Accumulated copper and zinc in lettuce plantation in soil amended with different bottom ash ratios

การสะสมของทองแดงและสังกะสีในผักกาดหอมที่ปลูกในดินผสมด้วยเถ้าหนักลิกไนต์ในอัตราส่วนที่ต่างกัน

Name: Prat Intrarasaksit

LCSH: Copper -- Environmental aspects

LCSH: Lettuce

LCSH: Zinc

Abstract: This study was conducted to determine copper and zinc accumulation in lettuce planted in sida soil amended with lignite bottom ash. The copper and zinc accumulation in sida soil, bottom ash, sida soil added with bottom ash, lettuce root and lettuce leaf were investigated. Nitrogen, phosphorus and potassium in sida soil, in bottom ash and in sida soil added with bottom ash, and the lettuce yield were also investigated. Lettuce seed were cultured and grown in five ratios of sida soil added with bottom ash. Lettuce was planted and grown under laboratory conditions. The collected data were analyzed using one-way ANOVA and the mean comparison was conducted using LSD. Results indicated that mixed sample ratio 0.6:0.4 had the highest copper and zinc accumulation (26.13±2.30 and 137.74±4.13 mg/kg). Copper and zinc accumulation in mixed sample ratio showed significant difference as bottom ash ratio increased (p<0.05). The highest copper and zinc accumulation was found at ratio of 0.6:0.4 in lettuce root (21.46±5.90 mg/kg and 113.47±4.13 mg/kg), followed by lettuce leaf (8.18±1.20 mg/kg and 32.94±7.34 mg/kg). The accumulation in root and leaf of lettuce was significantly different as bottom ash ratio increased (p<0.05). The highest lettuce yield was found at both ratio of 0.8:0.2 and 0.6:0.4 with 1.43±0.06 and 1.43±0.03 gm/plant, respectively. A significant difference in lettuce yield with the increase of bottom ash ratio was observed (p<0.05). The results suggest that lettuce leaf at all ratios are not harmful for consumers. The lettuce leaf at all mixed sample ratios did not exceed the heavy metal contamination according to the Criteria of Food and Drug Administration. However, leachate generated, cultured lettuce in vegetable garden, and use of other crop types still requires additional study for future use.

Abstract: การวิจัยนี้ได้ศึกษาการสะสมของทองแดงและสังกะสีในผักกาดหอมที่ปลูกในดินสีดาที่ได้รับ การผสมด้วยเถ้าหนักลิกไนต์ โดยทำการทดลองหาการสะสมของทองแดงและสังกะสีในดินสีดาใน เถ้าหนักลิกไนต์ในดินสีดาที่ผสมด้วยเถ้าหนักลิกไนต์และในผักกาดหอมที่ปลูกในดินสีดาที่ผสม ด้วยเถ้าหนักลิกไนต์ที่อัตราส่วนต่างๆกันและหาการสะสมของไนโตรเจนฟอสฟอรัส โพแทสเซียม และน้ำหนักของผักกาดหอม การศึกษานี้ดำเนินการภายใต้การทดลองในห้องปฏิบัติการและใช้สถิติ การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียวและ LSD ในการคำนวณ ผลการศึกษาพบว่าในดินผสมด้วยเถ้าหนักที่อัตราส่วน0.6:0.4มีทองแดงและสังกะสีสะสม สูงสุดคือ 26.13±2.30 และ137.74±4.13 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ทองแดงและสังกะสีสะสมในดินที่ ผสมด้วยเถ้ามีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติเมื่ออัตราส่วนของเถ้าเพิ่มขึ้น(p<0.05) ทองแดง และสังกะสีที่รากและใบนั้นมีการสะสมสูงสุดที่อัตราส่วน0.6:0.4ที่รากพบทองแดงและสังกะสี 21.46±5.90และ113.47±4.13มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมที่ใบพบทองแดงและสังกะสี8.18±1.20และ 32.94±7.34มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ปริมาณทองแดงและสังกะสีที่สะสมในรากและใบของผักกาดหอม มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติเมื่ออัตราส่วนของเถ้าเพิ่มขึ้น(p<0.05) ผักกาดหอม มี น้ำหนักสูงที่สุดที่2อัตราส่วน คือ0.8:0.2 และ 0.6:0.4มีน้ำหนัก 1.43±0.06และ1.43±0.03กรัมต่อต้น น้ำหนักของผักกาดหอมมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติเมื่ออัตราส่วนของเถ้าเพิ่มขึ้น (p<0.05) ใบผักกาดหอมที่ปลูกจากทุกอัตราส่วนนำมารับประทานได้ไม่เป็นอันตรายเพราะว่าปริมาณ ทองแดงและสังกะสีนั้นมีค่าไม่เกินมาตรฐานตามประกาศของคณะกรรมการอาหารและยาใน การศึกษาครั้งต่อไปควรศึกษาเกี่ยวกับน้ำที่เกิดขึ้นหลังจากการรดน้ำและนำผักกาดหอมไปปลูกใน แปลงผักในสภาวะแวดล้อมจริงและควรใช้ผักชนิดอื่นมาทำการทดลองในครั้งต่อไป

Mahidol University

Address: NAKHONPATHOM

Email: liwww@mahidol.ac.th

Name: Suthep Silapanuntakul

Role: Thesis Advisors

Created: 2008

Modified: 2025-03-03

Issued: 2553-06-17

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: TH P912a 2008

eng

DegreeName: Master of Science

Level: Master's Degree

Descipline: Environmental Sanitation

Grantor: Mahidol University

©copyrights Mahidol University

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	4836549.pdf	1.71 MB	33	2024-08-09 13:53:11

ใช้เวลา

-0.661591 วินาที