Frontal symmetrical facial esthetic perception and treatment decisions : the differences among dental professionals, orthodontic patients and laypeople

การรับรู้ต่อความสวยงามในแง่ของความสมมาตรของใบหน้าด้านตรงและการตัดสินใจในการรักษา : ความแตกต่างในกลุ่มวิชาชีพทันตแพทย์, คนไข้จัดฟัน และคนทั่วไป

Name: Pusadee Sagunteo

LCSH: Symmetry

MeSH: Apraxias

MeSH: Perception

Abstract: Frontal facial symmetry is the major component of facial esthetics. However, comparative study on perceptions with regard to treatment decisions of various groups involved on this issue has been lacking. This study aims to compare perception and treatment decisions of orthodontists, orthodontic students, oral surgery students, orthodontic patients and laypeople on frontal symmetrical facial esthetics. One hundred and twelve dental professionals (40 orthodontists, 40 orthodontic students, 32 oral surgery students), 40 orthodontic patients and 40 laypeople were recruited. A frontal facial photograph of a Thai female subject was modified to achieve the highest degree of symmetry. The freeware WinMorph 3.01 was then used to distort the lower one-third of face to produce a series of images, of which the chin points were moved away from the facial midline leftwards and rightwards at intervals of 0 mm, 2 mm, 4 mm, 6 mm, 8 mm, and 10 mm. The assessors were asked to score each image for symmetry, using a modified 6-point Likert’s Scale (0-not deviated, 1- least deviated, 2-less deviated, 3-average, 4-more deviated, and 5-most deviated), and evaluate the treatment necessity of each images ‘Less deviated’ was found to be the most reliable point of differentiation among assessor groups and was used as the point of reference. The orthodontists were the most sensitive in detecting deviation, followed by orthodontic students, laypeople, orthodontic patients, and oral surgery students. The mean distances in differentiating right-deviated pictures were 4.05, 4.40, 5.42, 5.78, 6.00 and in left-deviated pictures they were 3.60, 4.15, 5.00, 5.19, and 5.93 respectively. Using the Analysis of Variance, it was revealed that there was no significant difference of treatment decisions among the groups of assessors. The mean distance indicating need for treatment was 7.39 mm and 6.92 mm for right and left deviated pictures, respectively. There were some differences in degree of sensitivity which related to professional factors that affect the ‘acceptable range of deviation’ among groups of assessors. However, it did not seem to affect treatment decisions which were similar in all groups of assessors

Abstract: แม้ความสมมาตรของใบหน้าด้านตรงจะถือเป็นหนึ่งในองค์ประกอบหลักของความ สวยงามบนใบหน้า แต่ปัจจุบันยังไม่มีการศึกษาเปรียบเทียบการรับรู้จากผู้ที่เกี่ยวข้องกับ กระบวนการรักษาเพื่อแก้ไขความผิดปกติในเรื่องดังกล่าว การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ เปรียบเทียบการรับรู้และการตัดสินใจในการรักษาความไม่สมมาตรของใบหน้าด้านตรง ในกลุ่มตัวอย่างคือทันตแพทย์จัดฟัน 40 คน นักศึกษาหลังปริญญาจัดฟัน 40 คน นักศึกษาหลังปริญญาศัลยศาสตร์ช่องปาก 32 คน คนไข้จัดฟัน 40 คน และคนทั่วไป 40 คน รูปภาพใบหน้าของหญิงไทยซึ่งได้รับการปรับด้วยคอมพิวเตอร์ให้มีใบหน้าสมมาตรที่สุด จากนั้น ใช้โปรแกรมวินมอร์บ 3.01 สร้างภาพ 2 ชุดที่มีการเปลี่ยนแปลงใบหน้าส่วนล่างโดยการเคลื่อน คางออกจากกึ่งกลางใบหน้าไปทางซ้ายและขวาด้วยระยะทาง 0, 2, 4, 6, 8, และ 10 มม. แล้วให้ คะแนนความบิดเบี้ยวโดยใช้สเกลของไลเคิร์ทที่ได้รับการโมดิฟรายแล้วโดย 0-ไม่เบี้ยว 1-เบี้ยว น้อยที่สุด 2-เบี้ยวน้อย 3-เบี้ยวปานกลาง 4-เบี้ยวมาก และ 5-เบี้ยวมากที่สุด รวมทั้งความจำเป็นใน การรักษา ผลการศึกษาพบว่า เมื่อใช้ภาพที่ “เบี้ยวน้อย” เพื่อตัดสินว่าผู้ประเมินเริ่มเห็นความเบี้ยว พบว่าทันตแพทย์จัดฟันมองเห็นความเบี้ยวได้เร็วที่สุด ตามด้วยนักศึกษาหลังปริญญาจัดฟัน คน ทั่วไป คนไข้จัดฟัน และนักศึกษาหลังปริญญาศัลยศาสตร์ช่องปาก โดยค่าเฉลี่ยระยะทางเมื่อเบี้ยว ไปทางขวา คือ 4.05, 4.40, 5.42, 5.78 และ 6.00 มม. เบี้ยวไปทางซ้ายคือ 3.60, 4.15, 5.00, 5.19 และ 5.93 มม. ตามลำดับ แต่พบว่าไม่มีความแตกต่างทางสถิติในด้านความจำเป็นในการ รักษา โดยระยะทางเฉลี่ยที่ทุกกลุ่มเห็นว่าควรได้รับการรักษาเมื่อเบี้ยวขวาและซ้ายคือ 7.39 มม. และ 6.92 มม. ตามลำดับ สรุปได้ว่า วิชาชีพทันตแพทย์เฉพาะทางเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อระดับความไวในการรับรู้ ความเบี้ยวของใบหน้าส่วนล่าง โดยทุกกลุ่มมีความเห็นเรื่องความจำเป็นในการรักษาสอดคล้องกัน

Mahidol University

Address: NAKHON PATHOM

Email: liwww@mahidol.ac.th

Name: Porntip Verayangkura

Role: Thesis Advisors

Created: 2006

Modified: 2553-06-26

Issued: 2010-06-02

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

ISBN: 9740470971

CallNumber: TH P987f 2006

eng

DegreeName: Master of Science

Level: Master's Degree

Descipline: Orthodontics

Grantor: Mahidol University

©copyrights Mahidol University

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	4736026.pdf	1.82 MB	25	2018-06-14 20:57:01

ใช้เวลา

0.279831 วินาที