ความผิดที่เป็นการก่ออันตราย : ศึกษาความรับผิดทางอาญาในความผิดฐานเข้าร่วมในการชุลมุนต่อสู้

Danger delict : study on criminal liability for affray offense

Name: ธวัลพร รักตะเมธากูล

ThaSH: ความผิดทางอาญา -- วิจัย

Classification :.DDC: 345.0243

ThaSH: ความรับผิดทางอาญา -- วิจัย

ThaSH: การกระทำในทางอาญา -- วิจัย

Abstract: ระบบกฎหมายในปัจจุบันทั้งระบบกฎหมายจารีตประเพณีและระบบประมวลกฎหมายต่างก็ยอมรับว่าการที่จะวินิจฉัยว่าการกระทำใดเป็นความผิดอาญาและจะต้องถูกลงโทษหรือไม่ จะต้องวินิจฉัยตามหลักเกณฑ์ในการวินิจฉัยความผิด ที่เรียกว่า “โครงสร้างความผิดอาญา” ซึ่งหากทำการพิจารณาความผิดฐานเข้าร่วมในการชุลมุนต่อสู้ของไทยในประมวลกฎหมายอาญา คือ มาตรา 294 และมาตรา 299 ตามโครงสร้างความผิดอาญาของประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีและประเทศฝรั่งเศสซึ่งเป็นประเทศที่ยึดแนวระบบประมวลกฎหมายเช่นเดียวกับไทย และมีอิทธิพลในการวินิจฉัยความผิดอาญาของไทยแล้ว จะพบว่าการกระทำที่เป็นข้อยกเว้นที่ทำให้ผู้กระทำไม่ต้องรับโทษในวรรคสองของความผิดฐานนี้ แท้จริงแล้วเป็นการกระทำที่ไม่เป็นความผิดหาใช่เป็นการกระทำที่เป็นความผิดแต่กฎหมายยกเว้นโทษดังที่ความผิดฐานนี้บัญญัติไว้ นอกจากนี้เนื่องจากความผิดฐานเข้าร่วมในการชุลมุนต่อสู้บัญญัติเอาผิดกับผู้เข้าร่วมชุลมุนต่อสู้ในกรณีที่การชุลมุนต่อสู้นั้นเป็นเหตุให้บุคคลถึงแก่ความตายและได้รับอันตรายสาหัสเท่านั้น ทำให้หากเกิดการชุลมุนต่อสู้ที่มีเพียงบุคคลได้รับบาดเจ็บแต่ไม่ถึงกับเป็นอันตรายสาหัส ก็จะไม่สามารถใช้ความผิดฐานนี้ลงโทษผู้เข้าร่วมชุลมุนต่อสู้ได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาในการพิจารณาคดีของศาล เนื่องจาก ไม่มีบทบัญญัติที่จะนำมาปรับใช้กับกรณีนี้ได้ เป็นเหตุให้ศาลต้องปล่อยตัวผู้กระทำความผิดไปดังที่ปรากฏในคำพิพากษาฎีกาบางฉบับ ซึ่งย่อมเป็นการไม่ยุติธรรมกับผู้เสียหาย จึงเห็นว่าประมวลกฎหมายอาญาควรเพิ่มเติมบทบัญญัติเกี่ยวกับการชุลมุนต่อสู้ที่เป็นเหตุให้บุคคลได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจเพิ่มเข้ามาในความผิดฐานเข้าร่วมในการชุลมุนต่อสู้ อีกทั้งในปัจจุบัน บ่อยครั้งพบว่าผู้เข้าร่วมชุลมุนต่อสู้มักนำเอาอาวุธปืนและวัตถุระเบิดเข้ามาใช้ในการชุลมุนต่อสู้ด้วย ซึ่งอาวุธดังกล่าวจัดเป็นอาวุธร้ายแรงที่สามารถสร้างความเสียหายแก่ชีวิตร่างกายได้อย่างรวดเร็วจึงอาจทำให้มีบุคคลถึงแก่ความตายหรือได้รับบาดเจ็บได้ง่ายกว่าการชุลมุนต่อสู้ที่ไม่มีการใช้อาวุธดังกล่าว จึงเห็นว่ากฎหมายควรบัญญัติให้ผู้เข้าร่วมชุลมุนต่อสู้ที่มีหรือใช้อาวุธปืนหรือวัตถุระเบิดต้องรับโทษหนักขึ้นกว่าที่กฎหมายบัญญัติไว้ เพื่อให้โทษที่ผู้กระทำความผิดจะต้องได้รับมีความเหมาะสมกับปริมาณความเสียหายที่เพิ่มมากขึ้นจากการใช้อาวุธดังกล่าว ด้วยเหตุนี้จึงเห็นว่าความผิดฐานเข้าร่วมในการชุลมุนต่อสู้ของไทยควรได้รับการแก้ไขให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์การวินิจฉัยความผิดอาญาตามโครงสร้างความผิดอาญาโดยตัดข้อความในวรรคสองของมาตรา 294 และมาตรา 299 ออกไปจากบทบัญญัติ อีกทั้งควรเพิ่มเติมบทบัญญัติเกี่ยวกับการชุลมุนต่อสู้ที่เป็นเหตุให้บุคคลได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจเพิ่มเข้ามาในความผิดฐานนี้ และบัญญัติให้ผู้เข้าร่วมชุลมุนต่อสู้ที่มีหรือใช้อาวุธปืนหรือวัตถุระเบิดต้องรับโทษหนักขึ้นกว่าที่กฎหมายบัญญัติ ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการกระทำความผิดลักษณะดังกล่าว ซึ่งจะเป็นการช่วยลดอันตรายที่จะเกิดขึ้นในสังคมและทำให้คนในสังคมอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข

มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์. ศูนย์สนเทศและหอสมุด

Address: กรุงเทพมหานคร

Email: library@dpu.ac.th

Name: อัจฉรียา ชูตินันทน์

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Modified: 2557-05-15

Created: 2555

Issued: 2556-10-08

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: วพ345.0243 ธ397ค

tha

DegreeName: นิติศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: กฏหมายอาญาและกระบวนการยุติธรรมทางอาญา

Grantor: มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์

©copyrights มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	Cover.pdf	269.63 KB	24	2022-03-24 21:08:26
2	ABS.pdf	262.63 KB	18	2022-03-24 21:08:46
3	Chap_1.pdf	305.73 KB	27	2022-03-24 21:11:18
4	Chap_2.pdf	527.16 KB	26	2022-03-24 21:11:25
5	Chap_3.pdf	358.98 KB	15	2022-03-24 21:11:32
6	Chap_4.pdf	392.47 KB	18	2022-03-24 21:11:38
7	Chap_5.pdf	292.06 KB	15	2022-03-24 21:11:46
8	App-bip.pdf	323.67 KB	13	2022-03-24 21:11:54
9	Vita.pdf	239.71 KB	13	2022-03-24 21:12:02

ใช้เวลา

-0.764611 วินาที