The relationship among caregiving burden, coping resources and quality of life of dependent older adults' caregivers

ความสัมพันธ์ระหว่างภาวะในการดูแลแหล่งเผชิญความเครียดและคุณภาพชีวิตของญาติผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ต้องพึ่งพา

Name: Boonrod Donprapeng

LCSH: Frail elderly -- Care

LCSH: Older people -- Care

MeSH: Caregivers

Othors: Frail Elderly

Abstract: The objective for this study was to evaluate perceptions of caregivers of dependent elderly related to caregivers’ burden, coping resources, and quality of life, and to study the relationship of each variable. The participants in this study were 120 older adult caregivers who lived in the municipal area in Nakhon Phanom province. The measurements used in the study were demographic data, coping resources, caregiver burden, social support, and quality of life questionnaire. The data were evaluated by the SPSS program and used statistical analysis of Pearson’s Moment Correlation and Spearman’s Rank Correlation. The results were that most of the older adults’ caregivers were women (84%) and their relationship with the elderly was son and daughter. The ages of the older adults’ caregivers were between 20 to 80 years old and the mean age was 56 years old (SD = 10.70). Most of them were married (60%) with an elementary education level (36%). Their average income was 5, 974 baht per month (SD = 5287). The length of their care was about 2 months to 108 months with a average of 23.55 month (SD =21.24). About 73 percent of the older adults’ caregivers gave the reason for their care that it was their responsibility. Their perception of caregiver burdens was in moderate level (Mean = 37.51 , SD = 8.02). They perceived that more of the social support they received was from families than from friends and healthcare providers (Mean = 18.65, SD = 2.97; M = 16.36, SD = 3.56; M = 14.5, SD = 3.98 respectively). The caregivers perceived that their quality of life was in moderate level (Mean = 19.06, SD = 2.5). A hypothesis about factors related to quality of life was tested and it was found that caregiver burden had a significant negative correlation with quality of life (r = -.22, p<.05) and social support had a significant positive correlation with quality of life (r = .38, p<.001.) The study results showed that caregivers’ burdens and social support had a relationship with quality of life of the dependent older adults’ caregivers. Thus nurses should encourage caregivers to use appropriate social support, especially from their family members and to release caregiver’s burden by management to reduce care difficulties and to appropriately responsed to the dependent older adults.

Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจการรับรู้ของญาติผู้ดูแลผู้สูงอายุที่พึ่งพาผู้เกี่ยวข้องกับภาระ ในการดูแล แหล่งประโยชน์สำหรับการเผชิญความเครียด และคุณภาพชีวิตของญาติผู้ดูแล รวมทั้งศึกษา ความสัมพันธ์ของปัจจัยดังกล่าว กลุ่มตัวอย่างเป็นญาติผู้ดูแลผู้สูงอายุที่พึ่งพาผู้อาศัยอยู่ในเขตเทศบาลเมือง นครพนม จำนวน 120 คน โดยใช้เครื่องมือวัดส่วนบุคล วัดภาระในการดูแล วัดแรงสนับสนุนทางสังคม และแบบวัดคุณภาพชีวิต และวิเคราะห์ข้อมูลลงในโปรแกรม SPSS โดยใช้สถิติ Pearson’s Product Moment Correlation และ Spearman Rank Correlation ผลการวิจัยพบว่า ญาติผู้ดูแลส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงร้อยละ 84 และเป็นบุตรของผู้สูงอายุ อายุ ระหว่าง 20-80 ปี ส่วนใหญ่เป็นผู้ใหญ่วัยกลางคนร้อยละ 56 สถานภาพสมรสคู่ร้อยละ 60 จบการศึกษาชั้น ประถมศึกษาร้อยละ 36 มีรายได้เฉลี่ย 5,974 บาทต่อเดือน (SD = 5287) ระยะเวลาในการดูแลมีตั้งแต่ 2 เดือน ถึง 108 เดือน เฉลี่ย 23.55 เดือน (SD = 21.24) ร้อยละ 73 ของญาติผู้ดูแลให้เหตุผลที่รับเป็นผู้ดูแลคือ เป็นหน้าที่ที่ต้องดูแล การรับรู้ภาระในการดูแล พบว่าอยู่ในระดับปานกลาง (M = 37.51, SD = 8.02) ผู้ดูแล รับรู้ว่าตนเองได้รับแรงสนับสนุนทางสังคม จากครอบครัวมากกว่าจากเพื่อน และจากทีมสุขภาพ (M = 18.65, SD = 2.97; M = 16.36, SD = 3.56; M = 14.5 SD = 3.98 ตามสังคม) ผู้ดูแลประเมินว่าคุณภาพชีวิต ของตนอยู่ในระดับปานกลาง (M = 19.06, DS = 2.5) การทดสอบสมติฐานเกี่ยวกับปัจจัยที่สัมพันธ์กับคุณภาพชีวิต พบว่า ภาระในการดูแลมี ความสัมพันธ์ทางลบกับคุณภาพชีวิต (r = -.22, p < .05) และแรงสนับสนุนทางสังคมมีความสัมพันธ์ ทางบวกกับคุณภาพชีวิต (r = .38, p < .001) ผลการวิจัยครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า ภาระในการดูแลและแรงสนับสนุนทางสังคมมีความเกี่ยวข้อง กับคุณภาพชีวิตของผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ต้องพึ่งพา ดังนั้นพยาบาลส่งเสริมให้ผู้ดูแลได้ใช้แรงสนับสนุนทาง สังคมที่เหมาะสม โดยเฉพาะจากคนในครอบครัว และลดภาระการดูแลโดยช่วยจัดการเพื่อลดความยุ่งยาก ในการดูแลและตอบสนองความต้องการของผู้สูงอายุที่พึ่งพาอย่างเหมาะสม

Mahidol University

Address: NAKHON PATHOM

Email: liwww@mahidol.ac.th

Name: Orasa Panpakdee

Role: Thesis Advisors

Created: 2006

Modified: 2553-06-16

Issued: 2010-06-04

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

ISBN: 9740475108

CallNumber: TH B724r 2006

eng

DegreeName: Master of Nursing Science

Level: Master's Degree

Descipline: Adult Nursing

Grantor: Mahidol University

©copyrights Mahidol University

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	4436624.pdf	676.71 KB	330	2024-11-04 20:40:14

ใช้เวลา

-0.696896 วินาที