Knowledge and attitudes on coral reefs : a case study of coral reef excursions in the east coast of Thailand

การศึกษาความรู้ความเข้าใจ และทัศนคติเรื่องการท่องเที่ยวชมปะการัง กรณีศึกษา แหล่งท่องเที่ยวแนวปะการัง บริเวณ ชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก

Name: Kosol Sriputtinibondh

LCSH: Coral reefs and islands -- Thailand

LCSH: Ecotourism -- Thailand

LCSH: Tourism -- Environmental aspects

Abstract: This study aimed to investigate tour guide agencies’ and tourists’ knowledge, understanding, and attitudes on coral reefs and eco-tourism, to study the tourism activities towards on coral reefs in the East region of Thailand, and to determine strengths, weaknesses, opportunities, and threats of the tourism activities in the East coast of Thailand. The questionnaires were used for data collection of nineteen tour guide agencies and two hundred and eighty-two tourists. The results showed that most of the tour guide agencies had a mean score of knowledge, understanding, and attitudes at a good level. The tourists were categorized as having a moderate level of knowledge, while attitudes were at a good level. The statistical analysis indicated a non-significant difference in tour guide agencies’ knowledge, understanding, and attitudes among education and participation in coral reef conservation. On the other hand, the results showed significant difference in tourists’ knowledge and understanding among age, education levels, types of activity, and participation in coral reef conservation (p<0.05). The results indicated significant differences in tourists’ attitude participation in coral reef conservation and information receiving (p<0.05). The study showed there are not many documents and printed materials about coral reefs for tourists. Moreover, the publication to promote awareness and attitudes are not provided in all attraction places. For the community participation issue, it declines in the urban community such as Pattaya, Chonburi. The results also revealed that there have been unsuitable activities e.g. using anchor in the coral reef protected areas. This study indicated the importance of the development and concern of activities and policies for enhancing knowledge, understanding, and promoting awareness of tourists for the conservation and protection of marine resources

Abstract: การศึกษาวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความรู้ ความเข้าใจ และทัศนคติของผู้ประกอบการนำเที่ยวชมแนว ปะการังและนักท่องเที่ยวในเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในแนวปะการัง และรูปแบบกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ในแนวปะการังภาคตะวันออก การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์ในการวิเคราะห์จุดเด่น จุดด้อย โอกาส และอุปสรรคของกิจกรรม ท่องเที่ยวในแนวปะการัง ภาคตะวันออก โดยกลุ่มประชากรที่ใช้ในการศึกษาได้แก่ ผู้ประกอบการจำนวน 19 คน และ นักท่องเที่ยวจำนวน 282 คน โดยใช้แบบสอบถามในการเก็บข้อมูล ผลการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนาและการเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยพบว่า กลุ่มผู้ประกอบการส่วนใหญ่มี ความรู้ความเข้าใจและทัศนคติอยู่ในระดับสูง ส่วนกลุ่มนักท่องเที่ยวมีความรู้ความเข้าใจอยู่ในระดับปานกลาง และทัศนคติ อยู่ในระดับสูง จากการศึกษาปัจจัยทางด้าน ภูมิลำเนา ระดับการศึกษา การได้รับข่าวสารเกี่ยวกับแนวปะการัง และการเข้า ร่วมกิจกรรมเกี่ยวกับการอนุรักษ์ทางทะเลของผู้ประกอบการ พบว่าความรู้ความเข้าใจ และทัศนคติของผู้ประกอบการมี ความแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับความเชื่อมั่น 0.05 ผลการเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยความรู้ความเข้าใจของ นักท่องเที่ยว โดยเปรียบเทียบปัจจัยทางด้านอายุ ระดับการศึกษา ลักษณะของการทำกิจกรรม การมีประสบการณ์ใน กิจกรรม และการเข้าร่วมกิจกรรมทางด้านการอนุรักษ์ทางทะเล พบว่าความรู้ความเข้าใจมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับความเชื่อมั่น 0.05 ผลการเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยทางด้านทัศนคติของนักท่องเที่ยว โดยเปรียบเทียบปัจจัย ทางด้านลักษณะของการทำกิจกรรม การมีประสบการณ์ในกิจกรรม และการได้รับคำอธิบายจากผู้ประกอบการก่อนทำ กิจกรรม มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับความเชื่อมั่น 0.05 ผลจากการประเมินปัจจัยด้านต่างๆที่มีผลต่อการท่องเที่ยวในแนวปะการัง พบว่าในด้านเอกสาร ข้อมูล และสื่อ สิ่งพิมพ์ที่ให้ความรู้และคำแนะนำเกี่ยวกับแนวปะการังกับนักท่องเที่ยวยังมีอยู่ไม่มาก รวมถึงการประชาสัมพันธ์ให้มีความ ตระหนักถึงคุณค่าและความสำคัญของปะการังนั้นพบได้เพียงบางจุดซึ่งไม่ทั่วถึง และด้านการมีส่วนร่วมของชุมชน ซึ่งเป็น ปัจจัยหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ พบว่าแหล่งท่องเที่ยวได้กลายเป็นสังคมใหญ่ยกตัวอย่าง เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ส่งผลต่อการมีส่วนร่วมของชุมชนท้องถิ่นลดน้อยลง สุดท้ายในด้านการปฏิบัติตนในแนวปะการังนั้น ยังคงมี การใช้สมอในแนวปะการัง เพื่อส่งนักท่องเที่ยว ซึ่งจากปัจจัยต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการท่องเที่ยวนั้น ส่งผลให้แนวปะการังมีความเสื่อมโทรมลง จึงควรมีการ ปรับปรุง และพัฒนากิจกรรมการท่องเที่ยวในแนวปะการัง รวมถึงการให้ข้อมูลข่าวสาร การประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน ตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ เพื่อช่วยในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลไว้ต่อไป

Mahidol University. Mahidol University Library and Knowledge Center

Address: NAKHONPATHOM

Email: liwww@mahidol.ac.th

Name: Kampanad Bhaktikul

Role: Thesis Advisors

Created: 2009

Modified: 2553-07-20

Issued: 2010-07-19

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: TH K86k 2009

eng

Spatial: Thailand

DegreeName: Master of Science

Level: Master's Degree

Descipline: Technology of Environmental Management

Grantor: Mahidol University

©copyrights Mahidol University

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	4736370.pdf	4.64 MB	193	2023-07-10 17:52:13

ใช้เวลา

0.294969 วินาที