เชื้อบาซิลลัสทนกรดและเจริญที่อุณหภูมิสูงในกระบวนการแปรรูปน้ำสับปะรดเข้มข้น

Acidothermophilic bacilli in concentrated pineapple process.

Name: ศรัญญา เจียระศิริสิน

ThaSH: บาซิลลัส.

ThaSH: แบคทีเรีย -- การเจริญเติบโต.

Othors: สุขาภิบาลอาหาร -- วิทยานิพนธ์.

Othors: สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง. -- สาขาวิชาสุขาภิบาลอาหาร -- วิทยานิพนธ์.

Abstract: งานวิจัยนี้ได้ศึกษาเกี่ยวกับเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดการเน่าเสียของน้ำสับปะรดเข้มข้น คัดเลือกได้แบคทีเรียบาซิลัสที่เจริญได้ทั้งที่มีและไม่มีอากาศ ทนกรด ชอบอุณหภูมิสูงจำนวน 112 ไอโซเลท ที่เก็บจากสภาพแวดล้อมและกระบวนการแปรรูปน้ำสับปะรดเข้มข้นแห่งหนึ่งของประเทศไทยโดยมีจุดเก็บทั้งหมด 11 ตัวอย่าง ได้แก่ ดินที่อยู่บนรถบรรทุกสับปะรด น้ำบาดาลที่ใช้ในกระบวนการผลิต น้ำคลองที่ใช้ในกระบวนการผลิต น้ำล้างสับปะรดที่อุณหภูมิ 60°C เปลือกสับปะรด เก็บตัวอย่างโดยการ swab มือพนักงานปอกเปลือกสับปะรด น้ำที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนความร้อนที่อุณหภูมิ 65°C น้ำสับปะรดที่ผ่านการให้ความร้อนที่อุณหภูมิ 65°C น้ำที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนความร้อนที่อุณหภูมิ 100-200°C น้ำสับปะรดที่ผ่านการให้ความร้อนที่อุณหภูมิ 90°C และเก็บตัวอย่างโดยการ swab มือพนักงานที่บรรจุน้ำสับปะรดเข้มข้น แยกเชื้อตามวิธี IFU No.12 บ่มที่ 45°C พบว่า อาหารเลี้ยงเชื้อที่สามารถแยกกลุ่มเชื้อ Alicyclobacillus spp.ได้มากที่สุดเท่ากันคือ Alicyclobacillus acidocaldarius medium (AAM pH 4.00) และ Alicyclobacillus medium (ALI pH 3.5) ตัวอย่างที่สามารถแยกเชื้อ acidothermo philic bacilli ได้มากที่สุดคือ ดินที่อยู่บนรถบรรทุกสับปะรด เมื่อจำแนกชนิดของแบคทีเรียโดยใช้เทคนิค 16S rDNA sequencing ได้ 4 ไอโซเลท มีความเหมือนกับสายพันธุ์ดังกล่าว 99% ได้แก่ Bacillus licheniformis A.1 สายพันธุ์ SCC 124043 แยกได้จากดินที่อยู่บนรถบรรทุกสับปะรด Bacillus pumilus A.2 สายพันธุ์ HPS 1 และ RRLKE 3 แยกได้จากเปลือกสับปะรด Bacillus licheniformis A.3 สายพันธุ์ 55L2-1 และSCC124043 แยกได้จากน้ำล้างสับปะรดที่ 60°C และ Bacillus licheniformis A.5 สายพันธุ์ 30N 1-2 และ SCC 124043 แยกได้จากน้ำสับปะรดที่ผ่านการให้ความร้อนที่ 90°C เมื่อทำการ ศึกษาค่าความเข้มข้นของกรดอะซิติกและกรดแลคติกที่ต่ำที่สุดในการฆ่าทำลาย (MBC) สำหรับแบคทีเรียเหล่านี้โดยการเลี้ยงเชื้อแบบเขย่าในอาหารเลี้ยงเชื้อ nutrient broth (NB) พบว่า มีค่าเท่ากันคือ 0.165 และ 0.117 กรัมต่อลิตร ตามลำดับ และโดยการเลี้ยงเชื้อในจานเพาะเชื้อในอาหารเลี้ยงเชื้อ potato dextrose agar (PDA) ที่45 °C พบว่า ค่าความเข้มข้นของกรดอะซิติกและกรดแลคติกที่ต่ำที่สุดในการฆ่าทำลาย (MBC) มีค่าแตกต่างกันคือ B. licheniformis A.1 มีค่าเท่ากับ 0.165 และ 0.117 กรัมต่อลิตร B. pumilus A.2 มีค่าเท่ากับ 0.198 และ 0.147 กรัมต่อลิตร B. licheniformis A.3 มีค่าเท่ากับ 0.231 และ 0.205 กรัมต่อลิตรและ B. licheniformis A.5 มีค่าเท่ากับ 0.198 และ 0.147 กรัมต่อลิตร จากผลการทดลองนี้แสดงให้เห็นว่า กรดแลคติกมีประสิทธิภาพในการฆ่าทำลายบาซิลัสที่ทนกรด ชอบอุณหภูมิสูงได้ดีกว่ากรดอะซิติก

สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง. สำนักหอสมุดกลาง

Address: กรุงเทพมหานคร

Email: Lifelong@kmitl.ac.th

Name: สุรชัย ใหญ่เย็น

Role: อาจารย์ผู้ควบคุมวิทยานิพนธ์

Email : kisurach@kmitl.ac.th

Created: 2558

Modified: 2559-04-22

Issued: 2559-04-22

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: วพ. ศ159ช 2558

tha

DegreeName: วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (สุขาภิบาลอาหาร)

Level: ปริญญาโท

Descipline: สุขาภิบาลอาหาร

Grantor: สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

©copyrights สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	Fulltext Saranya Cherasirisin.pdf	3.69 MB	50	2024-02-13 16:48:23

ใช้เวลา

0.023907 วินาที