Perceived self-efficacy of caregivers in caring for children with pneumonia at home

การรับรู้สมรรถนะในตนเองของผู้ดูแลในการดูแลเด็กโรคปอดอักเสบที่บ้าน

Name: Arworn Khoomkrathoke

MeSH: Caregivers

MeSH: Pneumonia

LCSH: Self-efficacy

Abstract: This descriptive research which aimed at studying perceived self-efficacy of caregivers in caring for children with pneumonia at home and investigating the relationship between demographic characteristics of caregivers (age, educational level, family income) and perceived self-efficacy of caregivers in caring for children with pneumonia at home. The study sample consisted of principal caregivers of children ranging in age from one month to five years old who were hospitalized at Maharaj Nakhonratchasima Hospital, Nakhonratchasima province. Data were collected by means of the demographic data questionnaire and the perceived self-efficacy of caregivers in caring for children with pneumonia at home questionnaire. Statistical analyses included frequency distribution, percentage, means, standard deviation, and Chi-square. The results of the study revealed that caregivers had a high average score on perceived self-efficacy in caring for children with pneumonia at home (X = 88.26, SD = 11.01). As for each aspect of perceived self-efficacy, it was found that the aspect with the highest mean score was taking children to outpatient referral (X = 94.80, SD = 13.22), followed by health, treatment, diet, environment, and medication. (X = 91.97, SD = 11.34; X = 91.23, SD = 11.86; X = 87.55, SD = 13.72; X = 86.07, SD = 15.70; X = 84.77, SD = 15.91, respectively). Moreover, it was found that age, educational level, and family income had no relationship to perceived self-efficacy of caregivers in caring for children with pneumonia at home (χ2 = 7.533, 2.827, and 2.508, respectively). Based on these findings, it was suggested that nurses should undergo training to equip the caregivers with knowledge and information necessary in promoting caregivers’ appropriate perceived self-efficacy in caring for children with pneumonia at home, especially when it comes to administration of medication and environment. Proper preparation and promotion of caregivers’ experience in care should be emphasized as well so as to increase quality of care provided to children with pneumonia at home

Abstract: การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงบรรยาย เพื่อศึกษาการรับรู้สมรรถนะในตนเองของผู้ดูแล และเพื่อศึกษาความสัมพันธ์ของปัจจัยส่วนบุคคลของผู้ดูแล ได้แก่ อายุ ระดับการศึกษา และรายได้ ครอบครัว กับการรับรู้สมรรถนะในตนเองของผู้ดูแลในการดูแลเด็กโรคปอดอักเสบที่บ้าน กลุ่ม ตัวอย่างเป็นผู้ดูแลหลักที่นำเด็กอายุ 1 เดือน-5 ปี มารับการรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล และแบบวัดการรับรู้ สมรรถนะในตนเองของผู้ดูแลในการดูแลเด็กโรคปอดอักเสบที่บ้าน และวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์ความสัมพันธ์โดยใช้การทดสอบ Chi-square ผลการวิจัย พบว่า ค่าเฉลี่ยคะแนนการรับรู้สมรรถนะของผู้ดูแลในการดูแลเด็กโรคปอด อักเสบที่บ้านโดยรวมอยู่ในระดับสูง(X = 88.26, SD = 11.01) สำหรับการรับรู้สมรรถนะในตนเอง ของผู้ดูแลตามรายด้าน พบว่าผู้ดูแลมีค่าเฉลี่ยคะแนนการรับรู้สมรรถนะในตนเองเกี่ยวกับการพาเด็ก มาตรวจตามนัดสูงกว่าด้านอื่น ๆ (X = 94.80, SD = 13.22) รองลงมา ได้แก่ การดูแลสุขภาพ การ ดูแลความผิดปกติเบื้องต้น การให้อาหาร การจัดสิ่งแวดล้อม และการให้ยารับประทาน (X = 91.97, SD = 11.34;X = 91.23,SD = 11.86; X = 87.55, SD = 13.72; X = 86.07, SD = 15.70; X = 84.77, SD = 15.91 ตามลำดับ) นอกจากนี้พบว่า อายุของผู้ดูแล ระดับการศึกษา และรายได้ของครอบครัว ไม่มีความสัมพันธ์กับการรับรู้สมรรถนะในตนเองของผู้ดูแลในการดูแลเด็กโรคปอดอักเสบที่บ้าน (χ2 = 7.533, 2.827 และ 2.508) จากผลการวิจัยครั้งนี้มีข้อเสนอแนะว่า พยาบาลควรสนับสนุนผู้ดูแลเกี่ยวกับการดูแลเด็กโรค ปอดอักเสบที่บ้าน โดยเน้นการส่งเสริมการรับรู้สมรรถนะในตนเอง โดยเฉพาะด้านการให้ยารับประทาน และด้านการจัดสิ่งแวดล้อม เพื่อเตรียมความพร้อมของผู้ดูแลในการดูแลเด็กโรคปอดอักเสบที่บ้าน และ ส่งเสริมให้ผู้ดูแลมีพฤติกรรมในการดูแลเด็กโรคปอดอักเสบที่บ้านอย่างเหมาะสม

Mahidol University

Address: NAKHONPATHOM

Email: liwww@mahidol.ac.th

Name: Rashanee Seeda

Role: Thesis Advisors

Created: 2008

Modified: 2553-06-17

Issued: 2010-06-17

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: TH A796p 2008

eng

DegreeName: Master of Nursing Science

Level: Master's Degree

Descipline: Pediatric Nursing

Grantor: Mahidol University

©copyrights Mahidol University

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	4637791.pdf	2.08 MB	273	2025-08-22 16:38:58

ใช้เวลา

0.235493 วินาที