แจ้งเอกสารไม่ครบถ้วน, ไม่ตรงกับชื่อเรื่อง หรือมีข้อผิดพลาดเกี่ยวกับเอกสาร ติดต่อที่นี่ ==>
หากไม่มีอีเมลผู้รับให้กรอก thailis-noc@uni.net.th ติดต่อเจ้าหน้าที่เจ้าของเอกสาร กรณีเอกสารไม่ครบหรือไม่ตรง

การศึกษาความต้องการในการเรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สามของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาในโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามในจังหวัดนราธิวาส
A NEEDS ANALYSIS OF SECONDARY SCHOOL STUDENTS LEARNING ENGLISH AS A THIRD LANGUAGE IN ISLAMIC RELIGIOUS SCHOOLSIN NARATHIWAT PROVINCE

Organization : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,หลักสูตรปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาภาษาอังกฤษเป็นภาษานานาชาติ (สหสาขาวิชา)

Organization : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,สถาบันภาษา
keyword: โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สาม ความต้องการ
; Islamic religious school, English as a Third language, needs
Abstract: ประชากรที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่ในเขตพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทยเป็นชาวมุสลิมซึ่งมีลักษณะทางสังคมและวัฒนธรรมเฉพาะเป็นขงตนเองซึ่งแตกต่างจากประชากรที่อาศัยอยู่ในภูมิภาค อื่นๆในประเทศ และสื่อสารโดยใช้ภาษาแม่ของตนเองคือภาษามลายู โดยมีภาษาไทยเป็นภาษาที่สอง ส่วนภาษาอังกฤษนั้นถือเป็นภาษาที่สามที่เรียนเมื่อเข้าเรียนในโรงเรียน จุดมุ่งหมายของงานวิจัยนี้คือ การสำรวจความต้องการและทัศนคติของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาของโรงเรียนเอกชนสอนศาสนา อิสลามในจังหวัดนราธิวาสต่อการเรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาี่สาม และสำรวจทัศนคติต่อการเรียนการสอนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สามของอาจารย์และผู้ปกครองของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาของโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสามในจังหวัดนราธิวาส กลุ่มตัวอย่างที่เข้าร่วมในงานวิจัยนี้ประกอบด้วย นักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 118 คน ครู 4 คน และผู้ปกครอง 10 คน ซึ่งคัดเลือกจากโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและเล็กที่สุด ที่ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส งานวิจัยนี้เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม การสัมภาษณ์ และการสังเกต การวิเคราะห์ข้อมูลประกอบด้วย การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณซึ่งใช้ค่าเฉลี่ยและค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพซึ่งใช้วิเคราะห์ข้อมูล ที่ได้จากแบบสอบถามและการสังเกต ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่านักเรียนมีความต้องการที่จะพัฒนาทักษะทางภาษาอังกฤษให้มากขึ้น โดยเฉพาะทักษะการพูดและการอ่าน นักเรียนมีทัศนคติที่ดีต่อการเรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สาม และต้องการภาษาอังกฤษจากสื่อการเรียนการสอนที่หลากหลายในชั้นเรียน นอกจากนี้ผลวิจัย ยังแสดงให้เห็นความเชื่อของอาจารย์ว่านักเรียน จำเป็นที่จะต้องพัฒนาทักษะด้านการเขียนและการอ่านเพิ่มขึ้น ผลการวิจัยนำาไปสู่ข้อเสนอแนะว่า อาจารย์และผู้บริหารโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามควรปรับปรุงหลักสูตรที่มีอยู่เพื่อสนองความต้องการของนักเรียนและแก้ปัญหาที่นักเรียนับรู้โดยจัดหากิจกรรมและสื่อการเรียนการสอนที่หลากหลายเพื่อกระตุ้นและดึงดูดความสนใจของนักเรียน เพื่อให้การเรียนการสอนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สามในโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามมีประสิทธิผลและประสบความสำเร็จมากขึ้น
Abstract: In the three southernmost provinces of Thailand, the majority of people are Muslims. They have their own socio-demographic characteristics and cultures that make them different from people residing in other regions in the country. They speak their own language called Melayu as their mother tongue, speak Thai as their second language, and learn English as a third language in school. The objective of the present study was to explore the needs and the attitudes of secondary students who were learning English as a third language in Islamic religious schools in Narathiwat Province. The study also aimed to explore the attitudes toward English language learning of teachers and parents of secondary students who were learning English as a third language in private Islamic schools in Narathiwat Province. The subjects of the study included 118 Mattayomsuksa 2 students, four teachers, and ten parents selected from the largest and smallest Islamic religious schools situated in Muang District, Narathiwat Province. Data were collected by means of self-administered questionnaires, interviews, and observations. Data analysis consisted of quantitative measures of mean and standard deviation and a qualitative measure of content analysis. The findings of the study revealed that the students felt that they needed to develop language skills more, especially speaking and reading. They had positive attitudes toward learning English as a third language, and they wanted to study English with more varied teaching and learning materials in the classroom. In addition, the findings showed that teachers believed that students needed to focus more on developing their writing and reading skills, especially reading English books, whereas the parents thought that English was important for their children because they could use it to mainly further their studies in higher education.
มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์. ห้องสมุดมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์
Address: นราธิวาส
Email: sarinee.s@pnu.ac.th
Created: 2553
Modified: 2553-12-23
Issued: 2553-12-23
บทความ/Article
application/pdf
BibliograpyCitation : วารสารมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์. ปีที่ 2 ฉบับที่ 3 (ก.ย.-ธ.ค. 53) หน้า 84-98
tha
©copyrights มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์
RightsAccess:
ลำดับที่.ชื่อแฟ้มข้อมูล ขนาดแฟ้มข้อมูลจำนวนเข้าถึง วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1 v2n03-7.pdf 611.63 KB271 2025-05-10 12:39:05
ใช้เวลา
0.032925 วินาที

ปองรัตน์ ศรีสืบ
ปัญชลี วาสนสมสิทธิ์
Copyright 2000 - 2025 ThaiLIS Digital Collection Working Group. All rights reserved.
ThaiLIS is Thailand Library Integrated System
สนับสนุนโดย สำนักงานบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อพัฒนาการศึกษา
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
328 ถ.ศรีอยุธยา แขวง ทุ่งพญาไท เขต ราชเทวี กรุงเทพ 10400 โทร. โทร. 02-232-4000
กำลัง ออน์ไลน์
ภายในเครือข่าย ThaiLIS จำนวน 0
ภายนอกเครือข่าย ThaiLIS จำนวน 1,713
รวม 1,713 คน

More info..
นอก ThaiLIS = 30,239 ครั้ง
มหาวิทยาลัยสังกัดทบวงเดิม = 21 ครั้ง
มหาวิทยาลัยราชภัฏ = 4 ครั้ง
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล = 1 ครั้ง
มหาวิทยาลัยสงฆ์ = 1 ครั้ง
หน่วยงานอื่น = 1 ครั้ง
รวม 30,267 ครั้ง
Database server :
Version 2.5 Last update 1-06-2018
Power By SUSE PHP MySQL IndexData Mambo Bootstrap
มีปัญหาในการใช้งานติดต่อผ่านระบบ UniNetHelp


Server : 8.199.134
Client : Not ThaiLIS Member
From IP : 216.73.216.101