การบริหารงานของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตามหลักสัปปุริสธรรม ๗

Name: พระธนันต์ ชยานนฺโท (ประเสริฐศิลป์)

keyword: หลักสัปปุริสธรรม ๗

Abstract: บทคัดย่อ การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ (๑) เพื่อศึกษาการบริหารงานของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ (๒) เพื่อเปรียบเทียบการบริหารงานของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล (๓) เพื่อศึกษาแนวทางพัฒนาการบริหารงานของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ และกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ บุคลากรของมหาวิทยาลัยจำนวน ๓๐๐ รูป/คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามการบริหารงานของมหาวิทยาลัยตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ แบ่งออกเป็น ๓ ตอน คือ ตอนที่ ๑ ข้อมูลทั่วไปของบุคลากร ตอนที่ ๒ เป็นแบบสอบถามที่มีมาตราส่วนประเมินค่า ๕ ระดับ มีความเชื่อมั่น ๐.๗๕๙ และตอนที่ ๓ เป็นแบบสอบถามปลายเปิดแสดงความคิดเห็นที่เกี่ยวกับการบริหารงานของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป เพื่อการวิจัยทางสังคมศาสตร์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) และใช้สถิติทดสอบสมมติฐานโดยการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One Way ANOVA) ผลการวิจัยพบว่า ๑. สถานภาพทั่วไปของบุคลากร พบว่าบุคลากรส่วนใหญ่มีสถานภาพเป็นบรรพชิต จำนวน ๑๒๔ รูป คิดเป็นร้อยละ ๔๑.๓๓ มีอายุ ๔๐-๔๙ ปี จำนวน ๑๐๖ รูป/คน คิดเป็นร้อยละ ๓๕.๓๓ มีวุฒิการศึกษา ปริญญาโท จำนวน ๑๗๕ รูป/คน คิดเป็นร้อยละ ๕๘.๓๓ มีตำแหน่งหน้าที่อาจารย์ จำนวน ๙๘ รูป/คน คิดเป็นร้อยละ ๓๒.๖๗ และมีประสบการณ์ ๕ - ๑๐ ปี จำนวน ๑๑๙ รูป/คน คิดเป็นร้อยละ ๓๙.๖๗ ๒. การบริหารงานของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยตามหลัก สัปปุริสธรรม ๗ โดยรวมอยู่ในระดับมาก ( = ๓.๘๕) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า อยู่ในระดับมากทุกด้าน คือ ด้านธัมมัญญุตา (รู้เหตุ, หลักการ, หลักเกณฑ์) ( = ๓.๗๗) ด้านอัตถัญญุตา (รู้ความหมาย, ความมุ่งหมาย, ผลที่เกิดขึ้น) ( = ๓.๘๘) ด้านอัตตัญญุตา (รู้จักตน, ภาวะ, กำลังความรู้ความสามารถ, ความถนัด, รู้จักแก้ไขปรับปรุง) ( = ๓.๗๗) ด้านมัตตัญญุตา (รู้จักประมาณ, ความพอดี, การใช้จ่าย) ( = ๓.๘๑) ด้านกาลัญญุตา (รู้จักกาล, เวลาอันเหมาะสม, ตรงเวลา, เป็นเวลา) ( = ๓.๘๑) ด้านปริสัญญุตา (รู้จักบริษัท, ชุมชน, ที่ประชุม) ( = ๓.๙๑) และด้านปุคคลัญญุตา (รู้จักบุคคล,ความแตกต่างแห่งบุคคล,การปฏิบัติต่อบุคคล) ( = ๔.๐๐) ๓. การเปรียบเทียบการบริหารงานของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ พบว่าบุคลากรที่มีสถานภาพต่างกัน มีความคิดเห็นโดยรวมไม่แตกต่างกัน ซึ่งไม่เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ ส่วนบุคลากรที่มีอายุ วุฒิการศึกษา ตำแหน่ง และประสบการณ์การทำงานต่างกัน มีความคิดเห็นโดยรวมแตกต่างกัน ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ ๔. แนวทางการพัฒนาการบริหารงานของมหาวิทยาลัยตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ ด้านธัมมัญญุตา เริ่มจากการคัดสรรคนที่มีความรู้ความสามารถมาร่วมงานกับองค์กร พัฒนาบุคลากรเก่าให้มีความรู้ รวมถึงพัฒนาระบบขององค์กรให้ทันสมัยขึ้น และประชาสัมพันธ์ให้บุคลากร รู้ถึงเป้าหมายในการบริหารงานของมหาวิทยาลัย ด้านอัตถัญญุตา กำหนดมาตรการทั้งให้คุณให้โทษควบคู่ไปกับแผนการปฏิบัติงานด้านต่าง ๆ ด้านอัตตัญญุตา ให้การอบรมบุคลากรทุกระดับชั้น ทั้งความรู้ทางสายงานที่รับผิดชอบ และสอดแทรกทางด้านหลักธรรมไปพร้อมกัน ด้านมัตตัญญุตามีการรณรงค์หรือจัดโครงการ “ใช้น้อย ใช้ซ้ำ นำกลับมาใช้ใหม่” ด้านกาลัญญุตา ทุกหน่วยงานต้องจัดทำแผนปฏิบัติการและโครงการให้สอดคล้องกัน ด้านปริสัญญุตา การจัดกิจกรรมต่าง ๆ ควรให้บุคลากรได้มีส่วนร่วมมากที่สุด เพื่อเป็นการพัฒนาทักษะ และเพิ่มขีดความสามารถในการทำงาน พร้อมที่จะเรียนรู้องค์กรมากขึ้น และด้านปุคคลัญญุตา จัดให้มีการประชุมในหน่วยงานบ่อย ๆ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน และนำแนวคิดต่าง ๆ ต่อยอดพัฒนาองค์กรต่อไป

Abstract: ABSTRACT The main objectives of this research are : i) to study the principles of administration of Mahachulalongkornrajavidyalaya University in accordance with Sappurisadhamma VII; ii) to compare the opinions towards the administration of Mahachulalongkornrajavidyalaya University in accordance with Sappurisadhamma VII, classified by personal factors; and iii) to study the problems and guidelines of administration with Sappurisadhamma VII Mahachulalongkornrajavidyalaya University. The sample comprised of 300 staff who work in Mahachulalongkornrajavidyalaya University. The tool for data collection was a questionnaire which consisted of three parts, namely, part 1 : the personal data, part 2 : questions measuring and assessing the opinions toward administration with 5 levels. The reliability of questionnaire is 0.759, and the part 3 questions are about the compatible principles of administration with Sappurisadhamma VII of Mahachulalongkornrajavidyalaya University. The data was analyzed by social scientific program by employing statistical techniques such as frequencies, percentage, mean, standard deviation and one-way analysis of variance (one-way ANOVA). The results of this study are concluded as follows: The exemplary staffs are mostly monk (41.33 %), with the age between 41-49 years old (35.33 %), the education at the level of master’s degree (58.33%), the position of teachers (32.67) and working experiences between 5-10 years (39.67%). The overall administration of Mahachulalongkornrajavidyalaya University in accordance with Sappurisadhamma VII was at a good level ( = 3.85). When taking each aspect of Sappurisadhamma VII into consideration, it was noted at a high level in all aspects as following : the Dhammanyuta/Knowing the law ( = 3.77), Atthanyuta/Knowing the meaning ( = 3.88), Attanyuta/Knowing oneself ( = 3.77), Mattanyuta/Knowing how to be temperate ( = 3.81), Karanyuta/Knowing the proper time ( = 3.81), Parisanyuta/Knowing the assembly ( = 3.91), and Pukkaranyuta /Knowing the individual ( = 4.00). To compare the administration of Mahachulalongkornrajavidyalaya University in accordance with Sappurisadhamma VII. Staff are classified by personal factor such as social status, it was noticed that there was no significant differences even at .05 level of significance, rejecting the formulated hypotheses, but staff are classified by personal factor was found that sex, levels of education, positions of university staffs and working experience were statistically different at .05 level of significance, accepting the set hypotheses. Guidelines for Improving the administration of the University in accordance with Sappurisadhamma VII. Dhammanyuta (Knowing the law), started by selecting a person with knowledge. Personal development of the old knowledge. Including the development of the modern enterprise. And public relations. Personnel realize the goal of the university administration. Atthanyuta (Knowing the meaning), Measures the benefits and disadvantages along with the operation of programs. Attanyuta (Knowing oneself), to train personnel at all levels. Knowledge of line of responsibility. And insertion of the principles at the same time. Mattanyuta (Knowing how to be temperate), Campaign and Contest "to use less, reuse recycle". Karanyuta (Knowing the proper time), all agencies must prepare plans and programs accordingly. Parisanyuta (Knowing the assembly), various activities for the staff should have participated most In order to develop skills and capacity to work and ready to learn more about the Organization. Pukkaranyuta (Knowing the individual), organized a meeting of the unit frequently to exchange ideas with each other and apply the concept to various organizations to develop balance.

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, สำนักหอสมุดและเทคโนโลยีสารสนเทศ

Address: กรุงเทพมหานคร

Email: library@mcu.ac.th

Name: พระมหาสม กลฺยาโณ ป.ธ.๕, พธ.บ., M.S.W., Ph.D. (Social Work)

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Name: พระครูสังฆรักษ์เกียรติศักดิ์ กิตฺติปญฺโ ประโยค ๑ – ๒, น.ธ.เอก, พธ.บ. (เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง), ศศ.ม. (พัฒนาสังคม)

Name: ผศ.ดร.ธัชชนันท์ อิศรเดช, พธ.บ., M.A. Ph.D.(Pol.Sc.)

Issued: 2556-09-27

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

DegreeName: พุทธศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์

Grantor: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

©copyrights มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

ใช้เวลา

0.028924 วินาที