Factors related to dietary supplement consumption among middle-aged people in Bangkok

ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการบริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของวัยกลางคนในกรุงเทพมหานคร

Name: Supawan Wongteerasuppaya

LCSH: Consumer behavior -- Thailand

MeSH: Dietary Supplements

Abstract: This study was to investigate factors related to dietary supplement consumption among 400 middle – aged people in Bangkok who consumed dietary supplements of some kind. Interview by a questionnaire was used in data collection. The Chi-square by statistical significance at 0.05 levels was used to find relationship between different factors. The contingency coefficient was used in testing their relationship. Results were that demographic variables had no significant relationship with dietary supplement consumption. Factors of self-health perception and perceived health, i.e. perceived susceptibility, perceived seriousness, and perceived benefits had significant relationship with dietary supplement consumption while perceived self-efficacy had no significant relationship with dietary supplement consumption . It was found that most middle-aged people taking dietary supplements in this investigation were healthy and had perceived self-efficacy to practice activities in promoting health at good level. The top three health problems were aggregated fat and obesity, high blood pressure, and high cholesterol respectively. It was found that the sample consumed 3 dietary supplement products on average and at the most 6 products. The majority of the sample regularly took them and the top three popular products were products for supplementing vitamins and minerals, followed by products for supplementing food stuffs or for strengthening the body and the products for preventing cholesterol. The most vital factor factors of the cue to action were the salespersons or the direct sales, followed by advertisements in different media. These results showed that there are many middle-aged people taking dietary supplements and likely to be over consuming them, which might lead to side- effects and entail health problems in the long term. So, awareness of good health practices that do not involve dietary supplements should be enhanced and encouragement of confident in people to follow activities promoting personal hygiene is indispensable to nurture health and encouraging peoples self-confidence on health. This also included health checking, counseling and publicizing knowledge of dietary supplement information which is non profit – driven and organized by government agencies to providing adequate information about benefits and side-effects for their decision-making under health necessities of each individual

Abstract: การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการบริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ของวัยกลางคนในกรุงเทพมหานคร กลุ่มตัวอย่าง เป็นวัยกลางคนในกรุงเทพมหานครผู้บริโภคผลิตภัณฑ์เสริม อาหาร อย่างน้อย 1 ชนิด จำนวน 400 คน เก็บข้อมูลโดยการสัมภาษณ์โดยใช้แบบสอบถาม วิเคราะห์เพื่อหา ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยโดย ใช้สถิติ ไค–สแควร์ กำหนดความมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ ทดสอบระดับความสัมพันธ์ด้วยค่าสัมประสิทธิ์ความมีเงื่อนไข (Contingency Coefficient) ผลการศึกษาพบว่า ปัจจัยด้านคุณลักษณะทางประชากร ไม่มีความสัมพันธ์กับการบริโภคผลิตภัณฑ์ เสริมอาหาร อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ปัจจัยการรับรู้สุขภาพของตนเอง และปัจจัยการรับรู้ด้านสุขภาพ ได้แก่ การรับรู้โอกาสเสี่ยงของตนเองต่อการเกิดปัญหาสุขภาพ การรับรู้ความรุนแรงของปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้น และการรับรู้ประโยชน์หรือผลที่อาจได้รับจากการบริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรม การบริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ส่วนการรับรู้ความสามารถของตนเองในการ ปฏิบัติกิจกรรมเพื่อการส่งเสริมสุขภาพ ไม่มีความสัมพันธ์ กับพฤติกรรมการบริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอย่าง มีนัยสำคัญทางสถิติ จากการศึกษาพบว่า วัยกลางคนผู้ซึ่งบริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ศึกษาในครั้งนี้ ส่วนใหญ่มี สุขภาพดี มีการรับรู้ความสามารถตนเองในการปฏิบัติกิจกรรมเพื่อการส่งเสริมสุขภาพในระดับดี ปัญหา สุขภาพที่ประชากรรับรู้โอกาสเสี่ยงสูงสุด 3 ลำดับ ได้แก่ ปัญหาอ้วนหรือมีไขมันสะสม ปัญหาความดันโลหิต สูง และปัญหาไขมันในเลือดสูง ตามลำดับ พบว่าประชากรมีการบริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหารโดยเฉลี่ยต่อ คน 3 ผลิตภัณฑ์ และบริโภคสูงสุด 6 ผลิตภัณฑ์ ส่วนใหญ่มีลักษณะการบริโภคเป็นประจำ ผลิตภัณฑ์เสริม อาหารประเภทที่มีการบริโภคมากที่สุด 3 ลำดับ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เพื่อเสริมวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ รองลงมา ผลิตภัณฑ์เพื่อเสริมสารอาหารต่างๆ หรือเพื่อบำรุงร่างกายให้แข็งแรง และผลิตภัณฑ์เพื่อป้องกันไขมันอุดตันใน หลอดเลือด ส่วนปัจจัยชักนำสำคัญที่สุดที่ช่วยในการตัดสินใจ ได้แก่ พนักงานขาย หรือผู้จำหน่ายตรง รองลงมาเป็นโฆษณาของผลิตภัณฑ์ตามสื่อต่างๆ ผลการศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่า วัยกลางคนมีการบริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจำนวนมากและ หลากหลายชนิด จึงอาจมีการบริโภคมากเกินความจำเป็นของร่างกาย และอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียง และเกิด ปัญหาสุขภาพตามมาในระยะยาว ดังนั้น จึงควรส่งเสริมให้ประชากรมีความตระหนักถึงความสำคัญของการมี สุขภาพดีโดยไม่ต้องพึ่งพาผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ส่งเสริมให้ประชากรมีความมั่นใจว่า การปฏิบัติพฤติกรรม ส่งเสริมสุขภาพตามหลักสุขวิทยาส่วนบุคคลเป็นสิ่งจำเป็นซึ่งจะช่วยให้บุคคลมีสุขภาพดี และส่งเสริมให้ ประชากรมีความมั่นใจในสุขภาพของตนเอง โดยจัดให้มีบริการตรวจสุขภาพ บริการให้คำปรึกษาทางด้าน สุขภาพ และมีการเผยแพร่ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารโดยองค์กรของรัฐที่ไม่มีผลประโยชน์ แอบแฝงทางธุรกิจ รวมทั้งมีการให้ข้อมูลอย่างเพียงพอทั้งในแง่ประโยชน์และผลข้างเคียง เพื่อให้ผู้บริโภคมี โอกาสตัดสินใจ ภายใต้ความจำเป็นทางด้านสุขภาพของแต่ละบุคคล

Mahidol University

Address: NAKHON PATHOM

Email: liwww@mahidol.ac.th

Name: Oratai Rauyajin

Role: Thesis Advisors

Created: 2006

Modified: 2553-06-24

Issued: 2010-06-05

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

ISBN: 9740476457

CallNumber: TH S959fc 2006

eng

DegreeName: Master of Arts

Level: Master's Degree

Descipline: Medical and Health Social Sciences

Grantor: Mahidol University

©copyrights Mahidol University

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	4437077.pdf	891.02 KB	121	2023-07-06 21:10:02

ใช้เวลา

0.382202 วินาที