ความสัมพันธ์ของแบบแผนความคิดต่อความเจ็บป่วยและความซึมเศร้าในผู้ป่วยมะเร็งชาย

The relationship between cognitive illness representation and depression in male cancer patients

Name: บุญชอบ ชุ่มอารมณ์

ThaSH: ความซึมเศร้า.

ThaSH: มะเร็ง - - ผู้ป่วย.

Abstract: การวิจัยเชิงพรรณนานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแบบแผนความคิดที่มีต่อความเจ็บป่วย และความซึมเศร้า และหาความสัมพันธ์ระหว่างแบบแผนความคิดที่มีต่อความเจ็บป่วยกับความซึมเศร้าในผู้ป่วยมะเร็งชาย กลุ่มตัวอย่างคือผู้ป่วยมะเร็งชาย ที่เข้ารับบริการในศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคมะเร็งจังหวัดชลบุรี จำนวน 100 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แบบวัดแบบแผนความคิดที่มีต่อความเจ็บป่วยของ Weinman และคณะ (1996) และแบบวัดความซึมเศร้าของ Beck (1967) วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ศึกษาความสัมพันธ์ของตัวแปรโดยใช้สถิติสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน ผลการวิจัยพบว่า สามสาเหตุหลักที่เป็นต้นเหตุของการป่วยเป็นมะเร็งตามการรับรู้ของกลุ่มตัวอย่าง คือ การรักษาที่ไม่ดีในอดีต ( x =3.96, SD = .47) อาหาร ( x = 3.76, SD = .62) และ กรรมพันธุ์ ( x = 3.76, SD = .61) อาการที่พบคือ อาการนอนไม่หลับ (ร้อยละ 97) น้ำหนักลด (ร้อยละ 96) และอาการปวด (ร้อยละ 92) คะแนนเฉลี่ยของแบบแผนความคิดที่มีต่อความเจ็บป่วย 4 ด้านได้แก่ ลักษณะและอาการของโรค ( x = 7.98, SD = .32) ระยะเวลาของโรค ( x = 3.80, SD = .41) ผลกระทบที่เกิดจากการเป็นโรค ( x = 3.71, SD = .33) และ การรักษา/ ควบคุมโรค ( x = 3.18, SD = .23) คะแนนเฉลี่ยความซึมเศร้าเท่ากับ 39.64 (SD = 5.89) ผลการทดสอบความสัมพันธ์พบว่าการรับรู้เกี่ยวกับระยะเวลาของโรค มีความสัมพันธ์ทางบวกกับความซึมเศร้าอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (r = .22, p <.05) ผลการวิจัยนี้ช่วยส่งเสริมให้บุคลากรทางสุขภาพ โดยเฉพาะพยาบาลเกิดความรู้ ความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวความสัมพันธ์ระหว่างแบบแผนความคิดที่มีต่อความเจ็บป่วย กับความซึมเศร้าใน ผู้ป่วยมะเร็งชาย และผลการวิจัยที่ได้ยังสามารถใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการบำบัดทางการพยาบาลที่ช่วยส่งเสริมให้ผู้ป่วยสามารถตอบสนองและจัดการด้านอารมณ์ต่อภาวะ คุกคามทางสุขภาพอย่างเหมาะสมต่อไป

Abstract: The purposes of this descriptive correlation study were to examine cognitive illness representation and depression and test its relationships among male cancer patients receiving care services from Chon Buri Cancer Center. One- hundred male cancer patients participated in this study. Instruments for data collection were the illness perception scale developed by Weinman et al. (1996) and Beck Depression scale (Beck, 1967). Descriptive statistics, Pearson’s Product-Moment correlation were employed to analyze the data. Results from this study revealed that the three highest numbers of cancer causes as perceived by this sample were having poor treatment in the past ( x = 3.96, SD = .47), diet ( x = 3.76, SD = .62), and genetics ( x = 3.76, SD = .61). The three highest percentage of symptoms as rated by the sample were insomnia (97%), weight loss (96%) and pain (92%). The average scores of 4 dimensions of cognitive illness representation were: identity ( x = 7.98, SD = .32), time-line ( x = 3.80, SD = .41), consequence ( x = 3.71, SD = .33) and cure/ controllability ( x = 3.18, SD = .23). The average depression scores was 39.64 (SD = 5.89). For correlation analysis, time-line was found to be positively correlated with depression (r = .22, p<.05). These findings could be helpful in the enhancement of knowledge and understanding among health care providers, nurses in particular, regarding cognitive illness representation and depression in male cancer patients. Results from this study would also be served as baseline data for the development of nursing intervention to promote appropriate emotional response and regulation to health threats.

มหาวิทยาลัยบูรพา. สำนักหอสมุด

Address: ชลบุรี

Email: buulibrary@buu.ac.th

Name: ภรภัทร เฮงอุดมทรัพย์

Role: อาจารย์ที่ปรึกษาหลัก

Name: ชนัดดา แนบเกษร

Role: อาจารย์ที่ปรึกษาร่วม

Created: 2554

Modified: 2555-03-21

Issued: 2555-03-21

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: 616.994 บ425ค

tha

DegreeName: พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: การพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวช

Grantor: มหาวิทยาลัยบูรพา

©copyrights มหาวิทยาลัยบูรพา

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	title.pdf	194.74 KB	54	2018-09-10 17:52:59
2	chapter1.pdf	184.3 KB	58	2019-11-24 16:33:41
3	chapter2.pdf	405.76 KB	86	2018-09-10 17:53:24
4	chapter3.pdf	172.79 KB	62	2019-09-28 23:33:56
5	chapter4.pdf	212.41 KB	41	2019-05-26 11:40:16
6	chapter5.pdf	187.52 KB	42	2018-09-10 17:53:53
7	bibliography.pdf	196.91 KB	69	2018-09-10 17:54:05
8	appendix.pdf	636.6 KB	49	2018-09-10 17:54:20

ใช้เวลา

0.042671 วินาที