The relationship between English reading self-perception and EFL reading achievement of Thai undergraduates

รายงานวิจัยความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ตนเองด้านการอ่านภาษาอังกฤษกับผลสัมฤทธิ์ทางการอ่านภาษาอังกฤษเป็นภาษาต่างประเทศของนักศึกษาไทย

ความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ตนเองด้านการอ่านภาษาอังกฤษกับผลสัมฤทธิ์ทางการอ่านภาษาอังกฤษเป็นภาษาต่างประเทศของนักศึกษาไทย

Name: Paradee Praphruetkij

Organization : King Mongkut's University of Technology North Bangkok

Email : prd987@yahoo.com

keyword: งานวิจัยคณะศิลปศาสตร์ประยุกต์

LCSH: Self-perception

Classification :.LCCS: PE1128.A3

LCSH: English language -- Reading -- Testing

LCSH: Academic achievement

LCSH: Reading -- Ability testing

Grant Source King Mongkut’s University of Technology North Bangkok 2014

Abstract: A full motivation for conducting this study was to find appropriate ways for enhancing English reading self-perception and English reading achievement of both male and female EFL Thai undergraduates. Therefore, the purposes of this study were to: 1) determine the relationship between English reading self-perception and English reading achievement of the students; 2) examine the relative contribution of English reading self-perception to English reading achievement of the students; 3) compare the English reading self-perception of male and female students; and 4) compare the English reading achievement of male and female students. The sample in this study was consisted of two intact classes of 62 second-year Thai undergraduates, enrolled in an EFL reading course in the second semester of academic year 2013 at King Mongkut’s University of Technology North Bangkok, Thailand. They were 30 males and 32 females. The two instruments were the English Reading Self-Perception Scale (ERSPS) adapted from Henk and Melnick (1995:470-482), which was approved the construct validity by 3 experts with the overall internal consistency reliability value of 0.814, and the reading achievement test constructed by the researcher; the content validity of which was approved by 3 experts with the KR-20 reliability value of 0.89. The ERSPS was administered at the beginning of the course and the reading achievement test was administered at the end of the course. Data from both measures were analyzed by means of Pearson product-moment correlation coefficient, multiple regression and t-test. The results of the study were as follows: 1) there were no significant relationships between overall students’ English reading self-perception and each aspect, including general item (GI), progress (PR), observational comparison (OC), social feedback (SF), and physiological states (PS), and their reading achievement; 2) the English reading self-perception of the students could not be a significant predictor of their reading achievement; 3) the overall and each aspect of English reading self-perception of the students were not significantly different in regard to their gender; and 4) the English reading achievement of the students was not significantly different in regard to their gender. The findings of this study indicated that students with low English reading self-perception were likely to have low English reading achievement. English teachers should be more alert and put more effort into teaching methods, teaching techniques, technologies, and reading therapy for better English reading self-perception and achievement of students.

Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ตนเองด้านการอ่าน ภาษาอังกฤษกับผลสัมฤทธิ์ทางการอ่านภาษาอังกฤษของนักศึกษา และเปรียบเทียบความแตกต่าง ของการรับรู้ตนเองด้านการอ่านภาษาอังกฤษและผลสัมฤทธิ์ทางการอ่านจำแนกตามเพศของ นักศึกษา กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยคือนักศึกษาระดับปริญญาตรีชั้นปีที่ 2 จำนวน 62 คนที่เรียน วิชาการอ่านภาษาอังกฤษเป็นภาษาต่างประเทศกับผู้วิจัย ประกอบด้วยเพศชาย 30 คน เพศหญิง 32 คนจากประชากรนักศึกษาที่เรียนวิชาการอ่านของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระ นครเหนือในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2556 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ มาตรวัดค่าระดับการ รับรู้ตนเองของผู้อ่านภาษาอังกฤษซึ่งดัดแปลงมาจาก Henk และ Melnick (1995:470-482) และ ได้รับการตรวจความตรงเชิงโครงสร้างทฤษฎีโดยผู้ทรงคุณวุฒิ 3 คน มีค่าความเที่ยงตามสูตร ของครอนบาคเท่ากับ 0.814 และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ในการอ่านภาษาอังกฤษที่ผู้วิจัยสร้าง ขึ้น ซึ่งได้รับการตรวจความตรงเชิงเนื้อหาจากผู้ทรงคุณวุฒิ 3 คน และมีค่าความเที่ยงเท่ากับ 0.89 ตามสูตรของคูเดอร์-ริชาร์ดสัน 20 มีการเก็บรวมรวมข้อมูลเกี่ยวกับการรับรู้ตนเองด้านการอ่านต้น ภาคการศึกษาและผลสัมฤทธิ์ทางการอ่านปลายภาคการศึกษา แล้วนำผลมาวิเคราะห์โดยการหาค่า สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน การถดถอยพหุคูณ และการทดสอบที ผลการวิจัยพบว่าการรับรู้ตนเองด้านการอ่านภาษาอังกฤษโดยรวมและรายด้าน ได้แก่ การ รับรู้ทั่วไป ความก้าวหน้า การเปรียบเทียบ การป้อนข้อมูลย้อนกลับ และภาวะทางกายภาพของ นักศึกษากับผลสัมฤทธิ์ทางการอ่านไม่มีความสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และการรับรู้ ตนเองด้านการอ่านภาษาอังกฤษทุกด้านไม่สามารถทำนายผลสัมฤทธิ์ทางการอ่านภาษาอังกฤษของ นักศึกษาได้ รวมทั้งการรับรู้ตนเองด้านการอ่านภาษาอังกฤษแ ละผลสัมฤทธิ์ทางการอ่าน ภาษาอังกฤษของนักศึกษาไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติเมื่อจำแนกตามเพศ ผลการวิจัยนี้แสดงให้เห็นว่านักศึกษาปริญญาตรีทั้งเพศชายและหญิงที่เรียนภาษาอังกฤษเป็น ภาษาต่างประเทศที่มีการรับรู้ตนเองด้านการอ่านภาษาอังกฤษต่ำจะมีผลสัมฤทธิ์ทางการอ่าน ภาษาอังกฤษต่ำ ผู้สอนจึงควรหาวิธีการปรับปรุงการรับรู้ตนเองด้านการอ่านภาษาอังกฤษและ ผลสัมฤทธิ์ทางการอ่านของนักศึกษาทั้งชายและหญิงไปพร้อม ๆ กันโดยใช้วิธีสอนและเทคนิคต่าง ๆ ที่หลากหลาย

King Mongkut University of Technology North Bangkok. Central Library

Address: Bangkok

Email: library@kmutnb.ac.th

Name: King Mongkut's University of Technology North Bangkok

Role: funding agency

Created: 2014

Modified: 2558-12-23

Issued: 2015-12-23

งานวิจัย/Research report

งานวิจัย/Research report

application/pdf

E-RESEARCH

eng

©copyrights King Mongkut's University of Technology North Bangkok

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	B15931316.pdf	1.16 MB	73	2025-06-25 11:29:10

ใช้เวลา

0.033714 วินาที