การพัฒนาระบบการเสริมสร้างวิสาหกิจชุมชนของสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา

The development of system to promote community enterprise in educational institutes under the Office of Vocational Education Commission.

Name: ประทิน เลี่ยนจำรูญ

ThaSH: การวางแผนหลักสูตร

ThaSH: การฝึกอบรม -- หลักสูตร

ThaSH: วิทยากร -- การฝึกอบรม -- หลักสูตร

ThaSH: วิสาหกิจชุมชน

Abstract: การวิจัยเรื่อง การพัฒนาระบการเสริมสร้างวิสาหกิจชุมชนของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาครั้งนี้ ผู้วิจัยใช้ระเบียบวิธีการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) โดยทำการศึกษาอย่างเป็นระบบในการเก็บรวบรวมข้อมูลทั้งด้านเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและประเมินระบบการเสริมสร้างวิสาหกิจชุมชนของสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กลุ่มเป้าหมายในการเก็บข้อมูลเพื่อประเมินระบบการเสริมสร้างวิสาหกิจชุมชนของสถานศึกษา ได้แก่ ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยเพื่อประเมินรายการหลักความต้องการจำเป็น ในการฝึกอบรม และสร้างเครื่องมือหาหัวข้อฝึกอบรมที่ตรงกับความต้องการของวิสาหกิจชุมชน ได้แก่ ผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องกับการเสริมสร้างวิสาหกิจชุมชนในภาคใต้จำนวน 42 คน และหาประสิทธิภาพหลักสูตรฝึกอบรมหัวหน้าแผนกวิชา เพื่ออบรมวิทยากรวิสาหกิจชุมชน โดยการประเมินของผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน และนำไปใช้เก็บรวบรวข้อมูลกับหัวหน้าแผนกวิชา จำนวน 9 คน ซึ่งผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1. ผลการพันาระบบกรเสริมสร้างวิสาหกิจชุมชนของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ซึ่งระบบจะประกอบด้วย 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 จัดทำรายการหลักความต้องการจำเป็นฝึกอบรม (Competency Set) และสร้างเครื่องมือหาหัวข้อฝึกอบรมที่ตรงกับความต้องการของวิสาหกิจชุมชน ส่วนที่ 2 พัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมหัวหน้าแผนกวิชาเพื่ออบรมวิทยากรวิสาหกิจชุมชน ผู้เชี่ยวชาญประเมินความเหมาะสมของระบการเสริมสร้างวิสาหกิจชุมชนของสถานศึกษาในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด 2.ผลการประเมินรายการหลักความต้องการจำเป็นฝนการฝึกอบรม (Competency Set)โดยผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องกับการเสริมวิสาหกิจชุมชนนภาคใต้ ที่มีผลการประเมินความต้องการอยู่ในระดับากขึ้นไป มีจำนวน 7 ด้าน ได้แก่ ด้านการเขียนแผนธุรกิจ ด้สนการตลาด ด้านการเงินและบัญชี ด้นทักษะและเทคโนโลยีช่างชุมชน ด้านการผลิตและบริการ ด้านการบริหารจัดการและด้านกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ แล้วนำรายการหลักความต้องการจำเป็นทั้ง 7 ด้านมาสร้างเครื่องมือหาหัข้อฝึกอบรม และให้ผู้เชี่ยวชาญกลุ่มเดียวกันประเมินความเหมาะสมของเครื่องมือที่สร้างขึ้น ซึ่งผลการประเมินอยู่ในระดับมากที่สุดทุกด้าน 3.ผลการประเมินหลักสูตรฝึกอบรมหัวหน้าแผนกวิชาเพื่ออบรมวิทยากรวิสาหกิจชุมชนตามรูปแบบ CIPP พบว่า ผู้เชี่ยวชาญประเมินสภาวะแวดล้อมหลักสูตรฝึกอบรมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด ประเมินปัจจัยนำเข้าหลักสูตรมีความสอดคล้องสูงทุกรายการประเมินกระบวนการจากการนำหลักสูตรฝึกอบรมไปใช้จริง ได้คะแนนผลสัมฤทธิ์ด้านทฤษฎีเท่ากับ 83.78/84.12 ผลสัมฤทธิ์คะแนนด้านปฏิบัติ มีค่าร้อยละ 77.34 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ทั้งด้านทฤษฎีและด้านปฏิบัติ และประเมินผลผลิต พบว่า ผลการอบรมที่ได้จากการประเมินการสอนภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติของหัวหน้าแผนกวิชาในการอบรมวิทยากรวิสาหกิจชุมชน ได้คะแนนผลสัมฤทธิ์ด้านทฤษฎีเท่ากับ 84.79/83.98 และได้คะแนนผลสัมฤทธิ์ด้านปฏิบัติ ร้อยละ 76.30 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ทั้ง 2 ด้าน และผลการประเมินความพึงพอใจของวิทยากรวิสาหกิจชุมชนทีต่อการจัดฝึกอบรมของหัวหน้าแผนกวิชา มีค่าอยู่ในระดับมากที่สุด ดังนั้นระบบ การเสริมสร้างวิสาหกิจชุมชนของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาที่ผู้วิจัยได้พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานการวิจัยที่ตั้งไว้

Abstract: The research on 'The Development of System to Promote Community Enterprise in Educational Institutes under the Office of Vocational Education Commission' has been designed as a research and development to conduct on both qualitative and quantitative study with the purposes on developing and evaluating the system to promote community enterprise in educational institutes under the Office of Vocational Education Commission. The target group to evaluate the community enterprise system included 5 specialists while the target group to investigate needs analysis for the competency sets included 42 specialists related in the field of community enterprise in Southern area. The developed training program was validated by 5 specialists and was implemented with 9 staffs who were the department heads in vocational institutes. The results can be concluded as follow. 1. The system to promote community enterprise in educational institutes under the Office of Vocational Education Commission comprises 2 main parts; part 1- the analysis of the needs on competency set in training which were used as a guideline to construct training program and its content according to the needs of the community enterprise. Part 2- the development of train-the -trainer program for the department heads to train the leaders of the community enterprises was evaluated in overall by the specialists at high level. 2. The results on the competency set needs details on the competency set needs reported by specialists in the field of community enterprises showed high necessity which can be divided into 7 aspects; business plan writing, marketing, finance and accounting, skills and technology of community technicians, production and services, administration and management, and laws and regulations. The 7 necessities were applied to develop training topics which were validated at very high appropriateness in every aspect. 3. The results of the training course efficiency evaluated through CIPP Model can be explained as follows. The context evaluation was very high similar to the input evaluation, in every aspect. The process evaluation was conducted by the implementation with the efficiency of the training program at 83.78/84.12 and the achievement of the practical part at 77.34 higher than the set criteria on both theory and practice. The product evaluation showed by the achievement of the department heads who joined the training program. Their achievement on the theoretical part equal 84.79/83.98 and that of practical part at 76.30 higher than the set criteria on both aspects. Moreover, the leaders of the community enterprises reported very high satisfaction on the training. This can be concluded that 'The Development of System to Promote Community Enterprise in Educational Institutes under the Office of Vocational Education Commission' conducted by the researcher reached high efficiency according to the research hypothesis.

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ. สำนักหอสมุดกลาง

Address: กรุงเทพมหานคร

Email: library@kmutnb.ac.th

Name: พิสิฐ เมธาภัทร

Role: ที่ปรึกษาดุษฎีนิพนธ์

Email : pisit.m@fte.kmutnb.ac.th

Name: ไพโรจน์ สถิรยากร

Role: ที่ปรึกษาดุษฎีนิพนธ์

Email : prs@kmutnb.ac.th

Created: 2557

Modified: 2561-02-05

Issued: 2561-02-05

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

DegreeName: ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต

Level: ปริญญาเอก

Descipline: บริหารอาชีวะและเทคนิคศึกษา

Grantor: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ

©copyrights มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	B15928408.pdf	150.89 MB	34	2025-05-28 21:40:30

ใช้เวลา

0.019512 วินาที