ผลของการใช้รูปแบบการบริการการพยาบาลที่บูรณาการทฤษฎีความพร่องในการดูแลตนเองของโอเร็มต่อการรับรู้สมรรถนะแห่งตนต่อปัจจัยที่สัมพันธ์กับอาการหอบในผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง

Effect of the Use of Nursing Service Model that Integrates Orem’s Self-Care Deficit Theory on Self - Efficacy Toward Factors Related to as Perceived by Patient with Chronic Obstructive Pulmonary Disease

Name: สุภาพร พิมพาภรณ์

MeSH: ผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง

MeSH: การรับรู้สมรรถนะแห่งตน

Classification :.LCCS: wy 100

MeSH: รูปแบบการบริการการพยาบาล

MeSH: ทฤษฎีความพร่องในการดูแลตนเองของโอเร็ม

Abstract: การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลองเพื่อศึกษาและเปรียบเทียบค่าคะแนนเฉลี่ยการรับรู้สมรรถนะแห่งตนต่อปัจจัยที่สัมพันธ์กับอาการหอบก่อนและหลังการทดลอง กลุ่มตัวอย่างคือผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังในโรงพยาบาลของรัฐระดับทุติยภูมิ กลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลองกลุ่มละ 10 คน จับคู่ด้วย อายุ และ ระยะเวลาที่ป่วย เครื่องมือในการดำเนินการทดลองคือรูปแบบการบริการการพยาบาลที่บูรณาการทฤษฎีความพร่องในการดูแลตนเองของโอเร็ม ( Orem, 2001 )โดยจัดทำเป็นคู่มือการปฏิบัติงานสำหรับพยาบาลวิชาชีพ ส่วนกลุ่มควบคุมใช้รูปแบบมอบหมายงานตามหน้าที่ และเครื่องมือการรวบรวมข้อมูลคือแบบสอบถามการรับรู้สมรรถนะแห่งตนจากแนวคิดของ แบนดูรา (Bandura, 1997)ได้รับการตรวจสอบความตรงตามเนื้อหาโดยผู้ทรงคุณวุฒิ 3 ท่าน และ ตรวจสอบความเชื่อมั่นโดยค่าสัมประสิทธิ์อัลฟาของครอนบาคทั้งฉบับเท่ากับ 0.87 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ Wilcoxon Signed Ranks Test เพื่อเปรียบเทียบก่อนและหลังการทดลองของกลุ่มทดลอง และใช้ Mann - Whitney U Test เพื่อเปรียบเทียบหลังการทดลองของกลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลอง ผลการวิจัยพบว่า 1.) ระดับค่าคะแนนเฉลี่ยการรับรู้สมรรถนะแห่งตนของผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังของกลุ่มทดลอง ก่อนการใช้รูปแบบการบริการการพยาบาลที่บูรณาการทฤษฎีความพร่องในการดูแลตนเองของโอเร็มและแนวคิดผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังอยู่ในระดับปานกลางและหลังการใช้รูปแบบการบริการการพยาบาลที่บูรณาการอยู่ในระดับมาก ในกลุ่มควบคุมก่อนและหลังการใช้รูปแบบการพยาบาลแบบมุ่งงานอยู่ในระดับปานกลาง 2.) ค่าคะแนนเฉลี่ยการรับรู้สมรรถนะแห่งตนของผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังหลังการใช้รูปแบบ บูรณาการของกลุ่มทดลองสูงกว่าหลังการใช้รูปแบบของกลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 3.) ค่าคะแนนเฉลี่ยการรับรู้สมรรถนะแห่งตนของผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังหลังการใช้รูปแบบ บูรณาการของกลุ่มทดลองสูงกว่าก่อนการใช้รูปแบบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05

วิทยาลัยเซนต์หลุยส์

Address: กรุงเทพมหานคร

Email: library@slc.ac.th

Name: พวงรัตน์ บุญญานุรักษ์

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Created: 2552

Modified: 2554-03-24

Issued: 2554-03-24

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: ว.wy 100 ส838ผ 2552

tha

DegreeName: พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: การบริหารทางการพยาบาล

Grantor: วิทยาลัยเซนต์หลุยส์

©copyrights วิทยาลัยเซนต์หลุยส์

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	สุภาพร พิมพาภรณ์.pdf	6.12 MB	382	2025-05-12 22:06:01

ใช้เวลา

0.022903 วินาที