ประสิทธิผลการจัดการกระบวนการชดเชยบริการทางการแพทย์ค่าใช้จ่ายสูงของโรงพยาบาลภาครัฐ ประเทศไทย

The effectiveness of process management of high cost care claim in Thailand's government hospitals.

Name: สมพร แวงแก้ว

ThaSH: การจัดสรรค่าใช้จ่าย

ThaSH: โรงพยาบาล -- ค่าตอบแทนคืนจากประกันสุขภาพ

Abstract: สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติมีหน้าที่บริหารกองทุน และจ่ายค่าใช้จ่ายเพื่อบริการ สาธารณสุขแก่หน่วยบริการโดยจัดสรรงบประมาณสำหรับโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูงไว้ที่ส่วนกลาง โดยกำหนดให้ โรงพยาบาลส่งเบิกชดเชยไปที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พบปัญหาที่เกิดจากกระบวนการเบิกชดเชย บริการทางการแพทย์ค่าใช้จ่ายสูง มีข้อมูลผู้ป่วยในผิดพลาดในการสรุปบันทึกการรักษา ข้อมูลขาดความทันเวลา ไม่ครบถ้วนถูกต้อง ใช้เวลาส่งข้อมูลเบิกชดเชยเกิน 30 วัน ส่งผลโดยตรงต่อรายได้ที่พึงรับของโรงพยาบาล การ วิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ วัดประสิทธิผล และ วิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งผลต่อ ประสิทธิผลของการจัดการ กระบวนการชดเชยบริการทางการแพทย์ค่าใช้จ่ายสูงของโรงพยาบาลภาครัฐประเทศไทย รูปแบบการวิจัยเชิงพรรณนาแบบภาคตัดขวาง ศึกษาในโรงพยาบาลภาครัฐประเทศไทย ในโครงการ หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ปีงบประมาณ 2548 เก็บข้อมูลการเบิกชดเชยจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพ แห่งชาติ ตัดข้อมูลการชดเชย ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2548 และใช้แบบสอบถามหัวหน้างานประกันสุขภาพและ ผู้บันทึกข้อมูลผู้ป่วยใน ส่งทางไปรษณีย์เก็บข้อมูลระหว่าง 1 ตุลาคม ถึง 30 พฤศจิกายน 2549 มีการตอบสมบูรณ์ จำนวน 255 โรงพยาบาล ใช้สถิติเชิงพรรณนา ทดสอบความสัมพันธ์ด้วยสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เพียร์สัน ไคว์สแควร์และวิเคราะห์ความถดถอยเชิงพหุ ผลการวิจัยพบว่า โรงพยาบาลที่ศึกษามีประสิทธิผลการจัดการกระบวนการชดเชยอยู่ในระดับสูง โดยโรงพยาบาลศูนย์ส่งข้อมูลเบิกชดเชยทันเวลา ครบถ้วนถูกต้องและได้รับเงินชดเชยมากที่สุด โดยเบิกชดเชย มากที่สุดในกลุ่มโรคที่มีค่าน้ำหนักสัมพัทธ์มากกว่าหรือเท่ากับ 4 กลุ่ม โรคเคมีบำบัด/รังสีรักษา การผ่าตัดหัวใจ และการผ่าตัดสมอง พบปัจจัยลักษณะโรงพยาบาลมีผลทำให้ประสิทธิผลการเบิกชดเชยเพิ่มขึ้น อย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ .05 (p-value = .001) กล่าวคือ โรงพยาบาลที่มี จำนวนเตียงและการใช้เวลาส่งข้อมูลมาก จะทำให้ มีประสิทธิผลการเบิกชดเชยเพิ่มขึ้นได้ ร้อยละ 38.9 ขณะที่ปัจจัยลักษณะบุคลากรไม่ได้มีผลต่อประสิทธิผลการ เบิกชดเชย จากการศึกษาทำให้ทราบว่า โรงพยาบาลที่มีศักยภาพการรักษาพยาบาลสูงจะทำให้มีประสิทธิผลการ เบิกชดเชยบริการทางการแพทย์ค่าใช้จ่ายสูงเพิ่มขึ้น ข้อเสนอแนะจากผลการวิจัย คือ ควรชี้แจงเกณฑ์การเบิกชดเชยแก่หน่วยบริการอย่างชัดเจน และนำ ผลการวิจัยไปปรับกระบวนการปฏิบัติงานเบิกชดเชยบริการทางการแพทย์ของโรงพยาบาลให้มีประสิทธิภาพและ ประสิทธิผลเพิ่มขึ้นต่อไป

Abstract: The National Health Security Office holds a duty of managing the funds, making payments to medical service units and allocating the budget for high-cost diseases at the central office. All claim data records were set to be submitted by the hospitals to the National Health Security Office. It was found that there were some flaws in connection with out-ofdate, incomplete and incorrect data. There were transactions concerning claim submission more than 30 days and which directly affected their revenues. The objectives of this research were to evaluate the effectiveness of high cost care claim and to find out the relationship between hospital characteristics and personnel characteristics and the effectiveness of management process of high cost care claim in Thailand’s government hospitals. This study was the cross-sectional descriptive research, conducted in government hospitals under the universal health insurance scheme. The data were collected from the high cost care claims for the fiscal year 2005 kept by the National Health Security Office up to claims on 1 October 2005. The questionnaires were also mailed to the health insurance heads and officers recording in-patient data record program. The data collection has been done from 1 October to 30 November 2006 and the questionnaires were returned by 255 hospitals. The relationship between variables was analyzed by the descriptive statistics consisting of Pearson’s Product Moment Correlation Coefficient, Chi-Square and Stepwise Multiple Regression Analysis. The results showed that the studied hospitals achieved the high effectiveness of process management of high cost care claim. The regional hospitals made claims in-time , complete and correct, and received the most refund for diseases having the relative weight more than or equal to 4, chemo-radio therapy, heart surgery and craniotomy. The factors in respect with hospital characteristics influenced the effectiveness of high cost care claim significantly at the statistic test level of .05 (p-value <.05). The hospitals with high number of beds and long duration of data record sending influenced the increase of the effectiveness of process management of high cost care claim at 38.9%. For the personnel characteristics factor, it did not influence the effectiveness of high cost care claim. The finding of this study showed that the high potential hospital in disease treatment has increasing effectiveness of process management of high cost care claim. The suggestions of this study were that the criteria of claims should be clearly explained to the service units and these results should be implemented to revise the process management of high cost care claim in hospitals for more effectiveness and efficiency

มหาวิทยาลัยมหิดล

Address: นครปฐม

Email: liwww@mahidol.ac.th

Name: สุคนธา คงศีล

Role: ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์

Created: 2550

Modified: 2553-06-18

Issued: 2553-06-18

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: วพ ส265ป 2550

tha

DegreeName: วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: บริหารสาธารณสุข

Grantor: มหาวิทยาลัยมหิดล

©copyrights มหาวิทยาลัยมหิดล

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	4736598-scan.pdf	1.31 MB	136	2024-04-30 08:40:51

ใช้เวลา

0.391702 วินาที