แจ้งเอกสารไม่ครบถ้วน, ไม่ตรงกับชื่อเรื่อง หรือมีข้อผิดพลาดเกี่ยวกับเอกสาร ติดต่อที่นี่ ==>
หากไม่มีอีเมลผู้รับให้กรอก thailis-noc@uni.net.th ติดต่อเจ้าหน้าที่เจ้าของเอกสาร กรณีเอกสารไม่ครบหรือไม่ตรง

การบริหารกิจการคณะสงฆ์ของพระสังฆาธิการระดับเจ้าอาวาส ในจังหวัดสุพรรณบุรี

keyword: การบริหารกิจการคณะสงฆ์
; พระสังฆาธิการ
; เจ้าอาวาส
; จังหวัดสุพรรณบุรี
Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อการศึกษาการบริหารกิจการของพระสังฆาธิการ ระดับเจ้าอาวาสในจังหวัดสุพรรณบุรี จําแนกตามปจจัยส่วนบุคคล 2) เพื่อเปรียบเทียบการบริการ กิจการคณะสงฆ์ของพระสังฆาธิการระดับเจ้าอาวาสในจังหวัดสุพรรณบุรี จําแนกตามปัจจัยส่วน บุคคล และ 3) เพื่อศึกษาปัญหาและแนวทางการบริหารกิจการของพระสังฆาธิการระดับเจ้าอาวาส ในจังหวัดสุพรรณบุรี ดําเนินการวิจัยโดยวิธีวิจัยเชิงสํารวจ (Survey Research) ซึ่งผู้วิจัยได้ใช้ วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบสัดส่วน (Proportional Stratified Random Sampling) โดยการหาค่า สัดส่วนของจํานวนประชากรจํานวน 559 รูป ต่อจํานวนขนาดของกลุ่มตัวอย่าง 232 รูป การเก็บ รวบรวมข้อมูลจากแบบสอบถามแล้วนํามาวิเคราะห์และประมวลผล โดยใช้ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และเปรียบเทียบความ แตกต่างเป็นรายคู่ ตามวิธีของ Fisher's LSD ผลการวิจัยพบว่า 1. พระสังฆาธิการระดับเจ้าอาวาสในจังหวัดสุพรรณบุรีมีอายุระหว่าง 41 - 50 ปี จํานวน 116 รูป มีพรรษา 21 - 30 พรรษา จํานวน 108 รูป มีการศึกษาสายพระปริยัติธรรม แผนกบาลี ศึกษาเปรียญธรรม 3 - 4 ประโยค จํานวน 205 รูป การศึกษาสายพระปริยัติธรรม แผนกธรรมศึกษานักธรรมชั้นเอก 216 รูป มีการศึกษาสายสามัญระดับอนุปริญญามากที่สุด จํานวน 99 รูป และระยะเวลาในการดํารงตําแหน่งเจ้าอาวาส มากที่สุด 21 - 30 พรรษา จํานวน 108 รูป 2. ผลการวิเคราะห์การบริหารกิจการคณะสงฆ์ของพระสังฆาธิการระดับเจ้าอาวาสใน จังหวัดสุพรรณบุรี พบว่าโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านเรียงลําดับตามค่าเฉลี่ยมากไปหาน้อยได้ดังนี้ ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ ด้านการปกครอง รองลงมาได้แก่ ด้านการศาสนศึกษา และด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ําที่สุด ได้แก่ด้านการสาธารณูปการ 3. ผลการเปรียบเทียบการบริหารกิจการคณะสงฆ์ของพระสังฆาธิการระดับเจ้าอาวาส ในจังหวัดสุพรรณบุรี ที่มีอายุ พรรษา วุฒิการศึกษาสายพระปริยัติธรรม วุฒิการศึกษาสายสามัญ และระยะเวลาในการดํารงตําแหน่งเจ้าอาวาส ต่างกัน มีการบริหารกิจการคณะสงฆ์ ในด้านการ ปกครอง ด้านการศาสนศึกษาด้านการศึกษาสงเคราะห์ ด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ด้านการ สาธารณูปการ และด้านการสาธารณสงเคราะห์ แตกต่างกัน มีดังนี้ ที่มีอายุแตกต่างกัน การบริหารกิจการ คณะสงฆ์โดยรวมไม่แตกต่างกัน เว้นแต่ด้านการศึกษาสงเคราะห์ ด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนาแตกต่างกัน ที่มีพรรษาและวฒิการศึกษาสายสามัญแตกต่างกัน มีการบริหารกิจการคณะสงฆ์แตกต่างกัน โดยรวมไม่แตกต่างกันในทุกด้าน และวุฒิการศึกษาสายปริยัติธรรม และระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสแตกต่างกัน มีการบริหารกิจการคณะสงฆ์โดยรวม ไม่แตกต่างกัน เว้นแต่ด้านการสาธารณสงเคราะห์แตกต่างกัน 4. ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการบริหารกิจการคณะสงฆ์ของพระสังฆาธิการระดับเจ้าอาวาส ในจังหวัดสุพรรณบุรี ด้านการปกครอง แต่ละวัดควรมีกฎระเบียบที่ชัดเจนและเป็นรูปแบบเดียวกัน เมื่อมีการกระทําผิดต้องมีการลงโทษอย่างจริงจัง โดยปราศจากอคติ เจ้าอาวาสต้องเอาใจ ใส่ดูแลพระภิกษุสามเณรอย่างใกล้ชิดมากกว่านี้ การบริหารงานของเจ้าอาวาสควรมีการกระจาย อํานาจแก่ผู้ใต้บังคับบัญชา ส่งเสริมให้ฝ่ายสงฆ์ได้มีส่วนร่วมในการปกครอง ทั้งฝ่ายวัดและบ้านเมือง และแต่ละ วัดควรมีการคัดสรรบุคคลที่จะมาบวชอย่างเคร่งครัด ด้านการศาสนศึกษา ควรจัดหาทุนการศึกษาให้เพียงพอกับจํานวนพระภิกษุสามเณรที่กําลังศึกษาเล่าเรียน รัฐบาลควรมีงบประมาณให้พระภิกษุสามเณรได้เรียนหนังสือ ตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นจนถึงระดับ ปริญญาตรี พระภิกษุสามเณรควรมีการศึกษาทั้งทางปริยัติและปฏิบัติอย่างจริงจัง ควรจัดตั้งกองทุนสํา หรับพระภิกษุสามเณรที่เรียนดียากจน ควรจัดให้มีการศึกษาดูงานแก่พระภิกษุสามเณร เช่น ไปเยี่ยมวัดที่มีพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเพื่อเป็นแรงจูงใจ ด้านการศึกษาสงเคราะห์ รัฐบาลควรสนับสนุนให้พระสงฆ์ได้อบรมคุณธรรมแก่เด็กและเยาวชน รัฐบาลควรสนับสนุนการปรับปรุง วัดให้เป็นแหล่งเรียนรู้ของชุมชน ควรทําให้วัดเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม ผู้บริหารโรงเรียนควรนิมนต์ พระสงฆ์ไปสอนศีลธรรมให้แก่เด็กและเยาวชน รัฐบาลควรส่งเสริมงบประมาณในการส่งเสริม โรงเรียนพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ ด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนา พระสงฆ์ควรพัฒนาตนให้ มีความรู้รอบด้านทั้งทางโลกและทางธรรม สํานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติมีนโยบายให้พุทธศาสนิกชนไปวัดในวันหยุดราชการหรือวันนักขัตฤกษ์ เพื่อเป็นการปฏิบัติธรรมของครอบครัว พระสงฆ์ต้องเคร่งครัดในพระธรรมวินัยเป็นแบบอย่างของพุทธศาสนิกชน พระสงฆ์ต้องจัดการ อบรมคุณธรรมอย่างสม่ำเสมอ ทางหน่วยงานต้องมีการบริการพระสงฆ์เวลาออกไปเผยแผ่ พระพุทธศาสนา ด้านการสาธารณูปการ พระสงฆ์ควรเป็นแบบอย่างที่ดีในการปรับปรุงวัดให้เป็น สถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่สงบ การก่อสร้างไม่ควรสร้างเกินความจําเป็นของวัด วัดควรเป็นตัวอย่างที่ดีในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การก่อ สร้างใด ๆ ควรเป็นสัดส่วนที่ชัดเจน ควรก่อสร้างกําแพงวัดเพื่อแบ่งเขตวัดออกจากอุปจาระบ้าน ด้านการสาธารณสงเคราะห์ วัดควรเป็นศูนย์กลางที่สามารถชี้นําทิศทางที่ถูกที่ควรในการพัฒนาชุมชน เจ้าอาวาสควรให้ความช่วยเหลือ สงเคราะห์ชาวบ้าน เด็กและเยาวชน รัฐหรือวัดควรจัดสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลแก่พระภิกษุ สามเณร ควรจัดเป็นศูนย์รวมในการสร้างสามัคคีธรรมในชุมชน พระสงฆ์ปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้นําชุมชนทั้งในทางจิตวิญญาณและจิตอาสาอย่างแท้จริง
Abstract: The objectives of this research are : 1) to study the Sangha administration of the abbots in Suphanburi Province; 2) to compare the level of opinions of monks toward the Sangha administration of the abbots in Suphanburi Province, classified by personal factors; and 3) to analyze the problem, obstacles and guidelines for Sangha administration of the abbots in Suphanburi Province. The research is a descriptive one with sampling the Sangha administration in Suphanburi Province, totaling to 232 in number, drawn by multistage sampling technique. The tools used for collecting data was questionnaires focusing on the roles of the Sangha in administration in Suphanburi Province. Program for social science research was employed for data analysis by using statistical techniques such as frequencies, average, standard deviation, for describing data from variables or personal characteristics. The analysis was also done through t-test for analysis the hypotheses in order test the average difference between the two groups and F-Test (one way ANOVA) for testing the difference between the averages from three or more groups. The significant difference was noted at 0.05 level. The results of the research show that : 1. Most of the abbots in Suphanburi Province are of ages between 41 - 50 years old to the number of 116 of which 105 having years of ordination between 21 - 30. The ones with Pali qualifications of Pali III-IV are 205 in number, while the ones with Nakdhamma EK of Dhamma studies are 216 in number. The ones with educational qualifications at diploma are 99 in number, and the ones engaged as the abbots between 21 - 30 years are 108 in number. 2. As the result of the research, it is found that, as overall, it is in a medium level. When considered in each aspect, the highest level in administration the next higher level is that of ecclesiastical education, then the lowest is that of constructions and reparation. 3. Results from the comparison, they are found that the abbots with different age, years of ordination, ecclesiastical qualification, secular educational qualification, and duration of the abbotship, are different in the Sangha administration, ecclesiastical education, public supporting education, Buddhist propagation, constructions and reparation, and social welfares as following : the ones with different in age, as overall, the Sangha management is not different, except the public supporting education, Buddhist propagation, as overall. The ones with the years of ordination and secular educational qualification in difference, the overall Sangha administration is not different in any aspect, At the same time, the ones with ecclesiastical qualification and duration of the abbotship in difference, the overall Sangha administration is not different, except the different in social welfares. 4. The recommendations toward the Sangha administration of the abbots in Suphanburi Province are that : On Administration – each temple should have clear rules and regulation on governance of monks and novices. In case of any violation of the rules, there must be just without partiality. The abbot must look for the subordinates closely. There must be decentralized administration through the second and the next. There must be screened a person coming to ordination. On ecclesiastical education :- educational funds should be provided sufficiently to the number of monks and novices in need. The government have to be responsible for the tuition tee for them from secondary schools to bachelor degree levels. Monks and novices be trained both in theories and practice extensively. Funds for needy monks and novices of diligence be set up. Visiting tours be organized to the temple in which the monks of well conduct and practice reside to encourage those monks and novices could follow the life way. On public supporting education :- The government should take part in the encouragement to monks help in preaching morality to the youth, and at the same time should also improve temples as public learning centres as well as that of Dhamma practice. The schools administrators should pay invitation to monks to teach monks to children. The government should allocate budget to Buddhist Sunday Schools. On propagation of Buddhism :- the monks be well-trained and developed themselves in secular and ecclesiastical knowledge. The National Buddhist Office should encourage people going to the temples in weekends and holy days as days of family Dhamma practice. The monks must be strict in the discipline as models of the public. Ethics and moral subjects be taught by monks frequently. Parent bodies should send capable monks to deliver sermons in rotary. On constructions and reparation :- The monks should lead the public in building up temple as pleasurable places. Any construction should be not over and think of environmental conservation. Demarcation be made to separate both the area of the temple and the border from people residences by walls and gates. On social welfares :- The temple should be the centers leading people in community development. The abbots should take more roles in social welfares, especially to the children and the poor. Health care services are also be provided free for monks and novices from the temples and government sectors. At the same time the temples must by the centers for unity and conciliation of the community so that the monks could be the leaders of community both in spirit and volunteer mind.
Mahachulalongkornrajavidyalaya University
Address: BANGKOK
Email: library@mcu.ac.th
Role: อาจารย์ที่ปรึกษา
Role: อาจารย์ที่ปรึกษา
Role: อาจารย์ที่ปรึกษา
Modified: 2568-10-11
Created: 2554
Issued: 2556-08-26
วิทยานิพนธ์/Thesis
application/pdf
tha
©copyrights มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
RightsAccess:
ลำดับที่.ชื่อแฟ้มข้อมูล ขนาดแฟ้มข้อมูลจำนวนเข้าถึง วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1 พระราชปริยัติโมลี (ไพบูลย์ วิปุโล).pdf 2.99 MB
ใช้เวลา
-0.977226 วินาที

พระราชปริยัติโมลี (ไพบูลย์ วิปุโล)
Title Contributor Type
การบริหารกิจการคณะสงฆ์ของพระสังฆาธิการระดับเจ้าอาวาส ในจังหวัดสุพรรณบุรี
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
พระราชปริยัติโมลี (ไพบูลย์ วิปุโล)
สุรพล สุยะพรหม
พระมหาบุญเลิศ อินฺทปญฺโญ
ธัชชนันท์ อิศรเดช
วิทยานิพนธ์/Thesis
สุรพล สุยะพรหม
Title Creator Type and Date Create
ศึกษาการเผยแผ่พุทธธรรมของพระราชญาณวิสิฐ(เสริมชัย ชยมงฺคโล)
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
พระมหาสุทิตย์ อาภากโร,ดร.;พระมหาบุญเลิศ ธมฺมทสฺสี;ผศ.ดร.สุรพล สุยะพรหม
พระครูอาทรปริยัติสุธี (ทุมสิงห์)
วิทยานิพนธ์/Thesis
ศึกษาบทบาทของพระสงฆ์ในการอบรมจริยธรรมแก่เยาวชนในเขตอำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ผศ.ดร. สุรพล สุยะพรหม ;พระครูสังฆรักษ์เกียรติศักดิ์ กิตฺติปญฺโญ;ผศ.ดร.ธัชชนันท์ อิศรเดช
พระมหากำพล คุณงฺกโร
วิทยานิพนธ์/Thesis
ศึกษาบทบาทของพระสงฆ์ในการพัฒนาชุมชนในจังหวัดปทุมธานี
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ผศ. ดร. สุรพล สุยะพรหม ;พระครูสังฆรักษ์เกียรติศักดิ์ กิตฺติปญฺโญ;ผศ.ดร.เติมศักดิ์ ทองอินทร์
พระครูสุวรรณวรการ
วิทยานิพนธ์/Thesis
ความคิดเห็นเกี่ยวกับการบริหารจัดการการศึกษาตามแนววิถีพุทธ : กรณีศึกษาโรงเรียนวัดชมนิมิตร อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ผศ. ดร. สุรพล สุยะพรหม ;พระครูสังฆรักษ์เกียรติศักดิ์ กิตฺติปญฺโญ ;ผศ.ดร.เติมศักดิ์ ทองอินทร์
พระครูใบฎีกาสุวินท์ สุวิชาโน (สอนเล็ก)
วิทยานิพนธ์/Thesis
ประสิทธิภาพการบริหารงานของเจ้าอาวาสในจังหวัดนนทบุรี
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ผศ.ดร.สุรพล สุยะพรหม ;พระครูสังฆรักษ์เกียรติศักดิ์ กิตฺติปญฺโญ;ผศ.ดร.ธัชชนันท์ อิศรเดช
พระครูใบฎีกาอภิชาติ ธมฺมสุทฺโธ (พรสุทธิชัยพงศ์)
วิทยานิพนธ์/Thesis
ความพึงพอใจของประชาชนต่อการให้บริการตามหลักสังคหวัตถุของฝ่ายทะเบียนที่ว่าการอำเภอเมืองจังหวัดนครสวรรค์
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ผศ.ดร.สุรพล สุยะพรหม ;พระครูสังฆรักษ์เกียรติศักดิ์ กิตฺติปญฺโญ;พระมหาไฮ้ ธมฺมเมธี
นางสาวอนงค์นาฏ แก้วไพฑูรย์
วิทยานิพนธ์/Thesis
การบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลขององค์การบริหารส่วนตำบลปางมะค่า อำเภอขาณุวรลักษบุรี จังหวัดกำแพงเพชร
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ผศ.ดร.สุรพล สุยะพรหม;พระศรีสุทธิพงศ์;ผศ.อานนท์ เมธีวรฉัตร
ร้อยตำรวจโท สุพจน์ เจริญขำ
วิทยานิพนธ์/Thesis
การศึกษาความคิดเห็นของประชาชนต่อการบริหารกิจการคณะสงฆ์ในจังหวัดหนองบัวลำภู
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
พระครูปริยัติกิตติธำรง, ผศ.ดร. ;พระมหาสม กลฺยาโณ;ผศ.ดร.สุรพล สุยะพรหม
พระวิฑูรย์ ฐานเมธี (บุญพร้อม)
วิทยานิพนธ์/Thesis
ภาวะผู้นำของเยาวชนตามหลักฆราวาสธรรม ๔ : กรณีศึกษาโรงเรียนหล่มสักวิทยาคม จังหวัดเพชรบูรณ์
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ผศ.ดร.สุรพล สุยะพรหม ;พระครูสังฆรักษ์เกียรติศักดิ์ กิตฺติปญฺโญ;อาจารย์ พระวันชัย ภทฺทจารี
พระสมทบ ถิรปญฺโญ (รุ่งมิตรจรัสแสง)
วิทยานิพนธ์/Thesis
การบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลของโรงเรียนนวมินทราชูทิศมัชฌิม จังหวัดนครสวรรค์
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ผศ.ดร. สุรพล สุยะพรหม;พระครูสังฆรักษ์เกียรติศักดิ์ กิตติปญฺโญ ;ผศ.ดร. วรกฤต เถื่อนช้าง
พระมหาลำพึง ธีรปญฺโญ
วิทยานิพนธ์/Thesis
ความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อการบริหารงานตามหลัก: สาราณียธรรมขององค์การบริหารส่วนตำบล ในอำเภอดอนมดแดง จังหวัดอุบลราชธานี
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ผศ.ดร.สุรพล สุยะพรหม;พระครูสังฆรักษ์เกียรติศักดิ์ กิตฺติปญฺโญ;ดร.ยุทธนา ปราณีต
พระมหาเอกมร 
ิตปญฺโ
(คงตางาม)
วิทยานิพนธ์/Thesis
การใช้หลักมนุษยสัมพันธ์เชิงพุทธในสำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ผศ.ดร.สุรพล สุยะพรหม ;พระครูสังฆรักษ์เกียรติศักดิ์ กิตฺติปญฺโญ;ผศ.ดร.เติมศักดิ์ ทองอินทร์
นายชัยยา ทองอาบ
วิทยานิพนธ์/Thesis
การมีส่วนร่วมของประชาชนในการบริหารงานขององค์การบริหาร ส่วนตำบลบึงกอก อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
สุรพล สุยะพรหม;พระครูสังฆรักษ์เกียรติศักดิ์ กิตฺติปญฺโญ
ศิรินรักษ์ สังสหชาติ
วิทยานิพนธ์/Thesis
ขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานของบุคลากรในองค์กรศาลยุติธรรมจังหวัดนครสวรรค์
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
พระครูสังฆรักษ์เกียรติศักดิ์ กิตฺติปญฺโญ;สุรพล สุยะพรหม
อรัญญ์รพี ปัญญาคุณาภรณ์
วิทยานิพนธ์/Thesis
พระมหาบุญเลิศ อินฺทปญฺโญ
Title Creator Type and Date Create
ธัชชนันท์ อิศรเดช
Title Creator Type and Date Create
ภาวะผู้นำของพระธรรมโกศาจารย์ (ประยูร ธมฺมจิตฺโต) ในการบริหารกิจการคณะสงฆ์
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ผศ.ดร.เติมศักดิ์ ทองอินทร์;พระครูสังฆรักษ์เกียรติศักดิ์ กิตฺติปญฺโ;ผศ.ดร.ธัชชนันท์ อิศรเดช
พระบัณฑิต ญาณธีโร (สุธีระตฤษณา)
วิทยานิพนธ์/Thesis
ทัศนะของนักท่องเที่ยวชาวไทยต่อประสิทธิภาพการบริหารงาน บริการของตำรวจท่องเที่ยว ตามหลักสังคหวัตถุ ๔
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
พระมหาสม กลฺยาโณ;พระครูสังฆรักษ์เกียรติศักดิ์ กิตฺติปญฺโญญ;ผศ.ดร.ธัชชนันท์ อิศรเดช
ด.ต.หญิง ณัฐวีร์ภัทร์ ถิ่นมีผล
วิทยานิพนธ์/Thesis
การประยุกต์ใช้อิทธิบาท ๔ ในการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากรสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
พระมหาอำนวย อํสุการี;พระครูสังฆรักษ์เกียรติศักดิ์ กิตฺติปญฺโญ;ผศ.ดร.ธัชชนันท์ อิศรเดช
นายชาตรี แนวจำปา
วิทยานิพนธ์/Thesis
การบริหารกิจการคณะสงฆ์ในเขตจังหวัดชุมพรกับการประยุกต์ใช้หลักภิกขุอปริหานิยธรรม 7
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
พระครูปริยัติกิตติธำรง,ผศ.ดร. ;ผศ.ดร.ธัชชนันท์ อิศรเดช;ดร.ยุทธนา ปราณีต
พระมหาอานนท์ อานนฺโท (นรมาตร์)
วิทยานิพนธ์/Thesis
บทบาทพระสังฆาธิการในการบริหารกิจการคณะสงฆ์ อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ผศ.ดร.ธัชชนันท์ อิศรเดช;พระวันชัย ภทฺทจารี ;ผศ.ดร.วรกฤต เถื่อนช้าง
พระเกษมศักดิ์ วรสกฺโข(อาสนะทอง)
วิทยานิพนธ์/Thesis
บทบาทพระสงฆ์ในการสืบสานวัฒนธรรมไทยรามัญในจังหวัดสมุทรสาคร
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
สุรพล สุยะพรหม ;พระมหาบุญเลิศ อินฺทปญฺโญ ; ธัชชนันท์ อิศรเดช
พระมหาอำพล กตทีโป
วิทยานิพนธ์/Thesis
การพัฒนาสมรรถนะตามหลักพละ 4 ของบุคลากรปกครองส่วน ท้องถิ่น ในจังหวัดสงขลา
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
อภินันท์ จันตะนี;ธัชชนันท์ อิศรเดช
ภวัต นิตย์โชติ
วิทยานิพนธ์/Thesis
Copyright 2000 - 2025 ThaiLIS Digital Collection Working Group. All rights reserved.
ThaiLIS is Thailand Library Integrated System
สนับสนุนโดย สำนักงานบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อพัฒนาการศึกษา
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
328 ถ.ศรีอยุธยา แขวง ทุ่งพญาไท เขต ราชเทวี กรุงเทพ 10400 โทร. โทร. 02-232-4000
กำลัง ออน์ไลน์
ภายในเครือข่าย ThaiLIS จำนวน 0
ภายนอกเครือข่าย ThaiLIS จำนวน 4,135
รวม 4,135 คน

More info..
นอก ThaiLIS = 65,423 ครั้ง
มหาวิทยาลัยสังกัดทบวงเดิม = 13 ครั้ง
มหาวิทยาลัยราชภัฏ = 5 ครั้ง
มหาวิทยาลัยเอกชน = 2 ครั้ง
รวม 65,443 ครั้ง
Database server :
Version 2.5 Last update 1-06-2018
Power By SUSE PHP MySQL IndexData Mambo Bootstrap
มีปัญหาในการใช้งานติดต่อผ่านระบบ UniNetHelp


Server : 8.199.134
Client : Not ThaiLIS Member
From IP : 216.73.216.28