The symptom experience and self care in Thai women with cervical cancer receiving treatment

ประสบการณ์ของอาการและการดูแลตนเองที่เกิดจากมะเร็งปากมดลูกและการรักษาในสตรีไทย

Name: Bualuang Sumdaengrit

MeSH: Uterine Cervical Neoplasms

MeSH: Cervix Neoplasms -- Therapy

MeSH: Self Care

LCSH: Cancer -- Nursing

LCSH: Self-care Health

Abstract: Cervical cancer has been increasing and has become a major health problem in Thailand. Being diagnosed with cancer and experiencing various symptoms and side effects of treatment is a stressful situation. Thus, health care providers need to understand symptom experience and self care in these women to give good care. The purposes of this prospective study were to examine the pattern, relationships, and factors predicting changes in symptom experience and self care in Thai women receiving treatment for cervical cancer. The Symptom Management Model was used as a conceptual framework. One hundred and ninety women were recruited from four hospitals: 1 hospital affiliated university, 2 military hospitals, and 1 hospital under the National Cancer Institute. Participants were asked to complete four questionnaires: the Memorial Symptom Assessment Scale, the Self Care Diary, the Sense of Coherence (SOC) – 13, and the Demographic, Disease, and Treatment Questionnaires. Data were collected at pre, middle, and one month post treatment. Description, correlation, and linear mixed models were used to analyze these data. The results showed the patterns of symptom experience: symptom occurrences, frequency, intensity, and distress and number of self-care behaviours increased for a period and then declined. Interestingly, self-care effectiveness was altered in the opposite direction, decreasing and then increasing. Each component of symptom experience was positively interrelated, whereas a number of self-care behaviours were negatively correlated with selfcare effectiveness. Factors significantly related to symptom experience were age, SOC, type of treatment, and financial status. Meanwhile, living arrangement, marital status, family caregivers, and education had no correlation with symptom experience. Factors significantly related to self care were education, SOC, type of treatment, and financial status but age, living arrangement, marital status, and family caregivers had no correlation with self care. Predicting factors for symptom experience were type of treatment, SOC, living arrangement, and education. Meanwhile, age, marital status, family caregivers, and financial status could not predict symptom experience. Similar to self care, predicting factors for self care were SOC, type of treatment, and financial status. However, age, education, marital status, family caregivers, and living arrangement could not predict self care. These findings indicate that the Symptom Management Model can partially provide an empirical explanation of symptom experience and self care in Thai women with cervical cancer and provide options for better intervention with individuals with cervical cancer receiving treatment. The use of this framework is recommended for further experimental study with patients who have other types of cancer

Abstract: มะเร็งปากมดลูกเป็นปัญหาสุขภาพที่สำคัญของประเทศไทย สตรีที่เป็นมะเร็งปากมดลูกต้องเผชิญกับภาวะ เครียดจากโรคและอาการข้างเคียงต่างๆจากการรักษา ตั้งแต่ได้รับการวินิจฉัยจนกระทั่งสิ้นสุดการรักษา การศึกษา ประสบการณ์ของอาการต่างๆที่ผู้ป่วยต้องเผชิญและการดูแลตนเองระหว่างที่มีอาการเหล่านั้น นับว่าเป็นความรู้พื้นฐานที่ สำคัญในการกำหนดกิจกรรมการพยาบาลเพื่อลดอาการข้างเคียงต่างๆที่เกิดขึ้น วัตถุประสงค์ของการศึกษาแบบติดตามไปข้างหน้านี้ เป็นการศึกษารูปแบบการเปลี่ยนแปลงของอาการและการ ดูแลตนเอง ความสัมพันธ์ของตัวแปรด้านบุคคล สุขภาพและสิ่งแวดล้อมกับประสบการณ์ของอาการและการดูแลตนเอง โดยใช้กรอบแนวคิดของการจัดการกับอาการของดอร์ดและคณะ กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ป่วยหญิงที่เป็นมะเร็งปากมดลูกราย ใหม่ จำนวน 190 คนที่มารับการรักษาในโรงพยาบาล 4 แห่งและมีคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่กำหนด เครื่องมือที่ใช้ในการ วิจัย ได้แก่ แบบบันทึกข้อมูลส่วนบุคคล โรคและการรักษา แบบสอบถามความเข้มแข็งในการมองโลก แบบประเมิน อาการจากโรคและการรักษา และแบบสอบถามพฤติกรรมการดูแลตนเอง เก็บข้อมูล 3 ครั้ง ตั้งแต่ก่อนรับการรักษา ระหว่างและภายหลังการรักษาครบ 1 เดือน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ สถิติบรรยาย ความสัมพันธ์เพียร์สันและลิเนียร์ มิกซ์ โมเดล โปรแกรมSPSS 15.00 ผลการศึกษาพบว่าองค์ประกอบของประสบการณ์ของอาการและจำนวนพฤติกรรมการดูแลตนเอง มีรูปแบบ การเปลี่ยนแปลงเป็นรูปโค้งคว่ำ ในขณะที่ประสิทธิภาพของการดูแลตนเองมีรูปแบบการเปลี่ยนแปลงเป็นรูปโค้งหงาย นอกจากนี้แต่ละองค์ประกอบของประสบการณ์ของอาการและจำนวนพฤติกรรมการดูแลตนเอง ยังมีความสัมพันธ์ ทางบวกซึ่งกันและกัน ในขณะที่ประสิทธิภาพของการดูแลตนเองมีความสัมพันธ์ทางลบกับตัวแปรข้างต้น ปัจจัยที่มี ความสัมพันธ์ทางสถิติกับองค์ประกอบของประสบการณ์ของอาการ ได้แก่ อายุ ความเข้มแข็งในการมองโลก ชนิดของ การรักษาและเศรษฐานะ นอกจากนี้ การศึกษา ความเข้มแข็งในการมองโลก ชนิดของการรักษา และเศรษฐานะ ยังมี ความสัมพันธ์ทางสถิติกับการดูแลตนเองด้วย ส่วนปัจจัยที่ทำนายประสบการณ์ของอาการทั้ง การรับรู้ การประเมิน และ การตอบสนองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ได้แก่ ชนิดของการรักษา ความเข้มแข็งในการมองโลก สถานที่ที่อยู่ขณะรักษา และการศึกษา ขณะที่ปัจจัยที่ทำนายการดูแลตนเองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ได้แก่ ความเข้มแข็งในการมองโลก ชนิดของ การรักษา และและเศรษฐานะ ผลการศึกษาครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่ากรอบแนวคิดของการจัดการกับอาการของดอร์ดและคณะ สามารถอธิบาย ประสบการณ์ของอาการและการดูแลตนเองในสตรีที่เป็นมะเร็งปากมดลูกได้บางส่วน บุคลากรในทีมสุขภาพควร ตระหนักถึงรูปแบบการเปลี่ยนแลงของอาการและการดูแลตนเอง รวมถึงปัจจัยที่สามารถทำนายองค์ประกอบของอาการ และการดูแลตนเอง การศึกษาซ้ำโดยใช้กรอบแนวคิดนี้ในผู้ป่วยมะเร็งชนิดอื่นและการศึกษาเชิงทดลองต่อไป

Mahidol University. Mahidol University Library and Knowledge Center

Address: NAKHONPATHOM

Email: liwww@mahidol.ac.th

Name: Somchit Hanucharurnkul

Role: Thesis Advisors

Created: 2008

Modified: 2553-08-24

Issued: 2010-07-29

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: TH B917s 2008

eng

DegreeName: Doctor of Philosophy

Level: Doctoral Degree

Descipline: Nursing

Grantor: Mahidol University

©copyrights Mahidol University

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	4537294.pdf	1.64 MB	154	2022-08-02 08:31:30

ใช้เวลา

0.259096 วินาที