Effects of supportive-educative nursing system on dependent care behaviors and the occurrence of complications among children with long-term tunneled catheler

ผลของการพยาบาลระบบสนับสนุนและให้ความรู้ต่อพฤติกรรมการดูแลของผู้ดูแลเด็กและการเกิดภาวะแทรกซ้อนในเด็กที่ใส่สายสวนหลอดเลือดดำส่วนกลางที่ใช้ระยะยาว

Name: Somtawin Sirireung

LCSH: Supportive Psychotherapy

MeSH: Veins -- complication

MeSH: Behavior

Abstract: The purpose of this quasi-experimental research was to find out the effect of a supportive-educative nursing system on dependent care behaviors and the occurrence of complications among children with long-term tunneled catheter. The conceptual framework of this study is based on Orem’s Nursing Theory. Total samples were 30 caregivers of children with long-term tunneled catheter by using purposive sampling at Ramathibodi Hospital from May 2003 to May 2004. These caregivers were responsible for changing the catheter exit site dressing when the children were at home. They were divided equally into a control group and an experimental group. They were primary caregivers, had no prior experience in catheter care, were willing to participate in the study and signed an informed consent, and were able to read and write Thai. The patients were children of varying age, who were having their first catheter insertion. Both groups obtained conventional nursing care. The experimental group was given extra supportive-educative nursing system and a handbook. Three questionnaires on demographic data, caregiving behaviors, and complication occurrence were applied to collect data at two weeks post discharge. All data were analyzed by SPSS/FW program. The results revealed that the score of caregiving behaviors at two weeks post discharge in the experimental group was significantly higher than in the control group (p< .001). The occurrence of complications at two weeks was an early sign of exit site infection in children whose caregivers were in the control group was significantly higher than in the experimental group (p< .007). No occurrence of partial occlusion and catheter displacement occurred in either groups. The supportive-educative nursing system for encouraging catheter caregiving behavior is effective and tends to reduce catheter related complications. Therefore, its use is recommended.

Abstract: การวิจัยกึ่งทดลองครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการพยาบาลระบบสนับสนุนและให้ความรู้ต่อ พฤติกรรมการดูแลของผู้ดูแลเด็กและการเกิดภาวะแทรกซ้อนในเด็กที่ใส่สายสวนหลอดเลือดดำ ส่วนกลางที่ใช้ ระยะยาวภายหลังจำ หน่ายออกจากโรงพยาบาล 2 สัปดาห์ โดยใช้ทฤษฎีการพยาบาลของโอเร็มเป็นกรอบแนวคิด ในการศึกษา กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ดูแลเด็กใส่สายสวนหลอดเลือดดำ ส่วนกลางที่เข้ามารับการรักษาที่โรงพยาบาล รามาธิบดี ระหว่างเดือนพฤษภาคม 2546 ถึง เดือนพฤษภาคม 2547 การเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจงตาม คุณสมบัติที่กำ หนดคือ เป็นผู้ดูแลหลักและทำ แผลสายสวนหลอดเลือดดำ ส่วนกลางที่บ้าน ไม่มีประสบการณ์ การดูแลสายสวนหลอดเลือดดำ ส่วนกลางมาก่อน ยินดีเข้าร่วมการศึกษาโดยเซนต์ในใบยินยอมและสามารถ สื่อสารภาษาไทยได้ ส่วนเด็กที่เข้าร่วมในการศึกษาครั้งนี้ เป็นเด็กใส่สายสวนหลอดเลือดดำ ส่วนกลางครั้งแรกและ ไม่จำ กัดอายุ กลุ่มตัวอย่างผู้ดูแลทั้งหมด 30 คน แบ่งเป็นกลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลอง กลุ่มละ 15 คน โดยทั้งสอง กลุ่มได้รับการพยาบาลตามปกติ ส่วนกลุ่มทดลองได้รับการพยาบาลระบบสนับสนุนและให้ความรู้เพิ่มเติมโดยผู้ วิจัยพร้อมคู่มือ เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบบันทึกข้อมูลทั่วไปของผู้ดูแลและเด็กใส่สายสวนหลอดเลือดดำ ส่วนกลาง แบบสอบถามพฤติกรรมการดูแลเด็กใส่สายสวนหลอดเลือดดำ ส่วนกลางและแบบสอบถามการเกิด ภาวะแทรกซ้อนหลังจำ หน่ายออกจากโรงพยาบาลสองสัปดาห์ ทำ การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรม SPSS/FW ผลการศึกษาพบว่า ผู้ดูแลกลุ่มทดลองที่ได้รับการพยาบาลระบบสนับสนุนและให้ความรู้เพิ่มเติมจากการ พยาบาลตามปกติมีคะแนนพฤติกรรมการดูแลเด็กใส่สายสวนหลอดเลือดดำ ส่วนกลางสูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมี นัยสำ คัญทางสถิติ(p< .001) และการเกิดภาวะแทรกซ้อนเกี่ยวกับอาการแสดงเริ่มต้นของการติดเชื้อแผลสายสวน ในกลุ่มควบคุมมากกว่ากลุ่มทดลอง อย่างมีนัยสำ คัญทางสถิติ (p< .007) จากผลการศึกษาครั้งนี้สนับสนุนการนำ การพยาบาลระบบสนับสนุนและให้ความรู้มาประยุกต์ใช้เพื่อ ส่งเสริมพฤติกรรมการดูแลเด็กใส่สายสวนหลอดเลือดดำ ส่วนกลางของผู้ดูแลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดการ เกิดภาวะแทรกซ้อนที่เกี่ยวข้องกับการใส่สายสวนหลอดเลือดดำ ส่วนกลางในเด็ก

Mahidol University

Address: NAKHON PATHOM

Email: liwww@mahidol.ac.th

Name: Autchareeya Patoomwan

Role: Thesis Advisors

Created: 2005

Modified: 2553-06-10

Issued: 2010-04-05

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

ISBN: 9740459048

CallNumber: TH S697e 2005

eng

DegreeName: Master of Nursing Science

Level: Master's Degree

Descipline: Pediatric Nursing

Grantor: Mahidol University

©copyrights Mahidol University

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	4436608.pdf	862.79 KB	50	2025-01-09 00:23:39

ใช้เวลา

0.26944 วินาที