การปฏิบัติตามกฎหมายของธุรกิจสปาเพื่อสุขภาพในกรุงเทพมหานคร

Legal appliance involving health Spa business in Bangkok

Name: ขวัญใจ จิรัฐจินดา

ThaSH: ธุรกิจสปา -- กฎหมายและระเบียบข้อบังคับ

Abstract: การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาเชิงสำรวจมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับและปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการปฏิบัติ ตามกฎหมายของธุรกิจสปาเพื่อสุขภาพ กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้ประกอบการจำนวน 54 คน ผู้ให้บริการในสถานประกอบการสปาเพื่อ สุขภาพจำนวน 254 คน และเจ้าพนักงานสาธารณสุขที่ออกตรวจมาตรฐานจำนวน 4 คน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยวิธีการสัมภาษณ์ ตามแบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบความสัมพันธ์โดยใช้ค่า สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบสเปียร์แมน ผลการวิจัยพบว่า ผู้ประกอบการมีความรู้ในการทำธุรกิจสปาเพื่อสุขภาพ ร้อยละ 94.4 มีการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร ร้อยละ 50.0 อยู่ในระดับสูง และความรู้ในการทำธุรกิจสปาเพื่อสุขภาพมีความสัมพันธ์กับการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างมี นัยสำคัญทางสถิติ (p-value = 0.004) และการรับรู้ข้อมูลข่าวสารมีความสัมพันธ์กับการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างมีนัยสำคัญทาง สถิติ (p-value = 0.007) ผู้ให้บริการในสถานประกอบการสปาเพื่อสุขภาพมีความรู้ด้านการบริการและความปลอดภัยในระดับสูง ร้อยละ 83.9 การรับรู้ข้อมูลข่าวสารในระดับปานกลาง ร้อยละ 35.0 ทักษะการให้บริการในระดับปานกลาง ร้อยละ 55.9 และ ทัศนคติต่อการให้บริการอยู่ในระดับสูง ร้อยละ 58.7 และความรู้ด้านการบริการและความปลอดภัยมีความสัมพันธ์กับการ ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value < 0.001) ทักษะการให้บริการมีความสัมพันธ์กับการปฏิบัติตามกฎหมาย อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value = 0.001) การรับรู้ข้อมูลข่าวสารมีความสัมพันธ์กับการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติ (p-value < 0.001) และทัศนคติต่อการให้บริการมีความสัมพันธ์กับการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value = 0.036) เจ้าพนักงานสาธารณสุขมีความรู้ในการดำเนินงานตามกฎหมายในระดับสูงและปานกลางเท่ากัน ร้อยละ 50.0 และความรู้ในการดำเนินงานตามกฎหมายไม่มีความสัมพันธ์กับการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value = 0.368) และพบว่า จำนวนบุคลากรมีไม่เพียงพอกับปริมาณงานที่เพิ่มขึ้น หน่วยงานได้รับการจัดสรรงบประมาณจากกระทรวง สาธารณสุขอย่างเพียงพอ และวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการปฏิบัติงานมีเพียงพอ จากผลการวิจัยได้เสนอแนะว่า เจ้าพนักงานสาธารณสุขควรมีการประชาสัมพันธ์ความรู้ในการปฏิบัติตาม กฎหมายให้กับผู้ประกอบการและผู้ให้บริการทางสื่อโทรทัศน์ให้มากขึ้น และควรมีการให้เจ้าพนักงานสาธารณสุขศึกษา เพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักกฎหมาย การตีความ การบังคับใช้กฎหมาย และกำหนดหลักปฏิบัติที่ชัดเจนในการปฏิบัติงานของ เจ้าพนักงานทุกคนเพื่อเป็นมาตรฐานเดียวกัน

Abstract: This survey research was aimed to study level and factors correlated to legal compliance involving health spa businesses. The subjects were 54 spa managers, 254 spa therapists and 4 authorized representatives inspecting the standard of spa enterprises. Data was collected through interviews and analysed by using percentages, standard deviation and Spearman rank correlation coefficient to test the hypotheses. The results of the research indicated that 94.4% of the spa managers were competent in the health spa business, and 50% had high level of news and information access. The correlation between knowledge in managing a health spa business and legal compliance was statistically significant (p-value = 0.004) and the correlation between news and information access and legal compliance was statistically significant (p-value = 0.007). Health spa therapists had high levels of knowledge of health spa business (83.9%), a moderate level of news and information access (35.0%), a moderate level of servicing skill (55.9%) and a high level of attitude on servicing (58.7%). The correlation between knowledge in servicing and safety and legal compliance was statistically significant (p-value < 0.001), the correlation between servicing skill and legal compliance was statistically significant (p-value = 0.001), and the correlation between news and information access and legal compliance was statistically significant (p-value = 0.036). Authorized representatives from the Ministry of Public Health had high and moderate levels of knowledge of law involving health spa business (50.0%). There was no correlation between knowledge of law involving health spa businesses and legal compliance (p-value = 0.368). It was also found that the number of personnel did not match the increasing workload; that designated offices received sufficient budget to operate their duties, that equipment and tools; and that inspection was adequate. Consequently, the Ministry of Public Health should provide, information on how to enforce the law relative to health spa businesses. Health officers, themselves, should study more the fundamental principles of law including legal interpretation and enforcement. And the health officers authority and duties should also be clearly and accurately defined by the legal provisions.

มหาวิทยาลัยมหิดล

Address: นครปฐม

Email: liwww@mahidol.ac.th

Name: เชษฐ รัชดาพรรณาธิกุล

Role: ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์

Created: 2550

Modified: 2553-06-18

Issued: 2553-06-17

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: วพ ข259ก 2550

tha

DegreeName: วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: การบริหารกฎหมายการแพทย์และสาธารณสุข

Grantor: มหาวิทยาลัยมหิดล

©copyrights มหาวิทยาลัยมหิดล

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	4837675-scan.pdf	3.32 MB	171	2023-07-17 09:22:34

ใช้เวลา

0.330606 วินาที