แจ้งเอกสารไม่ครบถ้วน, ไม่ตรงกับชื่อเรื่อง หรือมีข้อผิดพลาดเกี่ยวกับเอกสาร ติดต่อที่นี่ ==>
หากไม่มีอีเมลผู้รับให้กรอก thailis-noc@uni.net.th ติดต่อเจ้าหน้าที่เจ้าของเอกสาร กรณีเอกสารไม่ครบหรือไม่ตรง

ปัจจัยที่สัมพันธ์กับภาวะโภชนาการของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในอำเภอตะกั่วป่า สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพังงา
Factors Related to the Nutritional Status of the Parthom Six Students in the Takaupa District, Pang-nga Primary Education Service Area

Organization : มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต บัณฑิตวิทยาลัย
keyword: โภชนาการ วิจัย
ThaSH: เด็ก -- โภชนาการ -- วิจัย
Classification :.DDC: 613.2
Abstract: การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาภาวะโภชนาการของนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 6 2) ศึกษาพฤติกรรมการบริโภคอาหารของนักเรียน การจัดอาหารของผู้ปกครองนักเรียน การได้รับข่าวสารเรื่องอาหารและการจัดกิจกรรมโภชนาการของนักเรียน 3) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยนำ ปัจจัยเอื้อ ปัจจัยเสริม กับภาวะโภชนาการของนักเรียน ประชากร ที่ศึกษาคือ นักเรียนชายและหญิงที่กำลังศึกษาระดับประถมศึกษาปีที่ 6 ในอำเภอตะกั่วป่า สุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multistage Random Sampling) ได้ขนาดตัวอย่างจำนวน 159 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือแบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าความถี่ (Frequency) ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าไคสแควร์ ( ) ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง ร้อยละ 51.60 อายุเฉลี่ย 12 ปี การศึกษาของผู้ปกครองจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษามากที่สุด ร้อยละ 34.60 ผู้ปกครองมีอาชีพรับจ้างรายวันมากที่สุด ร้อยละ 38.40 ภาวะโภชนาการของนักเรียนพบว่ามีสัดส่วนเกินครึ่งเล็กน้อย ภาวะโภชนาการสมส่วน คือร้อยละ 55.34 ภาวะโภชนาการของนักเรียนกลุ่มตัวอย่างโดยใช้ส่วนสูงตามเกณฑ์อายุ ร้อยละ 70.44 พฤติกรรมการบริโภคอาหารทั่วไปของนักเรียน พบว่า อาหารที่นักเรียนรับประทานเป็นบางวัน คือ อาหารประเภทเนื้อสัตว์ ร้อยละ51.57 อาหารประเภทไข่รับประทานเป็นบางวัน ร้อยละ77.36 รับประทาน ผัก ทุกวันร้อยละ 56.59 รับประทานผลไม้ ทุกวันร้อยละ52.83 อาหารว่างที่รับประทานบางวัน คือประเภททอฟฟี่ ลูกอม ลูกกวาด เยลลี่ ร้อยละ 69.81 รับประทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ร้อยละ 72.96 พฤติกรรมการจัดอาหารของผู้ปกครองพบว่า ผู้ปกครองคำนึงถึงคุณค่าอาหารทุกครั้งและบางครั้งในสัดส่วนที่เท่ากันร้อยละ 46.54 การได้รับข้อมูล ข่าวสารด้านอาหารของนักเรียนพบว่า การได้รับข้อมูลข่าวสารข่าวสารข้อมูลด้านอาหาร จากครูที่โรงเรียนร้อยละ 61.64 และพบว่าเพศหญิงได้รับข้อมูลข่าวสารจากจากครูที่โรงเรียนมากกว่า เพศชาย คือ ร้อยละ 31.45 จากบุคลากรสาธารณสุขมากที่สุด ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยนำ ได้แก่พฤติกรรมการบริโภคอาหารทั่วไป และพฤติกรรมการบริโภคอาหารว่างและอาหารจานด่วน กับภาวะโภชนาการของนักเรียนประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่า ไม่มีความสัมพันธ์กัน ( p = 0.566, p = 0.129 ตามลำดับ ) ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยเอื้อ ได้แก่ พฤติกรรมการเลือกซื้ออาหารของผู้ปกครอง พฤติกรรมการจัดอาหารของผู้ปกครอง และพฤติกรรมการประกอบอาหาร ของผู้ปกครอง กับภาวะโภชนาการของนักเรียนประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่า ไม่มีความสัมพันธ์กัน( p = 0.251, p = 0.473,p = 0.128 ตามลำดับ ) ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยเสริม ได้แก่ การได้รับข้อมูลข่าวสารเรื่องอาหารกับภาวะโภชนาการของนักเรียนประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่า มีความสัมพันธ์กันอย่างนัยสำคัญทางสถิติ ( p = 0.034 ) ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยเสริม ด้านการจัดกิจกรรมในโรงเรียนกับภาวะโภชนาการของนักเรียนประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่า ไม่มีความสัมพันธ์กัน ( p = 0.080 ) ข้อเสนอแนะในการวิจัยได้แก่ ควรมีการพัฒนาระบบสื่อสาร การประชาสัมพันธ์ด้านการบริโภคอาหารและกระตุ้นให้นักเรียนมีความตระหนักถึงปัจจัยเสี่ยงในการบริโภคอาหารควรจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันระหว่างนักเรียนและผู้ปกครอง บุคลากรสาธารณสุข ครู สนับสนุนโรงเรียนให้มีการจัดอาหารกลางวัน การจัดกิจกรรมการเคลื่อนไหวในโรงเรียน เพื่อส่งเสริมภาวโภชนาการที่ดี
Abstract: The purposes of this research were: (1) to study the nutritional status of the Prathom six students, as well as their dietary habits, (2) to investigate the parents’ choice of food and their perception about food and movement activities for their children, and (3) to study the relationship between the factors and the nutritional status of the students. The sample of this study consisted of 159 students who were studying in Prathom six in Takaupa District. The instruments used for this research were questionnaires. The statistics employed in analyzing the data were percentage, frequency, arithmetic means, standard deviation and Chi - square.The results showed that most of the respondents were girls whose average age was 12 years old. Their parents finished secondary education and worked as employees. Regarding the nutritional status, it was found that about half of the sample group had a well balanced diet. Most of the children ate fruits and vegetables every day. They sometimes consumed meat, eggs, fried food, drinks, snacks and sweets between meals. Their favorite snacks were found to be all kinds of candy, and jelly. However, most girls did not like to eat preserved fruits. In terms of their parents, the researcher found that most of them sometimes chose and prepared the food for their children based on their knowledge of nutrition which they had received from the health personnel. The researcher found that the students always participated in the movement activities provided by their schools. Regarding the factors, it was revealed that the students’ eating behaviour, the parents’ choice of food, and the girls’ movement activities did not have a significant relationship with the students’ nutritional status. Only the parents’ perception of the children’s food was found to relate significantly with the students’ nutritional status.Suggestions included that the school should improve the communication channels to make the students’ parents to become more aware of the importance of the food choice for their children, especially the at-risk groups. There should be more movement activities in schools and activities for the teachers, parents, and health personnel to share knowledge and experience.
มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต. สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ
Address: ภูเก็ต
Email: library@pkru.ac.th
Role: ประธานกรรมการที่ปรึกษา
Modified: 2555-07-24
Issued: 2555-07-24
วิทยานิพนธ์/Thesis
application/pdf
CallNumber: TH613.2 ก47ป
tha
Spatial: ไทย (ภาคใต้)
Spatial: ภูเก็ต
©copyrights มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต
RightsAccess:
ลำดับที่.ชื่อแฟ้มข้อมูล ขนาดแฟ้มข้อมูลจำนวนเข้าถึง วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1 Cover.pdf 413.47 KB62 2021-03-09 12:14:37
2 Appro.pdf 60.17 KB44 2021-03-09 12:15:08
3 Acknow.pdf 414.72 KB52 2021-03-09 12:15:22
4 Contents.pdf 415.3 KB48 2021-03-09 12:15:35
5 Figures.pdf 406.47 KB50 2021-03-09 12:15:50
6 Tables.pdf 415.15 KB52 2021-01-10 23:01:30
7 Chapter1.pdf 1.63 MB87 2022-11-22 10:05:20
8 Chapter2.pdf 1.63 MB91 2023-02-03 17:43:41
9 Chapter3.pdf 1.63 MB64 2022-11-22 10:05:33
10 Chapter4.pdf 1.63 MB60 2022-11-22 10:06:55
11 Chapter5.pdf 1.63 MB68 2022-11-22 10:05:30
12 Bib.pdf 1.63 MB52 2022-11-22 10:05:38
13 Append.pdf 1.63 MB75 2022-11-22 10:05:40
14 Abst.pdf 238.21 KB58 2022-11-22 10:05:19
15 Biog.pdf 1.59 MB54 2022-11-22 10:05:43
ใช้เวลา
0.176243 วินาที

Copyright 2000 - 2025 ThaiLIS Digital Collection Working Group. All rights reserved.
ThaiLIS is Thailand Library Integrated System
สนับสนุนโดย สำนักงานบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อพัฒนาการศึกษา
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
328 ถ.ศรีอยุธยา แขวง ทุ่งพญาไท เขต ราชเทวี กรุงเทพ 10400 โทร. โทร. 02-232-4000
กำลัง ออน์ไลน์
ภายในเครือข่าย ThaiLIS จำนวน 6
ภายนอกเครือข่าย ThaiLIS จำนวน 3,072
รวม 3,078 คน

More info..
นอก ThaiLIS = 121,578 ครั้ง
มหาวิทยาลัยสังกัดทบวงเดิม = 1,569 ครั้ง
มหาวิทยาลัยราชภัฏ = 73 ครั้ง
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล = 59 ครั้ง
หน่วยงานอื่น = 3 ครั้ง
สถาบันพระบรมราชชนก = 1 ครั้ง
มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ = 1 ครั้ง
รวม 123,284 ครั้ง
Database server :
Version 2.5 Last update 1-06-2018
Power By SUSE PHP MySQL IndexData Mambo Bootstrap
มีปัญหาในการใช้งานติดต่อผ่านระบบ UniNetHelp


Server : 8.199.134
Client : Not ThaiLIS Member
From IP : 216.73.216.28