A study of the parenting related to game addiction

ความสัมพันธ์ระหว่างการอบรมเลี้ยงดูของครอบครัวกับการติดเกม

Name: Thitipong Anuthaworn

LCSH: Computer games -- Social aspects

LCSH: Computer games -- Thailand

LCSH: Parenting

Abstract: This study aims to study the level of game addiction and the relationship between parenting styles and game addiction of level six primary school students in Bangkok. It is done by gathering information from a questionnaire given to a sample of 665 students aged from 10-13 years old in Bangkok. The data is then analyzed in terms of frequency, percentage, mean, standard deviation, and Chi-square value. The results illustrate that the students have a low level of game addiction. There is a relationship between parenting styles and game addiction at a 0.01 level of significance. Students who are brought up in both democratic and authoritarian parenting have low levels of game addiction, at 79.6 percent and 59.6 percent respectively. Those who are raised up with permissive parenting have a moderate level of game addiction at 50 percent. There is a high level of game addiction for neglected parenting, at 50 percent also. Lastly, the researcher suggests family should pay attention to the importance of parenting style and the relationship within family members to avoid inappropriate behavior of children especially game addiction, which can be found at a high level in Thai society.

Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาระดับการติดเกมและความสัมพันธ์ระหว่าง รูปแบบการอบรมเลี้ยงดูของครอบครัวกับการติดเกมของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ดำเนินการ วิจัยโดยวิธีวิจัยเชิงสำรวจ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามกับกลุ่มตัวอย่างที่เป็นนักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 6 ในกรุงเทพมหานคร จำนวนทั้งสิ้น 665 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าไคสแควร์ (Chi-Square) ผลการศึกษาพบว่า นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในกรุงเทพมหานคร มีการติดเกมโดย รวมอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งจากการวิเคราะห์พบว่า รูปแบบการอบรมเลี้ยงดูของครอบครัวมี ความสัมพันธ์กับการติดเกมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 โดยนักเรียนที่ได้รับการอบรม เลี้ยงดูแบบประชาธิปไตยและแบบใช้อำนาจควบคุมมีการติดเกมอยู่ในระดับต่ำ คิดเป็นร้อยละ 79.6 และ 59.6 ตามลำดับ ส่วนนักเรียนที่ได้รับการอบรมเลี้ยงดูแบบตามใจมีการติดเกมอยู่ในระดับปาน กลาง คิดเป็นร้อยละ 50.0 และนักเรียนที่ได้รับการอบรมเลี้ยงดูแบบปล่อยปละละเลยมีการติดเกม อยู่ในระดับสูง คิดเป็นร้อยละ 50.0 ข้อเสนอแนะจากการวิจัยครั้งนี้ ครอบครัวควรให้ความสำคัญในการอบรมเลี้ยงดูที่ ถูกต้องเหมาะสม ให้ความสำคัญของการสร้างความสัมพันธภาพภายในครอบครัว เพื่อป้องกันการมี พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของเด็กและเยาวชน โดยเฉพาะการติดเกมของเด็ก ซึ่งยังพบปัญหาอยู่ใน สังคมไทย

Mahidol University

Address: NAKHONPATHOM

Email: liwww@mahidol.ac.th

Name: Chet Ratchadapunnathikul

Role: Thesis Advisors

Created: 2008

Modified: 2553-06-21

Issued: 2010-06-16

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: TH T442s 2008

eng

Spatial: Thailand

DegreeName: Master of Arts

Level: Master's Degree

Descipline: Addictionology

Grantor: Mahidol University

©copyrights Mahidol University

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	4837817.pdf	2.7 MB	220	2024-11-19 14:01:17

ใช้เวลา

-0.734654 วินาที