AMOS software show that the proposed model consists of 14 variables that are significant to warehouse performance with level of significant at 0.05. These variables such as average warehouse order cycle time, ratio of labor cost per sale, ratio of holding cost per sale, ratio of transportation cost per sale and perfect order rate etc. Importantly, the proposed model was tested whether it was acceptable based on the goodness-of-fit measures. The results show that the values obtained for the five measures: Chi-Square (P = 0.876), Goodness-of-fit Index (GFI =0.979), Normed Fit Index (NFI = 0.975), Comparative Fit Index (CFI = 1.000), and Root Mean Square Error of Approximation (RMSEA = 0.000) indicating that the proposed model was acceptable to measure warehouse performance. After that, this research also analyzes the effects of external factors on warehouse performance. Political, economic, social, and technological factors, called PEST, are used as an analytical framework. It shows that the impact level of technological factor was assessed the most influence on order cycle time as technology can speed up the warehouse operations. Similarly, economic factor was also ranked the most and second most impact on labor cost and holding cost. On the other hand, political and social factors were considered less influence on those internal factors. Implicitly, the data indicates that the performance of warehouse should be higher by investing more on technology. However, the economic situation

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ. สำนักหอสมุดกลาง

Address: กรุงเทพมหานคร

Email: library@kmutnb.ac.th

Name: เปรมพร เขมาวุฆฒ์

Role: ที่ปรึกษาดุษฎีนิพนธ์

Email : ppm@kmutnb.ac.th

Name: วิชัย รุ่งเรืองอนันต์

Role: ที่ปรึกษาดุษฎีนิพนธ์

Email : r_vichai@yahoo.com, vichair@kmutnb.ac.th

Created: 2559

Modified: 2025-08-18

Issued: 2561-04-05

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

DegreeName: ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต

Level: ปริญญาเอก

Descipline: วิศวกรรมอุตสาหการ

Grantor: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ

©copyrights มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	B16119629.pdf	4.19 MB	152	2025-11-06 00:20:04

ใช้เวลา

0.031229 วินาที