การพัฒนากิจกรรมเรียนรู้การแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ เรื่องเศษส่วน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ ที่เน้นกระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา

A Development of Learning Activities to Solve the Mathematical Fraction at Prathom Suksa Six Level According to the Constructivist Theory with Emphasis on Polya’s Problem-solving Process

Name: ปราณี นาครินทร์

keyword: โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์

ThaSH: ทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์

Classification :.DDC: 372.7 ป445ก

; เศษส่วน

ThaSH: คณิตศาสตร์ -- การศึกษาและการสอน

Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนากิจกรรมการเรียนรู้การแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ ที่เน้นกระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา และ 2) พัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ให้นักเรียน มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ยร้อยละ 70 และนักเรียนจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ของนักเรียนทั้งหมด มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 ของคะแนนเต็มขึ้นไป กลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านขะยูง(ขะยูงศิลป์ศึกษา) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2556 จำนวน 27 คน ใช้รูปแบบวิจัยเชิงปฏิบัติการ มีวงจรการปฏิบัติ 3 วงจร เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ 1) เครื่องมือที่ใช้ในการทดลองปฏิบัติการ ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้การแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วน ตามแนวคิดทฤษฎี คอนสตรัคติวิสต์ ที่เน้นกระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา จำนวน 15 แผน แต่ละแผนใช้เวลาสอน 1 ชั่วโมง 2) เครื่องมือในการสะท้อนผลการปฏิบัติ ได้แก่ แบบสังเกตพฤติกรรมการจัดการเรียนรู้ แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนของนักเรียน แบบบันทึกผลการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ แบบสัมภาษณ์นักเรียน และแบบทดสอบย่อยท้ายวงจร 3) เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินประสิทธิภาพการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ได้แก่ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วน เป็นแบบปรนัยและแบบอัตนัย การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ โดยการหาค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ โดยการนำข้อมูลที่ได้ จากการสังเกตการจัดกิจกรรมการเรียนรู้มาวิเคราะห์และสรุปความเรียง ผลการวิจัยพบว่า 1. การพัฒนาจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ที่เน้นกระบวนการแก้ปัญหาของ โพลยา มีลำดับขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 3 ขั้นตอน สรุปผลการจัดกิจกรรม ดังนี้ 1.1 ขั้นนำ เข้าสู่บทเรียน เป็นการสร้าง ความสนใจ เพื่อให้นักเรียนเกิดความสนใจใฝ่เรียนรู้ โดยใช้เกม เพลง หรือสถานการณ์ต่างๆ ในขั้นนี้ครูแจ้งวัตถุประสงค์การเรียนรู้ และทบทวนความรู้เดิม เพื่อให้เชื่อมโยงกับความรู้ใหม่ที่จะเรียน พบว่า นักเรียนให้ความสนใจ และกระตือรือร้นกับกิจกรรมและร่วมกิจกรรมด้วยความสนุกสนาน 1.2 ขั้นสอน เป็นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ โดยใช้กระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา ในการแก้สถานการณ์ปัญหา ซึ่งประกอบ ด้วย 5 ขั้นตอน ดังนี้ (1) ขั้นเผชิญสถานการณ์ปัญหาและแก้ปัญหาเป็นรายบุคคล โดยใช้กระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา ซึ่งมี 4 (2) ขั้นระดมสมองระดับกลุ่มย่อย (3) ขั้นไตร่ตรองระดับกลุ่มใหญ่ (4) ขั้นสรุป (5) ขั้นนำไปใช้ พบว่า นักเรียนมีความสามารถแก้โจทย์ปัญหาด้วยตนเองได้เป็นอย่างดี รวมทั้งช่วยเหลือกันและกันในการเรียนรู้ นักเรียนมีโอกาสได้ฝึกการทำงานร่วมกัน มีการอภิปรายแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน กล้าแสดงความคิดเห็น มีความสนใจและตั้งใจในการร่วมกิจกรรมได้พัฒนาทักษะทางสังคม ได้ฝึกความรับผิดชอบและความมีระเบียบวินัยในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น 1.3 ขั้นวัดและประเมินผล เป็นขั้นที่ประเมินความรู้ความเข้าใจแต่ละครั้ง จากผลงานของนักเรียน แบบฝึกทักษะ และการร่วมกิจกรรม พบว่า นักเรียนให้ความสนใจ และร่วมมือในการทำกิจกรรมขั้นตอนต่าง ๆ นักเรียนทำแบบฝึกทักษะผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในแผนการจัดการเรียนรู้ 2. นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ยร้อยละ 82.37 และนักเรียนจำนวนร้อยละ 88.89 ของนักเรียนทั้งหมด มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 ของคะแนนเต็มขึ้นไป The research aimed 1) to develop the learning activities for solving the problems of the mathematical fraction at Prathomsuksa six level (Grade six) according to the constructivist theory with emphasis on Polya’s problem-solving process and 2) to improve students’ learning achievement higher than 70% of the total scores. The target group was 27 Prathomsuksa six students of Ban Khayung (khayungsinsuksa) School under the jurisdiction of the Office of Sisaket Primary Education Service Area 2 in the first semester of the academic year 2014. The research instrument consisted of the following: 1) 15 lesson plans on how to solve the mathematical fraction according to the constructivist theory; 2) the observation format for learning management, students’ learning, students’ interview and tests; 3) the 30-item test with a multiple choice to measure the learning achievement. Quantitative data were analyzed in terms of means, percentage, and standard deviation and qualitative data were analyzed and presented in a descriptive method. The research findings were as follows. 1. The development of mathematics learning activities according to the constructivist theory consisted of three stages. 1.1 Introduction: the students were introduced to learning by using various activities. It was found that the students were more interested and became more enthusiastic with activities and had good time taking part in the activities held. 1.2 Teaching: it was the learning activity according to the constructivist theory. This activity consisted of five steps: 1) facing and solving the problems individually through understanding, planning, implementing and reflecting; 2) brainstorming in a small group; 3) reflecting in a large group; 4) summarizing and 5) applying. It was found that the students were more capable of solving the problems; besides they were mutually helpful and had more opportunity to work together. 1.3 Measurement and evaluation: it was an evaluation of knowledge based on students’ works, skill practice and activities. It was found that the students were interested in and cooperated in various activities. They practiced the learning activities as required in the lesson plan. 2. The students had a learning achievement averaging 82.37% and 88.89% of them had learning achievement higher than 70% of the total scores.

มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี.สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ

Address: อุบลราชธานี

Email: info.lib@ubru.ac.th

Name: รองศาสตราจารย์พีระพล ศิริวงศ์

Role: ประธานกรรมการที่ปรึกษา

Name: ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เผ่าไทย วงศ์เหลา

Role: กรรมการที่ปรึกษา

Created: 2559

Modified: 2560-03-24

Issued: 2560-03-21

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

Spatial: ไทย

DegreeName: วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: คณิตศาสตรศึกษา

Grantor: มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี

©copyrights มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	Titlepage.pdf	248.75 KB	172	2025-07-14 14:07:18
2	Abstract.pdf	177.36 KB	196	2025-07-12 05:59:47
3	Content.pdf	201.3 KB	123	2024-09-21 13:14:20
4	Chapter1.pdf	189.59 KB	207	2024-09-21 13:14:10
5	Chapter2.pdf	362.76 KB	319	2025-02-15 21:17:18
6	Chapter3.pdf	227.83 KB	169	2024-09-21 13:13:42
7	Chapter4.pdf	269.88 KB	135	2024-09-21 13:13:32
8	Chapter5.pdf	173.42 KB	157	2024-09-21 13:13:17
9	Bibliography.pdf	177.82 KB	158	2024-09-21 13:13:03
10	Appendix.pdf	664.18 KB	201	2024-09-21 13:12:36
11	Biodata.pdf	150.38 KB	108	2024-09-22 09:20:53

ใช้เวลา

0.02905 วินาที