การบริหารงานตามหลักอิทธิบาท ๔ ของเจ้าอาวาสในอำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์

Name: พระมหาอุทัย วชิรเมธี (นิยม)

keyword: จังหวัดกาฬสินธุ์

Abstract: บทคัดย่อ การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ๑) เพื่อศึกษาการบริหารงานตามหลักอิทธิบาท ๔ ของเจ้าอาวาสในเขตปกครองคณะสงฆ์ อำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์ ๒) เพื่อศึกษาเปรียบเทียบการบริหารงานตามหลักอิทธิบาท ๔ ของเจ้าอาวาสในเขตปกครองคณะสงฆ์ อำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์ จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล ๓) เพื่อศึกษาปัญหา อุปสรรคและข้อเสนอแนะการบริหารงานตามหลักอิทธิบาท ๔ ของเจ้าอาวาสในเขตปกครองคณะสงฆ์ อำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์ ระเบียบวิจัยใช้การวิจัยเชิงปริมาณซึ่งผู้วิจัยใช้แบบสอบถามกับกลุ่มตัวอย่างในอำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์ จำนวน ๒๑๐ ได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย (Simple random sampling) ผู้วิจัยใช้แบบสอบถามที่จัดทำขึ้น เป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล ลักษณะของแบบสอบถามเป็นทั้งปลายปิดและปลายเปิด สถิติที่ใช้ในการวิจัย คือ ค่าความถี่ (frequency) ค่าร้อยละ (percentage) ค่าเฉลี่ย (mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (standard deviation) การทดสอบค่าที (t-test) และวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One way analysis of variance) และในกรณีที่พบความแตกต่างของค่าเฉลี่ย จึงทำการเปรียบเทียบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยเป็นรายคู่ ด้วยวิธีผลต่างนัยสำคัญที่น้อยที่สุด (Scheffe’) ผลการวิจัยพบว่า ๑. การบริหารงานตามหลักอิทธิบาท ๔ ของเจ้าอาวาสในอำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก ( =๓.๖๔) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านฉันทะ ประชาชนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก ( =๓.๖๘) ด้านวิริยะ ประชาชนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก ( =๓.๖๕) ด้านจิตตะ ประชาชนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก ( =๓.๖๕) ด้านวิมังสา ประชาชนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก ( =๓.๖๐) ๒. การเปรียบเทียบความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อการบริหารงานตามหลักอิทธิบาท ๔ ของเจ้าอาวาสในอำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์ จำแนกตามเพศ ตำแหน่งงาน พบว่า ประชาชนมีความคิดเห็นต่อการบริหารงานตามหลักอิทธิบาท ๔ ของเจ้าอาวาสในอำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยภาพรวมและรายด้าน แตกต่างกันอย่างมีไม่นัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ จึงปฏิเสธสมมุติฐานที่ตั้งไว้ เมื่อจำแนกตามระดับการศึกษาพบว่า ประชาชนมีความคิดเห็นต่อการบริหารงานตามหลักอิทธิบาท ๔ ของเจ้าอาวาสในอำเภอสมเด็จ จังหวัด โดยภาพรวม แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ จึงสอดคล้องกับสมมุติฐานที่ตั้งไว้ ๓. ข้อเสนอแนะการบริหารงานตามหลักอิทธิบาท ๔ ของเจ้าอาวาสในอำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์ เจ้าอาวาสควรเพิ่มบทบาทด้านการพัฒนาองค์ความรู้ในหลักธรรมด้านต่าง ๆ ให้กับประชาชนชาวบ้านในพื้นที่ให้สามารถนำหลักธรรมมาใช้และประยุกต์ใช้ในการพึ่งพาตนเองได้ ควรแต่งตั้งคณะกรรมการในด้านการร่วมมือขึ้นมาให้คณะการบริหารงานร่วมมือกับสำนักพุทธศาสนาประจำจังหวัด จัดหลักสูตรฝึกอบรมหลักอิทธิบาท ๔ให้กับประชาชนชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่และหมู่บ้านได้มีโอกาสเรียนรู้และเข้าใจถึงหลักธรรมการใช้อิทธิบาท ๔ ในการดำเนินชีวิต ควรสนับสนุนงบประมาณให้บุคลากรได้พัฒนาอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับองค์ความรู้ในด้านการพัฒนาหลักธรรมคำสอนนำพาชีวิตเพื่อเป็นการส่งเสริมและผลักดันในด้านการบริหารเกี่ยวกับหลักธรรมต่างๆเพื่อให้เกิดเป็นแนวทางในการปฏิบัติและส่งเสริมให้เป็นนโยบายต่อไป

Abstract: Abstract The objectives of this research were: 1) to study administration according IV Iddhipadha of abbots in Somdet District, Kalasin Province, 2) to compare the administration according IV Iddhipadha of abbots in Somdet District, Kalasin Province by population data, and 3) to study problems, obstacles and recommendations for administration according IV Iddhipadha of abbots in Somdet District, Kalasin Province The research methodology was quantitative research, collecting data from 210 samples, by simple random sampling method using questionnaires. Data were analyzed by statistics of frequency, percentage, mean and standard deviation (SD) Comparisons hypothesis were tested by t-test (t-test) and the analysis of variance (One-way ANOVA) Findings: 1. Administration according IV Iddhipadha of abbots in Somdet District, Kalasin Province was collectively at high level with the average of 3.46. For details on each side, they were found that, Chandha was at high level at 3.68, Viriya was at high level at 3.65, Jitta was at high level at 3.65 and Vimansa was also at high level at the everage of 3.60. 2. Comparing people’s opinions towards local administration according to IV Iddhipa of abbots in Somdet District, Kalasin Province classified by sex and job titles collectively and by each aspect were not significantly different according to statistics set at 0.05 denying the hypothesis. Classifying by education background, it was found that peoples’ opinions towards administration according IV Iddhipadha of abbots in Somdet District, Kalasin Province was significantly different according to statistical setting at 0.05, it hypothesis was confirmed. 3. Recommendations from people about the administration according IV Iddhipadha of abbots in Somdet District, Kalasin Province were as follows; Abbots should have developing role to promote virtual principles for people for practice in daily life. There should be cooperation with Provincial Buddhism Office to develop the curriculum for IV Iddhapadha training for the local people to live the good life according to Iddhipadha Dhamma and make it the provincial policy.

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, สำนักหอสมุดและเทคโนโลยีสารสนเทศ

Address: กรุงเทพมหานคร

Email: library@mcu.ac.th

Name: รศ. ดร. สมาน งามสนิท B.A.,Ph.D (Pub.Admin.)

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Name: อาจารย์ ดร. ประชุม ทองมี LLB, MPPM, DPA.

Issued: 2556-09-27

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

DegreeName: พุทธศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์

Grantor: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

©copyrights มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

ใช้เวลา

0.023575 วินาที