Assessing the reliability of film and semiconductor detector in measurement of central axis depth dose of electron beams

การประเมินค่าความน่าเชื่อถือของฟิล์มและเซมิคอนดัคเตอร์ในการวัดค่าปริมาณรังสีสัมพันธ์ที่ระดับความลึกต่าง ๆ ตามแนวแกนกลางลำรังสีอิเล็กตรอน

Name: Daranee Piriyasang

LCSH: Film Dosimetry

LCSH: Photographic dosimetry

LCSH: Radiotherapy

MeSH: Electrons -- therapeutic use

MeSH: Radiometry

Abstract: A small volume ionization chamber and a diode detector are normally used to measure relative depth dose of an electron beam in a water phantom. Film is an alternative method for determining the relative depth dose with the advantages of high resolution and short beam time. The purpose of this study was to investigate the possibility of using the Kodak X-Omat V film for the central axis depth-dose measurements of electron beams with acceptable accuracy by comparing with an RK ionization chamber and a Scanditronix electron diode. Ionization chamber and diode measurements were obtained with the RFA-300 system in a water phantom. The film measurements were made in a MED-TEC film phantom cassette with parallel orientation irradiation. Data were obtained with the electron energies between 6 and 20 MeV and field sizes from 6 x 6 cm2 to 20 x 20 cm2. The comparison of the central axis depth dose parameters, R100, R90, R50, and RP measured by the film and diode with the respect to the IC’s values showed that the difference did not indicate the dependence either on the energy or cone size. In the buildup region, the film presented higher percent depth dose values for most energies and cone sizes but beyond the depth of maximum dose (R100), the results were opposite. The difference of every parameter for both film and diode was within the acceptable value of ±2 mm. Overall, the ionization chamber and diode measurements appear to be more reliable than the film measurements, but film is particularly useful for new electron cutout data where access to accelerator beam time is limited.

Abstract: การวัดค่าปริมาณรังสีสัมพัทธ์ที่ระดับความลึกต่าง ๆ ตามแนวแกนกลางลำรังสีอิเล็กตรอน โดยปกติจะทำการวัดในน้ำ ด้วยหัววัดรังสี ionization chamber ขนาดเล็กหรือไดโอด ซึ่งจะมีความถูกต้องแต่ใช้เวลาในการวัดนานกว่าฟิล์ม ซึ่งมีข้อดี คือ ให้ความละเอียด บอกตำแหน่งที่วัดแน่นอน และใช้เวลาน้อย จึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่จะนำมาใช้ วัตถุประสงค์ของการวิจัยนี้ เพื่อศึกษาการวัดค่าปริมาณรังสีสัมพันธ์ที่ระดับความลึกต่าง ๆ ตามแนวแกนกลางลำรังสีอิเล็กตรอน ด้วยฟิล์ม Kodak X-Omat V ร่วมกับ MEC-TEC phantom cassette โดยทำการฉายรังสีในทิศทางที่ขนานกับแนวแกนลำรังสีอิเล็กตรอนนั้นจะมีความถูกต้องอยู่ในช่วงที่ยอมรับได้หรือไม่ เมื่อทำการเปรียบเทียบกับการวัดโดยใช้หัววัดรังสี RK ionization chamber และไดโอด ซึ่งทำการวัดในน้ำด้วยเครื่อง RFA-300 scanning system สำหรับลำรังสีอิเล็กตรอน ที่พลังงานระหว่าง 6 ถึง 20 MeV และ โคนมาตรฐานขนาด 6 x 6 cm2 ถึง 20 x 20 cm2 จากผลการศึกษาการเปรียบเทียบค่าพารามิเตอร์ (R100,R90, R50 และ Rp) ที่ได้จากค่าปริมาณรังสีสัมพันธ์ที่ระดับความลึกต่าง ๆ ตามแนวแกนกลางลำรังสีอิเล็กตรอนของฟิล์มและไดโอด เปรียบเทียบกับการวัดโดย ionization chamber แสดงให้เห็นว่าความแตกต่างนั้น ไม่ขึ้นกับค่าของพลังงาน และขนาดของโคนที่ใช้ เมื่อพิจารณาในบริเวณ buildup ผลที่ได้จากการวัดด้วยฟิล์มนั้น มีค่าเปอร์เซ็นต์ของปริมาณรังสีตามระดับความลึกสูงกว่าผลจากการวัดด้วย ionization chamber และได้โอด ในเกือบทุกค่าพลังงาน และทุกขนาดของโคน แต่บริเวณหลังจากระดับความลึกที่มีค่าปริมาณรังสีสูงที่สุด (dmax) ผลที่ได้กับมีค่าตรงข้าม โดยสรุปแล้ว ค่าความแตกต่างที่เกิดขึ้นของทุกค่าพารามิเตอร์ที่ได้จากการวัดโดยฟิล์ม กับไดโอด มีค่าความแตกต่างจากการวัดด้วย ionization chamber อยู่ในค่าที่ยอมรับได้ คือ ± 2 มิลลิเมตร ถึงแม้ว่าโดยเฉลี่ยการวัดด้วยไดโอดจะมีความน่าเชื่อถือมากกว่าการวัดด้วยฟิล์มเมื่อเปรียบเทียบกับ ionization chamber แต่อย่างไรก็ตาม การวัดโดยการใช้ฟิล์มก็มีข้อดี คือใช้เวลาน้อย ในกรณีที่ต้องทำ cutout เพื่อฉายรังสีบริเวณที่มีขนาด และรูปร่างต่างจากโคนมาตรฐาน ซึ่งจำเป็นต้องทำการวัดเพื่อวางแผนการรักษาผู้ป่วย และเครื่องฉายแสงถูกจำกัดด้วยเวลาจากการฉายรังสีผู้ป่วย

Mahidol University

Address: NAKHON PATHOM

Email: liwww@mahidol.ac.th

Name: Chirapha Tannanonta

Role: Thesis Advisors

Created: 2006

Modified: 2553-06-24

Issued: 2010-06-06

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

ISBN: 9740478808

CallNumber: TH D213a 2006

eng

DegreeName: Master of Science

Level: Master's Degree

Descipline: Medical Physics

Grantor: Mahidol University

©copyrights Mahidol University

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	4637063.pdf	1.99 MB	10	2021-08-16 15:15:30

ใช้เวลา

0.318963 วินาที