แจ้งเอกสารไม่ครบถ้วน, ไม่ตรงกับชื่อเรื่อง หรือมีข้อผิดพลาดเกี่ยวกับเอกสาร ติดต่อที่นี่ ==>
หากไม่มีอีเมลผู้รับให้กรอก thailis-noc@uni.net.th
หากไม่มีอีเมลผู้รับให้กรอก thailis-noc@uni.net.th
Pairin Vijitjaroenmuang. Simulation of dispersion of air pollutant over non-planar topography using 3-dimensional generalized coordinate system. Master's Degree(Chemical Engineering). Chulalongkorn University. Office of Academic Resources. : Chulalongkorn University, 2001.
Simulation of dispersion of air pollutant over non-planar topography using 3-dimensional generalized coordinate system
การจำลองการแพร่กระจายของมลสารอากาศเหนือบริเวณภูมิประเทศแบบไม่ใช่ที่ราบโดยใช้ระบบแกน 3 มิติชนิดทั่วไป
Name: Pairin Vijitjaroenmuang
LCSH:
AirPollution
Abstract:
In the present research, the air pollutant dispersion model utilizes a 3-dimensional generalized coordinate system combined with Computational Fluid Dynamics (CFD) technique to predict air pollutant dispersion over non-planar terrain. The suitability of the model is check by comparison with the analytical solution of a transport phenomena model for flat terrain and with wind-tunnel experiments over non-planar terrain carried out by R. Ohba, et.al. (1990). The present model is more suitable for predicting air pollutant dispersion over a wide area rather than the region near a source. Compared with wind tunnel experiments, the model is more suitable to predict the downwind concentration on the front slope of a hill than its back slope and is more accurate when the terrain has less steep difference in height. Next computer experiments are carried out to investigate the effect of five typical factors, i.e. the wind direction, wind speed, horizontal and vertical dispersion coefficients and the exponent of the power law on the predicted 45-min. average concentration of SF6 dispersed over an isolated hill modeled after Steptoe Butte hill, Washington State. The simulation results shows that the wind direction, wind speed and horizontal and vertical dispersion coefficients have significant effect on the predicted average concentration at a majority of the receptors selected. However, the exponent of the power law has a significant effect only at certain receptors. Finally, the model is employed to predict the average PM₁₀ concentration under various wind directions, wind speeds and vertical dispersion coefficients at various receptors located in the stone processing zone in Saraburi Province. The prediction results shows that a more stable atmospheric condition, as reflected in a decrease in the vertical dispersion coefficient, increases the predicted average PM₁₀ concentration at all receptors. The predicted average PM₁₀ concentration changes significant at a majority of the receptors when the wind direction changes because of the prevalent calm wind condition (≤2m/s). In addition, the effect of the emission rate factor is investigated. It is found that the emission factor produces a proportional effect on the observed average PM₁₀ concentration.
Abstract:
ในวิทยานิพนธ์นี้ แบบจำลองการแพร่กระจายของมลสารอากาศซึ่งใช้ระบบแกน 3 มิติชนิดทั่วไปร่วมกับเทคนิค CFD ถูกใช้เพื่อทำนายการแพร่กระจายของมลสารอากาศเหนือบริเวณภูมิประเทศที่ไม่ใช่ที่ราบ ความเหมาะสมของแบบจำลองได้รับการพิสูจน์โดยการเปรียบเทียบกับคำตอบเชิงวิเคราะห์ของแบบจำลองปรากฏการณ์การขนส่งสำหรับพื้นที่ราบ และข้อมูลการทดลองในอุโมงค์ลมเหนือบริเวณที่ไม่ใช่ที่ราบของ R. Ohba และคณะ สำหรับกรณีแรกแบบจำลองนี้แสดงให้เห็นว่า เหมาะกับการทำนายการแพร่กระจายของมลสารที่บริเวณห่างจากแหล่งกำเนิดมากกว่าในบริเวณใกล้เคียง ส่วนผลการเปรียบเทียบกับผลการทดลองในอุโมงค์ลมพบว่า แบบจำลองนี้เหมาะกับการทำนายความเข้มข้นตามระยะทางใต้ลมที่บริเวณหน้าเขาได้มากกว่าบริเวณหลังเขาและมีความเที่ยงตรงมากกว่าในบริเวณที่มีความแตกต่างของความชันของพื้นที่ไม่มากนัก จากนั้นได้ทำการทดลองบนคอมพิวเตอร์เพื่อศึกษาอิทธิพลตัวแปร 5 ตัวคือ ทิศทางลม ความเร็วลม สัมประสิทธิ์การแพร่กระจายในแนวระดับและแนวตั้ง และ เลขยกกำลังของกฎยกกำลังที่มีต่อความเข้มข้นเฉลี่ย 45 นาทีของ SF₆ ซึ่งแพร่กระจายเหนือบริเวณภูเขาโดดเดี่ยวโดยจำลองแบบจากเขา Steptoe Butte ในรัฐวอชิงตัน ผลการทดลองแสดงให้เห็นว่า ทิศทางลม ความเร็วลม และสัมประสิทธิ์การแพร่กระจายในแนวระดับและแนวตั้งมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อความเข้มข้นเฉลี่ยที่สถานีตรวจวัดส่วนใหญ่ ที่เลือก อนึ่งเลขยกกำลังของกฎยกกำลัง มีอิทธิพลอย่างมีนัยสำคัญที่บางสถานีตรวจวัดเท่านั้น สุดท้ายแบบจำลองนี้ถูกใช้เพื่อทำนายความเข้มข้นของฝุ่น PM₁₀ เฉลี่ยภายใต้เงื่อนไขของ ทิศทางลม ความเร็วลม และ สัมประสิทธิ์การแพร่กระจายแนวตั้งต่างๆ ที่สถานีตรวจวัดต่างๆ ในบริเวณโรงโม่หินในจังหวัดสระบุรี ผลการทำนายแสดงให้เห็นว่าเมื่อความเสถียรของบรรยากาศเพิ่มขึ้นซึ่งสะท้อนให้เห็นจากค่าสัมประสิทธ์การแพร่กระจายแนวตั้งที่ลดลง จะทำให้ความเข้มข้นของฝุ่น PM₁₀ ที่ทำนายได้มีค่าสูงขึ้นที่ทุกสถานีตรวจวัด การเปลี่ยนแปลงของทิศทางลมนั้นทำให้ค่าความเข้มข้นของฝุ่นที่ทำนายได้เปลี่ยนอย่างมีนัยสำคัญ ณ สถานีตรวจวัดส่วนใหญ่ เนื่องจากความเร็วลมในพื้นที่ที่ศึกษาเป็นพื้นที่ลมลมสงบ (ความเร็วลมไม่เกิน 2 เมตรต่อวินาที) นอกจากนี้ในการศึกษาผลกระทบของตัวคูณอัตราการปล่อยฝุ่น พบว่าความเข้มข้นของฝุ่น PM₁₀ เฉลี่ยมีค่าเพิ่มขึ้นเป็นสัดส่วนกับการเพิ่มค่าตัวคูณอัตราการปล่อยฝุ่น
Chulalongkorn University. Office of Academic Resources
Address:
BANGKOK
Email:
cuir@car.chula.ac.th
Name: Wiwut Tanthapanichakoon
Role:
advisor
Created:
2001
Modified:
2560-08-05
Issued:
2017-07-05
วิทยานิพนธ์/Thesis
application/pdf
ISBN:
9740313434
eng
DegreeName: Master of Engineering
Level: Master's Degree
Descipline: Chemical Engineering
Grantor: Chulalongkorn University
©copyrights Chulalongkorn University
RightsAccess:
ใช้เวลา
0.039402 วินาที
Pairin Vijitjaroenmuang
| Title | Contributor | Type |
|---|---|---|
| Simulation of dispersion of air pollutant over non-planar topography using 3-dimensional generalized coordinate system
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย Pairin Vijitjaroenmuang | Wiwut Tanthapanichakoon | วิทยานิพนธ์/Thesis |
Wiwut Tanthapanichakoon