ความสัมพันธ์ระหว่างความพึงพอใจในการปฏิบัติงานของบุคลากรกับแบบภาวะผู้นำของผู้บังคับบัญชากรณีศึกษา: องค์การบริหารส่วนตำบล ในเขตอำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี

The Relationship between Personnel 's Job Satisfaction and Superiors' Leadership: A Case Study of Tambon. Administrative Organization in Keaungnai District,Ubon Ratchathani Province

Name: ณัฎฐนิตย์ มานิภารักษ์

keyword: ผู้บังคับบัญชา

ThaSH: ผู้นำ

Classification :.DDC: 658.4092

; การบริหารส่วนท้องถิ่น

ThaSH: ภาวะผู้นำ

Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาแบบภาวะผู้นำของผู้บังคับบัญชาของบุคลากรที่ปฏิบัติงานในองค์การบริหารส่วนตำบล อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี 2) ศึกษาระดับความพึงพอใจในการปฏิบัติงานของบุคลากรที่ปฏิบัติงานในองค์การบริหารส่วนตำบล 3) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างแบบภาวะผู้นำของผู้บังคับบัญชากับความพึงพอใจในการปฏิบัติงานของบุคลากรที่ปฏิบัติงานในองค์การบริหารส่วนตำบล 4) เปรียบเทียบแบบภาวะผู้นำของผู้บังคับบัญชาตามการรับรู้ของบุคลากรที่ปฏิบัติงานในองค์การบริหารส่วนตำบล จำแนกตาม เพศ อายุ ระดับการศึกษา ตำแหน่ง และระยะเวลาที่ปฏิบัติงานในองค์การบริหารส่วนตำบล และ 5) เปรียบเทียบความพึงพอใจในการปฏิบัติงานของบุคลากรตามการรับรู้ของบุคลากรที่ปฏิบัติงานในองค์การบริหารส่วนตำบล จำแนกตาม เพศ อายุ ระดับการศึกษา ตำแหน่งและระยะเวลาที่ปฏิบัติงานในองค์การบริหารส่วนตำบล ประชากรที่ใช้ในการวิจัย คือผู้ที่ปฏิบัติงานในองค์การบริหารส่วนตำบล ในเขตอำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 526 กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 304 คน โดยการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้นภูมิอย่างไม่เป็นสัดส่วน (Disproportionate Stratified Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ได้ค่าความเชื่อมั่นของแบบภาวะผู้นำเท่ากับ .97 และค่าความเชื่อมั่นของความพึงพอใจในการปฏิบัติงานเท่ากับ .94 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่า t การทดสอบค่า F และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน ผลการวิจัย พบว่า 1. แบบภาวะผู้นำของผู้บังคับบัญชาของบุคลากรที่ปฏิบัติงานในองค์การบริหารส่วนตำบล ทั้ง 5 แบบคือ ภาวะผู้นำแบบปฏิรูป ภาวะผู้นำแบบผู้สอนงาน ภาวะผู้นำแบบพิเศษ ภาวะผู้นำแบบประกอบการ และภาวะผู้นำแบบผู้ให้บริการ พบว่า โดยภาพรวม ภาวะผู้นำแบบผู้สอนงาน และภาวะผู้นำแบบพิเศษ อยู่ในระดับมาก ส่วนภาวะผู้นำอีก 3 แบบ อยู่ในระดับปานกลาง 2. ความพึงพอใจในการปฏิบัติงานของผู้ที่ปฏิบัติงานในองค์การบริหารส่วนตำบล ทั้ง 7 ด้าน คือ ลักษณะและความรับผิดชอบของงาน ด้านความก้าวหน้าในการทำงาน ด้านนโยบายการบริหารงานและการปกครองบังคับบัญชา ด้านความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานกับผู้บังคับบัญชา ด้านสภาพการทำงาน ด้านค่าจ้างเงินเดือนและประโยชน์เกื้อกูล และด้านการได้รับการยกย่องนับถือ และภาพรวม อยู่ในระดับมาก 3. ความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำของผู้บังคับบัญชา ทั้ง 5 แบบ กับความพึงพอใจในการปฏิบัติงานของบุคลากรที่ปฏิบัติงานในองค์การบริหารส่วนตำบล ทั้ง 7 ด้าน มีความสัมพันธ์กันทางบวกทั้งโดยภาพรวมและรายด้าน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 เมื่อพิจารณาเป็นรายคู่ พบว่า แบบภาวะผู้นำที่มีความสัมพันธ์กับความพึงพอใจในการปฏิบัติงานมากที่สุด คือ ภาวะผู้นำแบบพิเศษ ส่วนภาวะผู้นำที่มีความสัมพันธ์กับความพึงพอใจในการปฏิบัติงานน้อยที่สุด คือ ภาวะผู้นำแบบปฏิรูป 4. ผลการเปรียบเทียบความเห็นของบุคลากรที่ปฏิบัติงานในองค์การบริหารส่วนตำบล ที่มีต่อแบบภาวะผู้นำของผู้บังคับบัญชา พบว่าบุคลากรที่มี เพศ อายุ และระยะเวลาที่ ปฏิบัติงานในองค์การบริหารส่วนตำบลต่างกัน เห็นว่า แบบภาวะผู้นำของผู้บังคับบัญชาไม่แตกต่างกัน แต่บุคลากรที่มีระดับการศึกษาต่างกัน เห็นว่า แบบภาวะแบบสอนงานแตกต่างกัน และบุคลากรที่มีตำแหน่งต่างกัน เห็นว่า แบบภาวะผู้นำโดยรวม ภาวะผู้นำแบบปฏิรูป ภาวะผู้นำแบบพิเศษ และภาวะผู้นำแบบผู้ประกอบการแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนภาวะผู้นำแบบอื่นๆ ไม่แตกต่างกัน 5. ผลการเปรียบเทียบความพึงพอใจของบุคลากรในการปฏิบัติงาน พบว่า บุคลากรที่มี เพศ อายุ ระดับการศึกษา และตำแหน่ง ต่างกัน มีความพึงพอใจในการปฏิบัติงานไม่แตกต่างกัน แต่บุคลากรที่มีระยะเวลาปฏิบัติงานต่างกัน มีความพึงพอใจในการปฏิบัติงานด้านสภาพการทำงานแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนด้านอื่นๆ ไม่แตกต่างกัน The purposes of this study were 1) to investigate the leadership of the superiors of the personnel at Tambon administrative organizations in Keaungnai District, Ubon Ratchathani Province, 2) to examine the level of the personnel’s job satisfaction, 3) to determine the relationship between the superiors’ leadership and the personnel’s job satisfaction, and 4) to compare the superiors’ leadership and the personnel’s job satisfaction as perceived by the personnel as they were classified by gender, age, education, position, and length of service. The sample group consisted of 304 personnel selected by means of the disproportionate stratified random sampling from the population of 526 personnel working at Tambon administrative organizations in Keaungnai District, Ubon Ratchathani Province. The research instrument was a questionnaire with a five—level rating scale, yielding the reliability value of .97 for the superiors’ leadership and .94 for the personnel’s job satisfaction. The data were analyzed using percentage, mean, standard deviation, t—test, F-test, and Pearson’s Product Moment correlation cefficient The findings were as follows: 1. The overall superiors’ leadership and their leadership categorized as coaching and super leadership were rated at a high level while their leadership of the other types namely transformational, servant, and entrepreneurial were found to be at a medium level. 2. All of the seven aspects of job satisfaction namely job itself and responsibilities, job advancement, management policy, relationship with co—workers and superiors, working condition, remuneration and fringe benefits, and recognition were rated to be at a high level. 3. All of the five types of leadership had positive relationship with all seven aspects of job satisfaction at the significant level of .01. The strongest relationship between the job satisfaction of the personnel and the superiors’ leadership was found between the job satisfaction and the super leadership type while the weakest relationship was found between the job satisfaction and the transformational leadership. 4. The comparisons of the superiors’ leadership as perceived by the personnel revealed that the personnel who were different in gender, age, and length of service had no significantly different opinions regarding the superiors’ leadership. Those who were different in education had significantly different perceptions regarding coaching leadership, and those different in positions viewed the overall leadership and leadership of transformational, super, and entrepreneurial types differently at the significant level of .05. Their perceptions about the other types of leadership were not significantly different. 5. The personnel who were different in gender, age, education, and position were not significantly different in job satisfaction. Those who were different in length of service were, however, significantly differently in their job satisfaction in the aspects of working condition at the level of .05. Their perceptions regarding the other aspects of job satisfaction were not significantly different

มหาวิทยาลัยราชภัฎอุบลราชธานี. สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ

Address: อุบลราชธานี

Email: info.lib@ubru.ac.th

Name: รองศาสตราจารย์ปิยกนิฏฐ์ โชติวนิช

Role: ประธานกรรมการที่ปรึกษา

Name: รองศาสตราจารย์ทองใบ สุดชารี

Role: กรรมการที่ปรึกษา

Created: 2554

Modified: 2555-06-07

Issued: 2555-06-05

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

DegreeName: บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: การจัดการ

Grantor: มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี

©copyrights มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	titlepage.pdf	180.36 KB	53	2018-10-22 23:08:02
2	abstract.pdf	330.9 KB	78	2018-05-31 06:16:32
3	content.pdf	416.81 KB	28	2018-05-31 06:16:33
4	chapter 1.pdf	500.86 KB	79	2021-02-23 11:41:51
5	chapter 2.pdf	3.23 MB	109	2021-02-23 12:04:03
6	chapter 3.pdf	348.75 KB	60	2021-02-23 12:00:55
7	chapter 5.pdf	1.82 MB	73	2019-10-01 00:58:57
8	bibliography.pdf	315.93 KB	42	2021-02-23 12:02:04
9	appendix.pdf	806.13 KB	64	2021-02-23 12:01:57
10	biodata.pdf	133.5 KB	35	2021-02-23 12:01:49

ใช้เวลา

0.045102 วินาที