กลไกการแตกหักเนื่องจากอัตราความเครียดในเหล็กกล้าไร้สนิม 304

Strain rate damage mechanism of 304 stainless steel

Name: ศุภฤกษ์ บุญเทียร

ThaSH: ความเครียดและความเค้น

ThaSH: เหล็กกล้าไร้สนิม

Abstract: วัตถุประสงค์หลักของวิทยานิพนธ์คือ ศึกษากลไกการแตกหักจากผลของระดับอัตราความเครียดช้าต่อการเกิดการแตกหักจากการกัดกร่อนที่เกิดขึ้นกับเหล็กกล้าไร้สนิม 304 ที่ระดับอัตราความเครียดช้า 4.0 x 10⁻⁷ ถึง 1.10 x 10⁻⁴ วินาที⁻1 ในสภาวะจำลองที่ประกอบด้วยสารละลายผสมโซเดียมคลอไรด์ โซเดียมไทโอซัลเฟตและกรดซัลฟุริก ณ อุณหภูมิห้อง พบความเสียหายที่เกิดขึ้นกับโครงสร้างจุลภาคของแต่ละชิ้นงานภายหลังถูกตรวจสอบด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนว่าขนาดและความหนาแน่นของรอยแตกสัมพันธ์กับค่าคุณสมบัติเชิงกลของชิ้นงาน และสามารถใช้อธิบายกลไกการแตกหักจากผลของอัตราความเครียดช้า ระดับอัตราความเครียดช้าที่วิกฤตจะทำให้ชิ้นงานมีความไวต่อการแตกหัก เนื่องจากอัตราความเครียดช้ามีผลต่ออัตราการแตกของฟิล์ม อัตราการสร้างฟิล์มขึ้นใหม่และอัตราการกัดกร่อนบริเวณรอยแตกของฟิล์ม ความเสียหายที่เกิดขึ้นเมื่อถูกอธิบายโดยใช้แบบจำลองความเสียหาย Strain-rate Damage Model ของ Gerber และ Garud พบว่า เป็นไปตามความสัมพันธ์ D=∫(superscript t)(subscript 0) A[Ɛ] (superscript p) dt ผลการเข้าร่วมของสภาวะกัดกร่อนจากสารละลายที่ทำให้เกิดการแตกหักในชิ้นงานสามารถแสดงด้วยค่า p˂1 ส่วนความเสียหายที่เกิดจากคุณสมบัติเชิงกลเพียงอย่างเดียวจะแสดงด้วยค่า p~1 นอกจากนั้นระดับค่า p ที่น้อยกว่า 1 ในการทดลองสัมพันธ์อย่างดียิ่งกับปริมาณการเชื่อมต่อกันของโครเมียมคาร์ไบด์ที่ขอบเกรนเมื่อวัสดุผ่านการเซนไทเซชันที่ระดับต่างกัน กล่าวได้ว่าค่า p สามารถใช้เป็นสิ่งบ่งชี้ถึงระดับการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างจุลภาคของวัสดุจากการเซนซิไทเซชัน ซึ่งอาจนำมาใช้เป็นวิธีการทดสอบโครงสร้างจุลภาคของวัสดุก่อนการใช้งานได้

Abstract: The objective of this research was to study the strain rate damage mechanism of 304 stainless steel by using the slow strain rate tensile test in a range of 4.00 x10⁻⁷ to 1.10 x 10⁻⁴ sec⁻1 in solutions containing either NaCl or Na₂S₂O₂ •5H₂O and H₂SO₄ at ambient temperature. Investigation of specimens’ surface using scanning electron microscope (SEM) revealed that crack size and density closely related to mechanical properties, and can be use to describe the damage caused by strain rate. At critical strain rate, specimens are highly embrittled as a result of interaction between the rupture film, the passivation of film, and corrosion rate at rupture area as described by Gerber and Garud model, which D=∫(superscript t)(subscript 0) A[Ɛ] (superscript p) dt. Stress Corrosion Cracking resulted from the interaction of an aggressive environment and strain rate showed p-value smaller than 1, p˂1, while specimens which failed mechanically show p~1. The p-value of lower than 1 demonstrates good correlation with the chromium-carbide linkage at grain boundaries at different level of sensitization. It can be concluded that the p-value can be used as an index to indicate the level of sensitization and may be adopted as a method for sensitization tool.

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. สำนักงานวิทยทรัพยากร

Address: กรุงเทพมหานคร

Email: cuir@car.chula.ac.th

Name: เดโช ทองอร่าม

Role: ที่ปรึกษา

Modified: 2559-12-04

Created: 2545

Issued: 2559-12-04

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

URL: http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/25174

ISBN: 9741726732

tha

DegreeName: วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: นิวเคลียร์เทคโนโลยี

Grantor: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

©copyrights จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	Supparrerk_bo_front.pdf	4.16 MB	6	2021-01-28 13:59:09
2	Supparrerk_bo_ch1.pdf	2.33 MB	5	2019-10-29 11:05:17
3	Supparrerk_bo_ch2.pdf	7.68 MB	5	2022-05-01 16:40:56
4	Supparrerk_bo_ch3.pdf	4.65 MB	2	2018-06-09 05:06:35
5	Supparrerk_bo_ch4.pdf	1.82 MB	2	2018-06-09 05:06:37
6	Supparrerk_bo_ch5.pdf	12.82 MB	6	2021-01-28 14:00:32
7	Supparrerk_bo_ch6.pdf	1.34 MB	2	2018-06-09 05:06:42
8	Supparrerk_bo_back.pdf	1.88 MB	2	2018-06-09 05:06:42

ใช้เวลา

0.02645 วินาที