Abstract:
การวิจัยเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสถานภาพและการบริหารจัดการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของรัฐสภาไทยในปัจจุบัน 2) เพื่อเปรียบเทียบการบริหารจัดการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของรัฐสภาไทยกับรัฐสภาต่างประเทศตามหลักการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดี 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้ใช้บริการต่อระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของรัฐสภาไทยตามหลักการจัดการบ้านเมืองที่ดี และ 4) เพื่อนำเสนอแนวทางการบริหารจัดการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของรัฐสภาไทยตามหลักการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดี ดำเนินการวิจัยเชิงผสมผสานโดยใช้วิธีการวิจัยเชิงคุณภาพด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึกจากผู้ให้ข้อมูลคนสำคัญที่เป็นผู้บริหาร ผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้ใช้บริการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ จำนวน 22 คน และการวิจัยเชิงปริมาณโดยใช้แบบสอบถามความพึงพอใจต่อการบริการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของรัฐสภาไทยตามหลักการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดีกับกลุ่มตัวอย่างที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา จำนวน 245 คน ค่าความเชื่อมั่นแบบสอบถามเท่ากับ .94 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ คือ ค่าเฉลี่ยและค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน จากนั้นจึงดำเนินการสังเคราะห์เพื่อเสนอแนวทางการบริหารจัดการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของรัฐสภาไทยตามหลักการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดี
ผลการวิจัยพบว่า สถานภาพและการบริหารจัดการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของรัฐสภาไทย ด้านนโยบายระบบเทคโนโลยีสารสนเทศยังขาดความชัดเจน ปัญหาและอุปสรรคที่พบในการจัดการข้อมูลให้ทันสมัย โครงการปี 2541 คือ การซ้ำซ้อนของข้อมูล อุปสรรคที่ตามมีการปกปิดข้อมูลที่มีความอ่อนไหวทางการเมือง ผู้ใช้บริการมีมุมมองว่า สถานภาพของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของรัฐสภาไทยเป็นองค์กรที่มีความสำคัญ รัฐสภาไทยมีข้อมูลมาก แต่ข้อมูลยังล้าสมัย ควรมีการปรับวัฒนธรรมขององค์กร ยังไม่มีบุคลากรที่เป็นมืออาชีพด้าน IT โดยเสนอควรมีผู้เชี่ยวชาญจาก NECTEC เข้ามาดูแลในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ งานทางด้านระบบสารสนเทศยังไม่มีความเป็นเอกภาพ ซึ่งแต่ละสำนักยังไม่สามารถนำข้อมูลมารวมกันได้ ผลการเปรียบเทียบระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของรัฐสภาไทยแตกต่างจากรัฐสภาต่างประเทศ พบว่า รัฐสภาต่างประเทศมีการนำเอา IT มาเสริมระบบการประชุมของรัฐสภา มีการดำเนินการอย่างครอบคลุมทุกงาน มีห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ ระบบ IT มีความทันสมัยรวมถึงห้องประชุมที่เป็นระบบดิจิทัล มีสถานีหลายช่องให้ความร่วมมือในการถ่ายทอดการประชุมสภา ความพึงพอใจต่อการใช้บริการของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของรัฐสภาไทยตามหลักการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดี ภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง โดยผู้ใช้บริการมีความพึงพอใจระดับมากต่อการให้บริการด้านการบริการที่ปฏิบัติตามกลักการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดีเป็นอันดับแรก รองลงมามีความพึงพอใจระดับมากด้านสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวก และมีความพึงพอใจระดับปานกลาง ด้านบุคลากร ด้านกระบวนการการให้บริการ ด้านข้อมูล และด้านมาตรฐานการเก็บรักษาระบบฐานข้อมูล ตามลำดับ
ผลการสังเคราะห์แนวทางการบริหารจัดการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของรัฐสภาไทยตามหลักการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดี คือ การกำหนดแนวทางที่เรียกว่า PMIS ซึ่งประกอบด้วย P: Policy การมีนโยบายที่ชัดเจน เป็นรูปธรรม M: Management การบริหารจัดการที่ยึดหลักการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดีเป็นส่วนสำคัญ I: Information ระบบสารสนเทศได้รับการตรวจสอบตามหลักการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดี มีการวางแผนและจัดระบบรักษาความปลอดภัยในเครื่องคอมพิวเตอร์ S: Service การบริการที่ตอบสนองความพึงพอใจของผู้ใช้บริการตามหลักการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดี การนำผลการวิจัยไปประยุกต์ใช้ด้านนโยบาย ผู้บริหารกำหนดกรอบนโยบายที่ชัดเจน ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ มีการพัฒนาระบบปฏิบัติงานเพื่อให้องค์กรมีศักยภาพและสามารถนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อให้บรรลุผลสำเร็จ ด้านความทันสมัยข้อมูล การให้บริการควรมีการฝึกอบรมด้าน IT แก่บุคลากร เพื่อให้เกิดความเชี่ยวชาญ
The objective of this research was 1) to study the current condition of Information and Communication Technology (JCT) management in the Thai Parliament, 2) to compare ICT management of the Thai Parliament to parliaments of other countries, 3) to study user satisfaction with regards to ICT -related services of the Thai Parliament, and 4) to present guidelines for ICT management for the Thai Parliament based on the principles of good governance. The study used a mixed-method research. Qualitative data was collected from 22 stake holders including executives, ICT users and related persons by conducting in-depth interviews. Quantitative data was collected from 245 members of parliament by using a questionnaire (reliability = .94). The quantitative data was analyzed by arithmetic mean and standard deviation. The qualitative and quantitative data was later used to put together the guidelines for ICT management for the Thai Parliament based on the principles of good governance.
With regards to the current condition of ICT management in the Thai Parliament, the findings indicated that their management policies were still unclear. The database was poorly managed, and the data, especially politically sensitive data, was hidden. Users agreed that ICT Thai played an important role within the Thai Parliament but the large amount of data the parliament possessed was outdated. The users suggested that the parliament should ask experts from the NECTEC to develop and manage the ICT system in order to make all data accessible to and shared amongst the offices in parliament.
It was found that ICT was integrated more thoroughly within the parliamentary administration in other countries in comparison to the Thai Parliament. Such examples of integration included the availability of an electronic library, digitally enhanced meeting rooms, and the broadcasting of parliament meetings on public television.
Regarding the satisfaction with ICT -related service of the Thai Parliament, the participants generally had average satisfaction. Considering each aspect, the participants had average satisfaction with data, database maintenance, service provision process, and personnel, while they had high satisfaction with location and facility as well as service provision which was based on the principles of good governance.
PMIS is the name of the guidelines created for ICT management for the Thai Parliament based on the principles of good governance. P stands for Clear and Concrete Policy. M stands for Management. I stands for Transparent Information with a well planned and highly secure computer system, and S stands for Satisfaction of the users of the data.