นวัตกรรมการจัดการปัญหาการทุจริตตามระบบและเชิงพฤติกรรมในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ

Innovative problem management of systemic and behavioral corruption through procurement in government sectors

Name: เครือวัลย์ สมณะ

keyword: นวัตกรรมการจัดการทุจริต

; การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ

ThaSH: การทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ -- ไทย

ThaSH: การทุจริตและประพฤติมิชอบ

Abstract: วัตถุประสงค์และวิธีดำเนินการวิจัย การศึกษาเพื่อสร้างรูปแบบ นวัตกรรมการจัดการปัญหาการทุจริตตามระบบและเชิงพฤติกรรม ในการจัดซื้อจัดจ้างของรัฐบาล ศึกษาพฤติกรรมของผู้รับผิดชอบโครงการจัดซื้อจัดจ้าง ที่ส่อเจตนากระทำการทุจริต ในการประกวดราคาด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ และวิธีเปิดซอง วิธีการวิจัยประกอบด้วย 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพเป็นหลัก เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลจากเอกสารขั้นทุติยภูมิ และข้อมูลปฐมภูมิเชิงประจักษ์ โดยผู้วิจัยมีส่วนร่วมเฝ้าสังเกตการณ์ 4 ปรากฏการณ์ กรณีจัดซื้อจัดจ้างตามระบบ ส่วนที่ 2 เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ โดยศึกษาเฉพาะกรณีเชิงพฤติกรรมของข้าราชการทุจริตประพฤติมิชอบ จากคำพิพากษาของศาลฎีการวม 160 คดี แบ่งเป็นการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้าง ความผิดตามระบบ 60 คดี และความผิดเชิงพฤติกรรม 100 คดี ซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้าง โดยแจกแจงหมวดความผิดและมาตราความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา เพื่อหารูปแบบและความถี่โดยรวมจากแต่ละคดี ผลการวิจัย ได้พบพฤติกรรมเด่น คดีทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างตามระบบ มีฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มีความถี่ฐานความผิดจากมากไปหาน้อยตามลำดับ คือ หลีกเลี่ยงระบบ อาศัยระเบียบ มีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อผลประโยชน์ของตนเองและผู้อื่น ร้อยละ 55 เลือกปฏิบัติร้อยละ 53 ปลอมเอกสารร้อยละ 33 ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบร้อยละ 5 และรับสินบนร้อยละ 5 ส่วนการทุจริตเชิงพฤติกรรม โดยไม่มีความเกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้าง มีฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มีความถี่ฐานความผิดจากมากไปหาน้อยตามลำดับ คือ เบียดบังทรัพย์หลวงร้อยละ 56 ปลอมเอกสารร้อยละ 26 เลือกปฏิบัติร้อยละ 22 รับสินบนร้อยละ 16 และใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบร้อยละ 6 ซึ่งคดีทั้งสองส่วนที่กล่าว ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกันโดยตรงบางส่วนมีความแตกต่างกัน และบางส่วนได้แสดงพฤติกรรมของ “คน” เป็นส่วนเชื่อมโยงมีความสัมพันธ์ทางรูปแบบคล้ายกันทั้งสองส่วน ซึ่งมีความเกี่ยวเนื่องสอดคล้องสัมพันธ์กันกับ 4แนวคิดทฤษฎี คือ ทฤษฎีหัวหน้า – ตัวแทน ทฤษฎีค่าเช่าและการแสวงหาค่าเช่า ทฤษฎีการขัดกันแห่งผลประโยชน์ และทฤษฎีแรงจูงใจของมนุษย์ การศึกษานี้ทำให้เกิดแนวคิด สามารถนำมาสร้างเป็นรูปแบบ “สามเหลี่ยมสามสัมพันธ์” เป็นข้อค้นพบที่น่าประหลาดใจของปรากฏการณ์ร่วมเหตุเกิดขึ้นพร้อมกัน สอดคล้องกัน และมีความผิด หรือมีพฤติกรรมความผิด ถูกตัดสินลงโทษในมาตราเดียวกันเป็นส่วนใหญ่ จำเลยเป็นผู้กระทำ ความผิด การทุจริตทั้งตามระบบและเชิงพฤติกรรม แสดงถึงการมีกายทุจริตซึ่งน่าจะเกิดจากมีมโนทุจริตที่คล้ายกัน

Abstract: The purpose of this study was to develop the innovative problem management of systemic and behavioral corruption through procurement in government sectors. The study analyzed behaviors of authorized officers who involved and revealed corrupt intension in e-auction and sealed bid projects. The methods employed in this study consisted mainly of two parts. The first part emphasized on qualitative analyses from secondary documents and primary empirical evidence of the systemic corruption type, of which the researcher was also involved as a witness observer in certain cases. The second part focused on quantitative analysis, with samples drawn from final verdicts of the Supreme Court for 160 official-corrupt cases. The samples were then divided into 60 cases on systemic offences in the procurement process, and 100 behavioral offices based on offence classification and relevant articles in the Criminal Code. Results: It was found that outstanding corrupt behaviors in the sample cases were evident. For systemic corruption cases, the proportions of offence types classified by the Criminal Code, from the highest frequency, were as follows : 55% of the cases were on deliberate avoidance and misuse of the system for own benefits, 53% on discrimination, 33% on counterfeit documents, 5% on misuse of office power, and 5% on bribery taking. For behavioral corruption cases, the proportions of offence types classified by the Criminal Code, from the highest frequency, were as follows: 56% were on the embezzlement of public assets, 26% on counterfeit documents, 22% on discrimination, 16% on bribery taking, and misuse of office power of 6%. Both groups of cases were not directly related, but both exhibiting the behavior of ‘human’ that was virtually similar. It is very likely that this human behavior similarity were consistent with 4 concepts and theories: namely the Principal-Agent Theory, Rent and Rent-seeking Theory, Conflict of Interest Theory, and Theory of Human Motivation. Finally, a surprising finding was that those concepts and theories supported by empirical evidence could be constructed as the “Triad Corruption Procurement Model”.

มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา. ศูนย์วิทยบริการ

Address: กรุงเทพมหานคร

Email: library@ssru.ac.th

Name: เอนก เหล่าธรรมทัศน์

Role: กรรมการที่ปรึกษาดุษฎีนิพนธ์

Name: ช่วงโชติ พันธุเวช

Role: กรรมการที่ปรึกษาดุษฎีนิพนธ์

Name: วรรณโณ ฟองสุวรรณ

Role: กรรมการที่ปรึกษาดุษฎีนิพนธ์

Modified: 2021-12-13

Issued: 2559-06-22

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

DegreeName: ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต

Level: ปริญญาเอก

Descipline: นวัตกรรมการจัดการภาคธุรกิจ

Grantor: มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา

©copyrights มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	Kruewal_Somana.pdf	5.17 MB	25	2025-09-04 19:08:10

ใช้เวลา

0.037838 วินาที