ความเครียดและการเผชิญความเครียดของสตรีตั้งครรภ์ที่มีภาวะเสี่ยง

Stress and coping behavior in high risk pregnant women

Name: สิตานันท์ ศรีใจวงศ์

Organization : สถาบันพระบรมราชชนก. วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีอุตรดิตถ์

Name: จิราพร วงศ์ใหญ่

Organization : สถาบันพระบรมราชชนก. วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีอุตรดิตถ์

keyword: ความเครียดของสตรีตั้งครรภ์

ThaSH: สูติศาสตร์

Classification :.NLM: WQ 20

ThaSH: ความเครียด

ThaSH: ภาวะแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์

Abstract: ในปัจจุบันพบว่าสตรีตั้งครรภ์ที่มีภาวะเสี่ยงเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากสาเหตุหลายประการ ทั้งจากความเจริญก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยี และจากพฤติกรรมสุขภาพของสตรีตั้งครรภ์ สตรีตั้งครรภ์และทารกในครรภ์มีโอกาสเกิดอันตรายหรือเสียชีวิต ทั้งในระยะตั้งครรภ์ ระยะคลอดและระยะหลังคลอด การตั้งครรภ์ที่มีภาวะเสี่ยงนอกจากจะมีผลกระทบโดยตรงต่อภาวะสุขภาพทางด้านร่างกายของสตรีตั้งครรภ์และทารกในครรภ์แล้ว ยังส่งผลกระทบทางด้านจิตใจและอารมณ์เป็นอย่างมาก ส่งผลให้สตรีตั้งครรภ์เกิดภาวะเครียดและต้องเผชิญความเครียดด้วยวิธีต่างๆ ดังนั้นผู้วิจัยจึงศึกษาความเครียดและการเผชิญความเครียดของสตรีตั้งครรภ์ที่มีภาวะเสี่ยง และศึกษาความสัมพันธ์ของความเครียดและการเผชิญความเครียดของสตรีตั้งครรภ์ที่มีภาวะเสี่ยง ในสตรีตั้งครรภ์ที่มาฝากครรภ์ ณ แผนกฝากครรภ์ โรงพยาบาลอุตรดิตถ์ โดยเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจงตามคุณสมบัติที่กำหนด จำนวน 142 ราย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล แบบสอบถามความเครียดของสตรีตั้งครรภ์ที่มีภาวะเสี่ยงสูงที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น ตามกรอบแนวคิดของไวท์ จำนวน 5 ด้าน คือด้านภาวะสุขภาพ ด้านการติดต่อสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ทีมสุขภาพ ด้านภาพลักษณ์ในตนเอง ด้านอารมณ์ และด้านสภาพครอบครัว และแบบสอบถามการเผชิญความเครียดของสตรีตั้งครรภ์ที่มีภาวะเสี่ยงสูงที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น ตามกรอบแนวคิดของลาซารัส แบ่งเป็น 2 รูปแบบ คือ การเผชิญความเครียดโดยมุ่งแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นและ การเผชิญความเครียดโดยมุ่งแก้ไขอารมณ์ที่เป็นทุกข์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และวิเคราะห์หาค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน ผลการวิจัยพบว่า 1) กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีระดับความเครียดโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง หากพิจารณารายด้านพบว่าด้านภาวะสุขภาพ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีระดับความเครียดอยู่ในระดับมาก ด้านการติดต่อสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ทีมสุขภาพและด้านอารมณ์กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีระดับความเครียดอยู่ในระดับปานกลาง ส่วนด้านภาพลักษณ์ในตนเองและด้านสภาพครอบครัวกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีระดับความเครียดอยู่ในระดับน้อย 2) กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีระดับพฤติกรรมการเผชิญความเครียดอยู่ในระดับมาก หากพิจารณารายด้านพบว่าการเผชิญความเครียดด้านมุ่งแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นและการเผชิญความเครียดด้านมุ่งแก้ไขอารมณ์ที่เป็นทุกข์ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีพฤติกรรมการเผชิญความเครียดอยู่ในระดับมาก 3) ระดับความเครียดโดยรวมของกลุ่มตัวอย่างมีความสัมพันธ์กับการเผชิญความเครียดโดยรวมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ผลการวิจัยครั้งนี้มีข้อเสนอแนะว่า บุคลากรทางการพยาบาลควรมีมาตรฐานในการดูแลสตรีตั้งครรภ์ที่มีภาวะเสี่ยง โดยมีการประเมินความเครียดและการเผชิญความเครียด เพื่อจะได้ทราบถึงระดับความเครียด และวิธีการเผชิญความเครียดของสตรีตั้งครรภ์ โดยในสตรีตั้งครรภ์แต่ละคนจะแตกต่างกัน ทีมสุขภาพควรส่งเสริมกลวิธีการเผชิญความเครียดวิธีต่างๆ ที่เหมาะสมแก่สตรีตั้งครรภ์ เพื่อให้มีการตั้งครรภ์คุณภาพต่อไป

Abstract: At widespread high risk pregnant women has been resulted in the developmental technology and pregnant women behavior. Pregnant women and fetus have an opportunity to trauma and die in antenatal, intrapartum and postpartum period. Not only effect in physiological but also in psychological. Therefore, the researchers interested in studying stress and coping behavior in high risk pregnant women and the relationship between its. The subjects were 142 high risk pregnant women who have prenatal care at antenatal unit care ,Uttaradit Hospital. Samples were selected by purposive sampling. The research instruments used for data collect was a questionnaire consisting of a Demographic Data, Stress : health status, communication to health provider, self-image, emotion and family status and Coping behavior : problem-focused coping and emotion- focused coping. The research instruments developing by the researchers, based on White and Lazarus Coping Model . Data were analyzed using descriptive statistics and Pearson, s product moment correlation coefficient. The major results revealed that : 1) The subjects had moderate level total score of stress. Considering each aspect of such behaviors. It was found that health status was in high level score. Communication to health provider and emotion were in moderate level score, whereas, self-image and family status had low level score. 2) The subjects had high level total score of coping behavior. Considering each aspect of such behaviors. It was found that problem-focused coping and emotion- focused coping were in high level score; and 3) There was a significantly positive correlation between total score of stress and coping behavior at .01 level . These findings thus suggested that nurses should be have nursing care standard in high risk pregnant women by evaluating in stress and coping behavior to find stress level and coping behavior. Each high risk pregnant women have different stress and coping behavior. Health care provider should be aware to promoting coping behavior in high risk pregnant women in order to increase their effective pregnant.

วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีอุตรดิตถ์. ห้องสมุด.

Address: อุตรดิตถ์

Email: library_unc@windowslive.com

Name: สมาคมศิษย์เก่าพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข

Role: ผู้ให้ทุน

Created: 2551

Modified: 2552-03-19

Issued: 2552-03-19

งานวิจัย/Research report

application/pdf

CallNumber: WQ 20 ส 718 ค

tha

©copyrights วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี อุตรดิตถ์

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	ปกโครงการวิจัย.pdf	47.7 KB	221	2023-07-06 15:00:25
2	บทคัดย่อ.pdf	107.68 KB	411	2024-05-01 11:14:23
3	บทที่ 1-5.pdf	481.17 KB	529	2024-05-01 11:15:43
4	บรรณานุกรม.pdf	103.53 KB	196	2023-07-06 15:00:52
5	ภาคผนวก .pdf	119.47 KB	213	2024-05-01 11:13:20

ใช้เวลา

0.04796 วินาที