ผลของตัวกลางต่างชนิดต่อระบบการเกิดก๊าซชีวภาพระดับครัวเรือน

Effect of Different Media on Biogas Generation of Household Digester System

Name: กลิ่นประทุม ปัญญาปิง

Name: ภัทรา วงษ์พันธ์กมล

Name: บัณฑิต เผ่าวัฒนา

keyword: ก๊าซชีวภาพ

; ก๊าซมูลสัตว์

; การหมักย่อยของเสีย

Abstract: การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการหมักย่อยของเสียผสมซึ่งใช้เศษก้านและใบลำไยเป็นหลักและใช้เชื้อจุลินทรีย์จากฟาร์มสุกรเป็นเชื้อตั้งต้นเพื่อทำให้เกิดก๊าซชีวภาพทั้ง แบบที่ไม่ใช้ตัวกลางและใช้ตัวกลางในสภาวะไม่ใช้อากาศ โดยใช้ถังหมักย่อยขนาด 200 ลิตร สําหรับระดับครัวเรือน แบ่งการทดลองเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ประกอบด้วย 1) การหมัก ย่อยแบบไม่ใช้ตัวกลางและ 2) การหมักย่อยแบบใช้ตัวกลางจำนวน3ชนิด ผลการทดลองพบว่าปริมาณก๊าซชีวภาพเกิดขึ้นมากที่สุด คือ ชุดการทดลอง แบบใช้ตัวกลางโรลม้วนผมเท่ากับ 926 ลิตรรองลงมาคือแบบใช้ตัวกลางสําเร็จรูปและแบบใช้ตัวกลางไม้ไผ่เท่ากับ 870และ799ลิตรตามลำดับ น้อยที่สุดคือแบบไม่ใช้ตัวกลางเท่ากับ 646 ลิตร ส่วนปริมาณก๊าซมีเทน(CH4)ที่เกิดขึ้นสูงสุดคือแบบใช้ตัวกลางโรลม้วนผมเท่ากับ 64.32% รองลงมาคือแบบใช้ตัวกลางสำเร็จรูปและแบบใช้ตัวกลางไม้ไผ่เท่ากับ 54.98% และ 53.02% ตามลำดับ น้อยที่สุด คือ แบบไม่ใช้ตัวกลาง เท่ากับ 52.95% สําหรับค่าการกำจัดภาระบรรทุกสารอินทรีย์มากที่สุดคือ แบบใช้ตัวกลางโรลม้วนผม เท่ากับ 122,310 mg/l รองลงมา คือ แบบใช้ตัวกลางสําเร็จรูป และแบบใช้ตัวกลางไม้ไผ่ เท่ากับ 122,090 และ122,000 mg/l ตามลำดับน้อยที่สุด คือ แบบไม่ใช้ตัวกลาง เท่ากับ 120,740 mg/l และมีประสิทธิภาพการย่อยสลายสารอินทรีย์มากที่สุด คือ แบบใช้ตัวกลางโรลม้วนผม เท่ากับ 95.66% รองลงมา คือ แบบใช้ตัวกลางสำเร็จรูป และแบบใช้ตัวกลางไม้ไผ่ เท่ากับ 95.52% และ 95.42% ตามลำดับ น้อยที่สุดคือแบบไม่ใช้ตัวกลางเท่ากับ 94.98% กล่าวโดยสรุปได้ว่า การหมักย่อยแบบใช้ตัวกลางสามารถเพิ่มปริมาณการเกิดก๊าซชีวภาพได้มากกว่าการหมักย่อยแบบไม่ใช้ตัวกลางและแบบใช้ตัวกลางโรลม้วนผมเป็นตัวกลาง ที่ทำให้เกิดการย่อยสลายสารอินทรีย์ และเกิดก๊าซชีวภาพได้ดีที่สุด ก๊าซมีเทนที่ได้จากระบบการหมักย่อยแบบนี้ ทำให้เกิดมูลค่าเพิ่มขึ้น ประมาณ 2 เท่า เมื่อคิดจากราคาขายใบลำ ไยแห้งโดยตรง จึงควรแนะนำให้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งเพื่อการใช้งานในชุมชน

Abstract: The purpose of this study was to study the digestion of mixed waste that mainly contained of branches and leaves of Longan waste with the starter from pig farm in order to generate biogas. The digestion was performed by using both media and non-media in digester volume 200 liters for the production of biogas in household level. This experiment was divided into 2 groups as the follows; 1) Digestion without the media 2) Digestion with three kinds of media. It was found that the maximum quantity of biogas generated from the digestion with the hair roll media was 926 liters. The quantities of biogas from the digestion with the PE media or ready media and bamboo media were 870 and 799 liters, respectively. The minimum quantity of biogas from the digestion without media was 646 liters. The maximum quantity of methane (CH4) from the digestion with hair roll media was 63.42%. The quantity of CH4 from the digestion with PE media and bamboo media were 54.98% and 53.02%, respectively. The minimum quantity of CH4 from the digestion without media was 52.95%. As for the disposal value of organic loading, the maximum loading from the digestion with hair roll media was 122,310 mg/l. These loadings from the digestion with PE media and bamboo media were 122,090 and 122,000 mg/l, respectively. The minimum loading from the digestion without media was 94.98%. It could be concluded that the digestion with the media can increase the generation of biogas more than the digestion without the media. The digestion with hair roll media was the best in terms of organic substance digestion and biogas production. The value added of CH4 from this digestion system was 2 times based on the calculation of the price of dry leaves of Longan. It is recommended to be an alternative for application in community.

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา.ห้องสมุด

Address: เชียงใหม่

Role: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ภาคพายัพเชียงใหม่

Created: 2554

Modified: 2555-09-10

Created: 2012

Issued: 2555-09-10

งานวิจัย/Research report

application/pdf

tha

©copyrights มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	ใบปะหน้า.pdf	583.21 KB	30	2018-05-29 12:47:01
2	05บทคัดย่อ.pdf	513.22 KB	74	2018-05-29 12:47:02
3	07สารบัญ.pdf	525.37 KB	31	2018-05-29 12:47:03
4	1บทที่1.pdf	505.37 KB	57	2018-05-29 12:47:03
5	09บทที่ 2.pdf	909.99 KB	67	2020-09-16 16:55:52
6	10บทที่ 3.pdf	711.45 KB	56	2018-05-29 12:47:05
7	11บทที่ 4.pdf	2.45 MB	57	2018-05-29 12:47:06
8	12บทที่ 5.pdf	499.56 KB	49	2018-05-29 12:47:07
9	13บรรณานุกรม.pdf	531.69 KB	37	2018-05-29 12:47:08
10	14ภาคผนวก ก.pdf	608.12 KB	39	2020-09-16 16:55:21
11	14ภาคผนวก ข.pdf	671.16 KB	48	2020-09-16 16:54:50
12	เอกสารอ้างอิง.pdf	507.48 KB	35	2018-05-29 12:47:11
13	ประวัติคณะผ้วิจัย.pdf	493.27 KB	20	2018-05-29 12:47:12

ใช้เวลา

0.068685 วินาที