การพัฒนารูปแบบการบริหารองค์การแห่งการเรียนรู้ของวิทยาลัยพยาบาลสังกัดกระทรวงกลาโหม

A development of the learing organization management model of Nursing colleges in the Ministry of Defense

Name: สุวพักตร์ เวศม์วิบูลย์

keyword: การพัฒนารูปแบบ

ThaSH: การบริหารองค์ความรู้

ThaSH: การบริหารองค์การ

Classification :.DDC: 610.7306

Abstract: งานวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้และระดับปัจจัยทางการบริหารที่ส่งผลต่อการเป็นองค์กรการแห่งการเรียนรู้ของวิทยาลัยพยาบาล สังกัดกระทรวงกลาโหม 2) พัฒนาและตรวจสอบรูปแบบการบริหารองค์การแห่งการเรียนรู้ 3) ศึกษาแนวทางในการพัฒนาปัจจัยทางการบริหารที่ส่งผลต่อการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ของวิทยาลัยพยาบาล สังกัดกระทรวงกลาโหม ประชากรที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย ผู้บริหาร อาจารย์พยาบาล และบุคลากรสนับสนุนของวิทยาลัยพยาบาล สังกัดกระทรวงกลาโหม จำนวน 198 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แบบสอบถามแบมาตรวัดประมาณค่า 5 ระดับ มีค่าสัมปะสิทธิ์ความเที่ยงตามสูตรแอลฟาครอบบาค เท่ากับ 0.97 และ 0.99 ตามลำดับ และมีความตรงเชิงโครงสร้างตามองค์ประกอบเมื่อวิเคราะห์ด้วยลิสเรล 2) แบบสัมภาษณ์กึ่งมีโครงสร้าง การวิเคราะห์ข้อมูลใช้การวิเคราะห์ด้วยสถิติบรรยาย การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป SPSS 11.5 และตรวจสอบค่าความตรงของรูปแบบโดยใช้โปรแกรมลิสเรล (LISREL) Version 8.52 ผลวิจัยพบว่า 1) สภาพการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้และระดับปัจจัยทางการบริหารที่ส่งผลต่อการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ของวิทยาลัยพยาบาล สังกัดกระทรวงกลาโหม มีค่าเฉลี่ยอยู่ในเกณฑ์ระดับสูง (ค่าเฉลี่ย = 3.65, 3.73 ตามลำดับ) 2) รูปแบบการบริหารองค์การแห่งการเรียนรู้ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นเป็นรูปแบบความสัมพันธ์เชิงสาเหตุสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ (ค่าไค-สแควร์ = 49.79; p=0.428; df=50; GFI=0.957; AGFI=0.911; RMR=0.000) ตัวแปรในโมเดลสามารถอธิบายความแปรปรวนความเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ได้ร้อยละ 84.20 3) ปัจจัยทางการบริหารที่ส่งผลต่อการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ เรียงลำดับจากมากที่สุดไปจนกระทั่งน้อยที่สุด คือ 3.1)ปัจจัยด้านบรรยากาศและวัฒนธรรมองค์การ 3.2) ปัจจัยด้านผู้บริหาร 3.3) ปัจจัยด้านการจูงใจ 3.4) ปัจจัยด้านโครงสร้างองค์การและช่องทางการสื่อสาร 3.5) ปัจจัยด้านเทคโนโลยี/สิ่งสนับสนุนการเรียนรู้และการปฏิบัติงาน 3.6) ปัจจัยด้านประสิทธิผลการดำเนินงานและคุณภาพ 3.7) ปัจจัยด้านการพัฒนาบุคลากรและทีมงาน การเพิ่มอำนาจและความรับผิดชอบในงาน 3.8) ปัจจัยด้านวิสัยทัศน์ พันธกิจ นโยบายและกลยุทธ์และ 3.9) ปัจจัยด้านการปฏิบัติของบุคคลและทีมงาน 4) แนวทางในการพัฒนาปัจจัยทางการบริหารที่ส่งผลต่อการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ 4.1) ปัจจัยด้านบรรยากาศและวัฒนธรรมองค์การ ผู้บริหารควรสร้างบรรยากาศการเรียนรู้จากความผิดพลาดให้คุณค่ากับผู้ที่เรียนรู้อย่างต่อเนื่อง และสร้างวัฒนธรรมการทำงานที่เน้นการทำงานกับเครือข่าย 4.2)ปัจจัยด้านผู้บริหาร ควรบรหารงานแบบสอนงาน การเป็นพี่เลี้ยง และการเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ และบริหารงานอย่างสร้างสรรค์ 4.3)ปัจจัยด้านการจูงใจ ควรมีการพิจารณาให้รางวัลแก่ผู้ที่สร้างสรรค์นวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสถาบันและความยกย่อง/ให้รางวัลแก่บุคลากรที่สามารถทำงานเป็นทีมได้อย่างมีประสิทธิภาพ 4.4)ปัจจัยด้านโครงสร้างองค์การและช่องทางการสื่อสาร ควรมีการประเมินผลระบบการสื่อสารของสถาบันอย่างสม่ำเสมอ นำผลการประเมินมาใช้ในการพัฒนาระบบการสื่อสารขององค์การ และมีการจัดสรรกระจายงานให้กับบุคลากรอย่างทั่วถึงเเละเป็นธรรม 4.5)ปัจจัยด้านเทคโนโลยี/ยิ่งสนับสนุนการเรียนรู้และการปฏิบัติงาน ควรมีการจัดบุคลากรรักษาระบบเทคโนโลยยีสารสนเทศ จัดสรรงบประมาณที่เพียงพอต่อการจัดหาและพัฒนาเทคโนโลยีและสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้และการปฏิบัติงานให้มีความพร้อมสำหรับการใช้งาน 4.6)ปัจจัยด้านประสิทธิผลการดำเนินงานและคุณภาพ ควรมีการนำผลการประเมินคุณภาพภายในและภายนอกมาใช้ในการปรับปรุงคุณภาพด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ/สิ่งสนับสนุนการเรียนรู้และการปฏิบัติงาน และด้านการดำเนินงานที่ดีกว่า เพื่อใช้ในการกำหนดเป้าหมายของสถาบันให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง 4.7)ปัจจัยด้านการพัฒนาบุคลากรและทีมงาน การเพิ่มอำนาจและความรับผิดชอบในงาน ควรมีการสร้างโอกาสให้บุคลากรและทีมงานแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ 4.8)ปัจจัยด้านวิสัยทัศน์ พันธกิจ นโยบาย และกลยุทธ์ ควรมีการจัดทำแผนกกลยุทธ์ เพื่อพัฒนาองค์การให้เป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ และดำเนินการตามแผน 4.9)ปัจจัยด้านการปฏิบัติของบุคคลและทีมงานบุคลากรควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทำงาน โดยทำงานร่วมกับบุคคลอื่นนอกเหนือแผนกงานของตน พยายามเรียนรู้งานอื่นของสถาบันมากขึ้น และใช้กระบวนการคิดเชิงระบบในการทำงานและการแก้ไขปัญหา The purposes of this study were to 1) investigate the status of the learning organization and the level of the administrative factors affecting the learning organization of nursing colleges in the Ministry of Defense, 2) to develop and validate a causal model of learning organization management; and 3) to study guidelines for developing the administrative factors affecting the learning organization of nursing colleges in the Ministry of Defense. The population of this study consisted of 198 people who were administrators, nurse instructors and assistant officers of nursing colleges in the Ministry of Defense. There were 2 forms of instruments which were Likert scale questionnaire that the Cronbach s Alpha reliability coefficients were at 0.97 and 0.99, respectively. The construct validities were confirmed with LISREL analysis and 2) the other instrument is a semi-structure interview form. The data was analyzed through descriptive statistics, correlation analysis using SPSS 11.5 and the analysis of structural equation model was done by using LISREL 8.52. The Major findings were; 1) The mean scores of the status of the learning organization and the level of the administrative factors affecting the learning organization of nursing colleges in the Ministry of Defense in average were high. (Mean = 3.65 , 3.73, respectively) 2) The developed learning organization management model was the causal relationship model and fitted to the empirical data(Chi-square = 49.79; p = 0.482; df = 50; GFI = 0.957; AGFI = 0.911; RMR = 0.000). The variables in the model was accounted for 84.20% of variances. 3) The administrative factors affecting the learning organization can be sequenced as follows: 3.1) The Organizational climate and the culture factors, 3.2) the Administrator factor, 3.3) the Motivation factor, 3.4) the Organizational structure and the Communication channel factors, 3.5) the Technology and Supporting systems factors, 3.6) the Organizational effectiveness and quality factors, 3.7) the Individual/Team development and the Empowerment factors, 3.8) the Vision, the mission, the policy and strategic plan factors, and 3.9) the Individual and Team practice factors. 4) The guidelines for developing the administrative factors affecting the learning organization of nursing colleges in the Ministry of Defense were as follows: 4.1) the Organizational climate and culture factors: the executive officers should develop the organizational climate from mistakes. The learners should be supported consistently and the working culture should be promoted in the form of networking. 4.2) On the Administrator factor: the executive officers should perform themselves as coachers, mentors and learning facilitators, and they have to manage their work creatively. 4.3) On the Motivation factor: there should be rewarding system for those who create innovating work which is beneficial for the institutes and the recognition systems should be done for any personnel who can work in team effectively. 4.4) On the Organizational structure and Communication channel factors: the evaluating of the communication systems of the institutes should be continuously processed and the outcome of the evaluation should be used to develop the organizational communication system. Moreover, work allocation should be separately distributed to every personnel equally. 4.5) On the Technology and supporting systems factors: the group of personnel should be arranged to be responsible for information technology system. The budgets will be allocated sufficiently for technology and learning facility acquisition and development in order to be ready for immediate uses. 4.6) On the Organizational effectiveness and quality factors: the result of internal and external educational quality assessment should be used to improve the quality of information technology systems and knowledge management. Besides it can be used to formulate the equal standard of other nursing colleges which have better management in order to stipulate the better and continuous institutes objectives.4.7) On the Individual/Team development and Empowerment factors: the staffs should have more opportunities to participate in developing human resource plans and learning goals. The personnel and teams are allowed to solve any problems systematically. 4.8) On the Vision, mission, policies and strategic plan factors: the strategic plans will be provided in order to develop the organization to be the learning organization and the implementation has to be done according the development plans. 4.9) On the individual and team practice factors: The personnel have to adjust their working behaviors by working with other groups of people out of their own sections, they should pay their efforts to learn and practice other jobs of the institutes and apply the systematic thinking on working and solving problems.

มหาวิทยาลัยสยาม

Address: กรุงเทพมหานคร

Email: library@siam.edu

Name: สุภัทรา เอื้อวงศ์

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Created: 2551-11-17

Modified: 2552-06-24

Issued: 2552-03-03

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: T/มส 610.7306 ส868ก 2551

tha

DegreeName: ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต (ปร.ด.)

Level: ปริญญาเอก

Descipline: การบริหารการศึกษา

Grantor: มหาวิทยาลัยสยาม

©copyrights มหาวิทยาลัยสยาม

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	Suwapak.pdf	2.72 MB	995	2025-06-17 13:59:38

ใช้เวลา

0.02506 วินาที