The factors affecting values , attitudes and participation of adolescents in non-smoking campaigns

ปัจจัยที่มีผลต่อค่านิยม ทัศนคติ และการมีส่วนร่วมของวัยรุ่นในการรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่

Name: Gatesuda Homsuwan

LCSH: Smoking -- Adolescent -- prevention & control

LCSH: Smoking -- Adolescent -- Thailand

LCSH: Smoking -- Thailand -- Prevention

Abstract: This study is a survey research to study the factors affecting values, attitudes, and participation in non-smoking campaigns among adolescents. The sample group consisted of 400 adolescents aged between 18 and 25 years, who resided in Bangkok metropolitan area. Data were collected by questionnaires. The data obtained were statistically analyzed by SPSS program. T-test, Chi-Square test and One-Way ANOVA were the tools used. The study found that smoking among adolescents is 14.3 percent, with a 13 times higher rate in males than females. The age of starting smoking was in the 14-23 range. In addition, over 50% of adolescents who have people close to them such as family and friends who smoke also smoke. This means that the close friend or relative’s smoking is an essential factor in their taking up smoking. While media campaigns and legal controls on cigarette smoking influence attitudes and values toward non-smoking among this target group at the medium level, the most influential media is television. Factors of age, friends and relatives and their smoking behavior, perception, attitudes and values, all affect participation in the campaign at the medium level. The most participated-in activities are exhibitions on tobacco and health, and walking rallies, respectively. The suggestion from this research is that a national agenda and policy regarding the tobacco control campaign is needed, and regulations on cigarette as an addictive drug have to be considered. Tobacco should be controlled and subjugated the same as alcohol, retail outlets, should be controlled smoking-free places in creased and also chemical substances in cigarette should be declared to the public.

Abstract: การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อค่านิยม ทัศนคติ และ การมีส่วนร่วมในการรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ของวัยรุ่น กลุ่มตัวอย่างเป็นวัยรุ่นอายุ 18-25 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานคร จำนวน 400 คน เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้ สถิติทดสอบ t-test สถิติทดสอบไคสแควร์ (Chi-Square) และการวิเคราะห์ความ แปรปรวนแบบทางเดียว (One-Way ANOVA) ผลการศึกษาพบว่าวัยรุ่นมีการสูบบุหรี่ถึงร้อยละ 14.3 โดยเพศชายสูบมากกว่าเพศหญิง 13 เท่า ส่วนอายุที่เริ่มสูบมีตั้งแต่ 14-23 ปี นอกจากนี้ยังพบว่าวัยรุ่นมีบุคคลใกล้ชิด ได้แก่ บุคคล ในครอบครัวและเพื่อน ที่สูบบุหรี่มากถึงร้อยละ 50 ขึ้นไป นั่นหมายความว่าปัจจัยด้านการสูบ บุหรี่ของบุคคลใกล้ชิดมีส่วนสำคัญทำให้เยาวชนมีโอกาสเสพติดบุหรี่สูง ส่วนปัจจัยการรับรู้การ รณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ด้านการโฆษณาจากสื่อต่างๆ และกฎหมายเกี่ยวกับบุหรี่ส่งผลทำให้ วัยรุ่นมีค่านิยมและทัศนคติต่อการไม่สูบบุหรี่อยู่ในระดับปานกลาง โดยสื่อที่มีอิทธิพลมากที่สุด คือ โทรทัศน์ ส่วนปัจจัยด้านอายุ การสูบบุหรี่ของวัยรุ่นและบุคคลใกล้ชิด การรับรู้ และค่านิยม ทัศนคติ ส่งผลทำให้วัยรุ่นมีส่วนร่วมในการรณรงค์อยู่ในระดับปานกลาง โดยกิจกรรมที่เข้ามีส่วน ร่วมมากที่สุดคือ การจัดนิทรรศการต้านภัยบุหรี่และการเดินวิ่งรณรงค์ ตามลำดับ ข้อเสนอแนะจากการวิจัยครั้งนี้ ควรกำหนดนโยบายวาระแห่งชาติว่าด้วยการรณรงค์ เรื่องพิษภัยบุหรี่ และกำหนดกฎหมายว่าบุหรี่เป็นสิ่งเสพติด มีมาตรการควบคุมและปราบปราม เช่นเดียวกับสุรา ควบคุมจุดขายปลีก เพิ่มสถานที่ห้ามสูบ และเปิดเผยสารเคมีที่ใช้ผลิตบุหรี่ต่อ สาธารณชน

Mahidol University

Address: NAKHON PATHOM

Email: liwww@mahidol.ac.th

Name: Tongtavuch Anukarahanonta

Role: Thesis Advisors

Created: 2007

Modified: 2553-06-22

Issued: 2010-06-08

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: TH G259f 2007

eng

DegreeName: Master of Arts

Level: Master's Degree

Descipline: Addictionology

Grantor: Mahidol University

©copyrights Mahidol University

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	4738045.pdf	1007.18 KB	228	2025-10-09 10:10:00

ใช้เวลา

0.348988 วินาที