การศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาแรงงานที่มีฝีมือในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ

A Study Way to Solve Problems of Skilled Worker in Gem and Jewelry Industry

Name: พัลลภ พิริยะสุรวงศ์

Organization : มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ. คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม

Email : ppr@kmutnb.ac.th

Name: ธารี วารีสงัด

Organization : มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ. สำนักพัฒนาเทคนิคศึกษา

Name: พัชรินทร์ เหสกุล

Organization : มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ. สำนักพัฒนาเทคนิคศึกษา

ThaSH: อุตสาหกรรมอัญมณี

ThaSH: อุตสาหกรรมเครื่องประดับ

ThaSH: แรงงานฝีมือ

ThaSH: อุปสงค์แรงงาน

Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่มีฝีมือและช่องว่างทางทักษะของแรงงานไทยด้านอัญมณีและเครื่องประดับ ขอบเขตของการศึกษา ใช้ข้อมูลกำลังคนจากสถานประกอบการผู้ผลิตอัญมณีและเครื่องประดับ ในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 46 แห่ง วิธีดำเนินการวิจัยมี 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ขั้นสร้างตัวแบบ ประกอบด้วย 5 ขั้นตอนดังนี้ 1) ศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวข้อง 2) สำรวจแหล่งข้อมูลการผลิตเครื่องประดับอัญมณี 3) สร้างและพัฒนาคุณภาพเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ประกอบด้วย แบบสัมภาษณ์และแบบสอบถาม 4) ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูล 5) ทำการวิเคราะห์ข้อมูล และสร้างตัวแบบเชิง ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อช่องว่างทางทักษะ ระยะที่ 2 ขั้นประเมินตัวแบบ โดยจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ เพื่อระดมความคิดเห็นและรว่ มกันอภิปราย ระยะที่ 3 ขั้นนำเสนอตัวแบบ เป็นการนำเสนอตัวแบบและข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย ผลการวิจัยสรุปว่า 1. ปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่มีฝีมือในการวิจัยครั้งนี้ พบว่า มีการขาดแคลนแรงงานที่มีฝีมือด้านงานรูปพรรณมากที่สุด 2. ปัญหาแรงงานเกิดช่องว่างทางทักษะ พบว่า ทักษะงานฝังอัญมณีแบบไร้หนามมีปัญหามากที่สุด 3. ปัจจัยเชิงสาเหตุที่มีอิทธิพลต่อการเกิดปัญหาช่องว่างทางทักษะงานประดับอัญมณี มี 5 ปัจจัย คือ 1) ปัจจัยด้านเป้าหมายลูกค้า (X₁) 2) ปัจจัยด้านการเปลี่ยนแปลงต้นทุนการผลิตจากตัวสินค้า (X₂) 3) ปัจจัยด้านการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี (X₃) 4) ปัจจัยด้านโครงสร้างสายการผลิต (X₄) และ 5) ปัจจัยด้านวุฒิการศึกษา (X₅) 4. ตัวแบบเชิงเชิงพยากรณ์ที่สามารถทำนายช่องว่างทางทักษะงานประดับอัญมณี (Y) ได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ประกอบด้วย 5 ปัจจัยข้างต้น และมีค่าสหสัมพันธ์ 0.855 มีค่าอำนาจการพยากรณ์ร้อยละ 73.10 สามารถเขียนในรูปของสมการเชิงพยากรณ์ได้ ดังนี้ Y = - 0.0084 (X₁) - 0.291 (X₂) + 0.266 (X₃) + 0.125 (X₄) - 0.163 (X₅)

Abstract: The objectives of this research are to study skill gaps and skill shortage problems of Thai skilled worker: case study the gem and jewelry industry. Research methodology are three session. First: construction model, consist of 5 process; 1) Review literature, 2) Explore the location of gem and jewelry manufacturing in Bangkok metropolitan and then using 46 samples size by simple random sampling method, 3) construction and development of interview form and questionnaires, 4) Data collection from 46 manufacturing, 5) Data analysis and Construction model for prediction skill gaps of Thai skilled workers. Second: evaluation model by focus group and discussion methods. Third: presentation final model and suggestion. The summary of research result show that, 1. The skill shortage problems fine that; a jewelry ornament is a greatest skill shortage. 2. The skill gaps problems fine that; a furnish adornment body (without prickle) is a greatest skill problems. 3. The affecting factors for skill gaps problems are needs and goals of customer (X₁), manufacturing investment change (X₂), technology change X₃), line of production (X₄), and level of education (X₅). 4. The prediction model for skill gaps of Thai skilled worker (Y) can be forecast skill gaps by significance at .05 level (a Multiple Correlation is 0.855; a Power of Prediction is 73.10%) as a fallow: Y = - 0.0084 (X₁) - 0.291 (X₂) + 0.266 (X₃) + 0.125 (X₄) - 0.163 (X₅)

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ. สำนักหอสมุดกลาง

Address: กรุงเทพมหานคร

Email: library@kmutnb.ac.th

Created: 2552

Modified: 2021-01-12

Issued: 2552-08-27

บทความ/Article

application/pdf

BibliograpyCitation : วารสารวิชาการพระจอมเกล้าพระนครเหนือ. ปีที่ 19, ฉบับที่ 2 (พ.ค.-ส.ค. 52), หน้า 257-265

tha

©copyrights มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	atc52_190215.pdf	171.09 KB	343	2024-10-21 13:49:06

ใช้เวลา

0.03519 วินาที