หลักสุจริตในสัญญาจ้างแรงงาน

Good Faith Principle in Employment Contract

Name: สิริพร กังวาฬ

ThaSH: สัญญาจ้างแรงงาน -- วิจัย

Classification :.DDC: 344.0125

ThaSH: สุจริต (กฎหมาย) -- วิจัย

Abstract: โดยทั่วไปสัญญาจ้างแรงงานมีคู่สัญญาสองฝ่ายคือนายจ้างและลูกจ้าง และการทำสัญญาควรให้อยู่บนพื้นฐานของหลักสุจริต ดังนั้น นายจ้างและลูกจ้างควรใช้สิทธิที่สุจริตอย่างแท้จริงผูกนิติสัมพันธ์ในทางกฎหมาย บทบัญญัติของกฎหมายแรงงานปัจจุบันของไทยยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องให้ความคุ้มครองกับคู่สัญญาได้ยุติธรรมเท่าที่ควร เพราะคู่สัญญาสามารถใช้สิทธิที่ไม่สุจริตโดยอาศัยช่องว่างของกฎหมายหลีกเลี่ยงเพื่อให้ได้ผลประโยชน์มากที่สุด โดยไม่คำนึงถึงความเสียหายที่เกิดกับคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งที่มีฐานะด้อยกว่า คือลูกจ้าง แม้ลูกจ้างจะอาศัยกฎหมายเป็นที่พึ่งฟ้องร้องคดีแต่ผลคำวินิจฉัยไม่เป็นที่ยุติธรรมสำหรับลูกจ้าง เพราะกฎหมายเปิดช่องให้กับนายจ้างใช้สิทธิโดยไม่สุจริต โดยเลือกปฏิบัติกับลูกจ้างให้ได้รับความไม่เสมอภาคในการจ้างงาน จึงทำให้เกิดปัญหาลูกจ้างรับเหมาค่าแรงไม่ได้รับความเท่าเทียมกับลูกจ้างตามสัญญาจ้างโดยตรง หรือเพศหญิงไม่ได้รับความเสมอภาคกับเพศชาย ในเรื่องของโอกาสการเข้าทำงาน หรือเลือกปฏิบัติระหว่างลูกจ้างหญิงและลูกจ้างชาย เรื่องของกฎ ระเบียบ ข้อ บังคับแตกต่างกันเพียงเพราะเพศ นอกจากนี้เมื่อพิจารณาไปถึงการเลิกจ้าง เนื่องจากถูกนายจ้างกลั่นแกล้ง และการเยียวยาความเสียหายจากการเลิกจ้างไม่เป็นธรรมตามกฎหมาย พบว่าไม่สามารถอำนวยประโยชน์และคุ้มครองลูกจ้างได้จริง จากการศึกษาพบว่า ปัญหาการเลือกปฏิบัติและให้ความไม่เท่าเทียมกันในสัญญาจ้างแรงงานที่ไม่เสมอภาคต่อลูกจ้างหญิง และลูกจ้างรับเหมาค่าแรง ซึ่งเกิดจากการใช้สิทธิไม่สุจริตหลีกเลี่ยงกฎหมายที่มีข้อบกพร่องหรือคุ้มครองไม่ครบทุกด้าน เช่น ค่าตอบแทน สภาพการจ้าง และการเกษียณอายุ เป็นต้น ทำให้คู่สัญญาที่ต้องการได้ผลประโยชน์และไม่ต้องการได้รับโทษตามกฎหมาย ใช้สิทธินี้เอารัดเอาเปรียบคู่สัญญาได้ อันนำไปสู่ปัญหาการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งมาตรา 49 พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 ไม่มีหลักเกณฑ์อย่างชัดเจนที่จะใช้พิจารณาว่าลักษณะอย่างไรเป็นการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม จากเหตุผลดังกล่าวข้างต้น ผู้ศึกษาจึงขอเสนอแนะให้มีการปรับปรุงกฎหมายกำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณาลักษณะในบทบัญญัติของกฎหมายให้มีความชัดเจน และข้อบกพร่องที่กฎหมายเปิดช่องทางให้หลีกเลี่ยงกฎหมายในการเลือกปฏิบัติในเรื่องของเพศ ให้มีการคุ้มครองในบทบัญญัติที่ครบทุกด้าน ซึ่งได้เสนอแก้ไขและบัญญัติกฎหมายเป็นร่างมาตรา 11/1 วรรคสอง มาตรา 15 และมาตรา 15/1 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ซึ่งอยู่บนพื้นฐานของหลักสุจริตโดยเป็นการคุ้มครองด้วยตัวบทบัญญัติของกฎหมายต่อไป

มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์. ศูนย์สนเทศและหอสมุด

Address: กรุงเทพมหานคร

Email: library@dpu.ac.th

Name: วิจิตรา (ฟุ้งลัดดา) วิเชียรชม

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Modified: 2025-04-06

Created: 2554

Issued: 2556-01-24

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: วพ344.0125 ส731ห

tha

Level: ปริญญาโท

Descipline: กฎหมายเอกชนและกฎหมายธุรกิจ

Grantor: มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์

DegreeName: นิติศาสตรมหาบัณฑิต

©copyrights มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	Cover.pdf	291.08 KB	126	2025-09-23 10:38:34
2	ABS.pdf	264.36 KB	108	2025-09-23 10:37:00
3	Chap_1.pdf	311.82 KB	136	2025-09-23 10:39:11
4	Chap_2.pdf	526.94 KB	146	2025-09-23 10:39:24
5	Chap_3.pdf	767.46 KB	118	2025-09-23 10:39:39
6	Chap_4.pdf	434.1 KB	91	2025-09-23 10:39:52
7	Chap_5.pdf	299.12 KB	92	2025-09-23 10:40:04
8	App-bip.pdf	341.5 KB	76	2025-09-23 10:40:21
9	App.pdf	387.6 KB	77	2023-03-01 20:04:51
10	Vita.pdf	239.34 KB	69	2023-03-01 20:04:59

ใช้เวลา

0.22237 วินาที