ความไม่เป็นธรรมในสัญญาสำเร็จรูปของสถาบันการเงินในการคิดดอกเบี้ยทบต้น

Unfair Treatment of Load Agreements between the Private Sector and Financial Institutions : A Case Study of Compound Interset

Name: ประวัติ นาคนิยม

ThaSH: กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ -- สัญญา.

ThaSH: การชำระหนี้

ThaSH: การคุ้มครองผู้บริโภค -- กฎหมายและระเบียบข้อบังคับ

Abstract: สถาบันการเงินไม่ว่าจะเป็นประเภทที่เป็นธนาคารและไม่ใช่ธนาคาร จะมีการปล่อยสินเชื่อให้แก่ลูกค้าของสถาบันการเงินซึ่งปล่อยสินเชื่อดังกล่าวจะมีการเรียกค่าตอบแทนจากลูกค้าคือดอกเบี้ย (Interest) ค่าตอบแทนที่เป็นดอกเบี้ยนี้จะมีการคิดดอกเบี้ยทบต้น โดยหลักแล้วจะคิดดอกเบี้ยทบต้นไม่ได้ เว้นแต่จะจะที่เข้าข่ายที่กฎหมายยกเว้นไว้ ซึ่งมี 2 กรณีที่กฎหมายยอมให้คิดดอกเบี้ยทบต้นได้ คือ ถ้าดอกเบี้ยนั้นค้างชำระมาไม่น้อยกว่า หนึ่ง ปี และมีข้อข้อตกลงให้ดอกเบี้ยทบต้น อีกประการหนึ่งก็คือ เมื่อมีประเพณีการค้าขายที่คำนวณดอกเบี้ยทบต้นในบัญชีเดินสะพัด หรือในการค้าขายอย่างอื่นทำนองเช่นว่านี้ สัญญาที่กฎหมายให้คิดดอกเบี้ยทบต้นได้ คือ สัญญาบัญชีเดินสะพัด, สัญญาเบิกเงินในเกินบัญชี และสัญญากู้ยืมเงิน โดยทำเป็นสัญญาสำเร็จรูประหว่างสถาบันการเงินกับลูกค้า สัญญาดังกล่าวมีข้อตกลงในการคิดดอกเบี้ยทบต้นที่ไม่เป็นธรรมแก่ลูกค้าของสถาบันการเงินดังต่อไปนี้ 1.ประเด็นเกี่ยวกับเรื่องระยะเวลาในการคิดดอกเบี้ยทบต้นสถาบันการเงินได้กำหนดข้อตกลงการคิดดอกเบี้ยทบต้นในสัญญาที่มีผลให้สามารถคิดดอกเบี้ยทบต้นได้เป็นเวลานาน เป็นการเอาเปรียบลูกค้า 2.ประเด็นเกี่ยวกับเรื่องอัตราดอกเบี้ยผิดสัญญา สถาบันการเงินสามารถกำหนดอัตราดอกเบี้ยได้เอง ไม่ว่าจะเป็นอัตราดอกเบี้ยปกติ หรืออัตราดอกเบี้ยผิดสัญญา ตามประกาศกระทรวงการคลังเรื่องการกำหนดสถาบันการเงินและอัตราดอกเบี้ยที่สถาบันการเงินอาจคิดได้จากผู้กูยืม และตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยเรื่องการกำหนดให้ธนาคารพาณิชย์ปฏิบัติในเรื่องดอกเบี้ยและส่วนลด การกำหนดอัตราดอกเบี้ยผิดสัญญา สถาบันการเงินจะกำหนดมีผลต่างจากอัตราดอกเบี้ยปกติมาก มีผลให้ลูกค้ารับผิดเพิ่มขึ้นในดอกเบี้ยนั้นไม่รู้กี่เท่า รับผิดทั้งดอกเบี้ยที่คิดในอัตราดอกเบี้ยผิดสัญญาและดอกเบี้ยทบต้นที่คิดในอัตราผิดสัญญา เป็นการเอาเปรียบลูกค้า การคุ้มครองลูกค้าของสถาบันการเงินอันเกิดจากข้อสัญญาในประเด็นปัญหาดังกล่าวปัจจุบันได้มีประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ พระราชบัญญัติว่าด้วยข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม พ.ศ. 2540และพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 (ฉบับที่ 2)แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2541 ให้ความคุ้มครอง แต่กฎหมายดังกล่าวยังไม่สามารถให้ความคุ้มครองแก่ลูกค้าได้เพียงพอ วิทยานิพนธ์นี้ได้เสนอว่า ข้อตกลงในการคิดดอกเบี้ยทบต้นประเด็นเกี่ยวกับเรื่องระยะเวลาการคิดดอกเบี้ยทบต้นในสัญญา ถ้ากำหนดให้สัญญาดังกล่าวเป็นสัญญาที่ถูกควบคุมตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 อาจจะสามารถแก้ไขให้เกิดความเป็นธรรมในความรับผิดแก่ลูกค้าของสถาบันการเงินได้ ซึ่งการควบคุมสัญญานี้จะมีกำหนดเงื่อนไขข้อสัญญาเพื่อให้สถาบันการเงินนำไปกำหนดในสัญญา เป็นการป้องกันปัญหา ส่วนข้อตกลงในประเด็นอันเกี่ยวกับดอกเบี้ยผิดสัญญา ถ้าให้กระทรวง การคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยควบคุมกำหนดเพดานอัตราดอกเบี้ยผิดสัญญา แล้วประกาศให้สถาบันการเงินและธนาคารพาณิชย์ถือปฏิบัติ โดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมของสถาบันการเงิน พ.ศ. 2523 และพระราชบัญญัติการธนาคารพาณิชย์ พ.ศ. 2505 ก็น่าจะเป็นธรรมแก่ลูกค้า

Abstract: The Financial Institutions are not only Banks but also other forms of Business Entities. They are charging credit their Customer's with that charging credit to be yielded from Customers was interest. In this regard, the amount of interest will include the calculation of compound interest. In principle compound interest is prohibitted except it comes in the case where there are exceptions. There are two cases where the Civil and Commercial Code allows compound interest. The first one is where the interest has been due for not less than one year and there is an agreement allowing compound interest. The second on is that where there is a trade practice allowing the calculation of compound interest in current account or in other similar from of trade. The law of contract to calculate compound interest are current account of contract, overdraft of contract and loan of contract. By make in adhesioncontracts between Financial Institutions and Customers, the author concerns that such contracts including the calculation of compound interest seems unfair for Customers of Financial Institutions as follows.1. An issue concerning about the calculation of compound interest time. The Financial Institutions to take agreement the calculation of compound interest in the Contracts that reasonable can calculate compound interest in the long period it is taking advantage of the Customers.2. An issue concerning about the default interest rate. The Financial Institutions can set the interest rate theirself that is normal interest rate or default interest rate on the notice of the Ministry of Finance about setting the Financial Institutions and Interest rate that they are calculate from Customers and the notice of the National Bank of Thailand about setting the Commercial Banks carry on about the Interest and Discount. In setting default of interest rate, the Financial Institutions would normally be set much different than the normal interest rate. The reason of the Customers will be liabled in the interest that is may be rapeatly accumulated. The liability is able to calculate the default interest rate and the compound interest to calculate of the default rate it is taking advantage of the Customers.The protection customers of Financial Institutions are agreement in thatissue problem. In the present time have the Civil and Commercial Code, theUnfairable Contract Act 2540 B. E. and the Customer Protection Act 2522B. E. (2 nd. Edition) that was improved and refilled 2541 B. E. to protection.But the law that not can good protection of customers.This thesis suggests main issues as follow; The agreement of the calculation of compound interest an issue concerning about the calcu]ation of compound interest time in contract. If set such contracts to be under control of the Customer Protection Act 2522 B. E. It would be capable of correcting a fair in the liability of Customers of the Financial Institutions. So the control of contracts would be setting as conditions of contract adocted by the Financial Institutions, and the agreement an issue about default interest rate. If control by the Ministry of Finance and the National Bank of Thailand set to ceiling default interest rate notice the Financial Institutions and the Commercial Banks carry about that interest, on the Interest Loan of the Financial Institution Act 2523 B. B. and the Commercial Bank Act 2505 B. E.

มหาวิทยาลัยรามคำแหง.สำนักหอสมุดกลาง

Address: กรุงเทพมหานคร (Bangkok)

Email: dcms@lib.ru.ac.th

Name: นคร เศรษฐ์ภูริวัจน์

Role: คณะกรรมการที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์

Name: พนิต ธีรภาพวงศ์

Role: คณะกรรมการที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์

Created: 2545

Issued: 2548-04-28

Modified: 2006-09-08

วิทยานิพนธ์/Thesis

ISBN: 974-090-219-7

CallNumber: ม.ร. ป1717 2545

tha

DegreeName: นิติศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: นิติศาสตร์

Grantor: มหาวิทยาลัยรามคำแหง

©copyrights มหาวิทยาลัยรามคำแหง

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	Title.pdf	124.39 KB	280	2024-04-10 10:50:14
2	Abstract.pdf	221.49 KB	235	2024-04-10 10:50:20
3	Contents.pdf	221.02 KB	310	2024-04-10 10:50:24
4	Chapter1.pdf	768.68 KB	369	2024-04-10 10:50:29
5	Chapter2.pdf	3.38 MB	427	2025-04-02 17:49:53
6	Chapter3.pdf	6.89 MB	456	2024-04-10 10:50:45
7	Chapter4.pdf	2.84 MB	317	2024-04-10 10:50:56
8	Chapter5.pdf	590.99 KB	286	2024-04-10 10:51:03
9	Appendix.pdf	4.03 MB	269	2024-04-10 10:51:08
10	Bibliography.pdf	472.87 KB	246	2024-04-10 10:51:21
11	Vita.pdf	26.53 KB	165	2024-04-10 10:51:27

ใช้เวลา

0.04028 วินาที